ซึ่งก็เต็มไปภาพยนตร์จากสตูดิโอฮอลลีวู้ดอย่าง “Inside Out 2“, “Kung Fu Panda 4“, “Moana 2“, “Transformers One“, “Ultraman: Rising” และ “The Wild Robot” รวมถึงภาพยนตร์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง “The Colors Within“, “Ghost Cat Anzu“, “The Imaginary“, “Look Back” และ “The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim”
หรือกระทั่งแอนิเมชันหลากสัญชาติอย่าง “Flow” จากลัตเวีย, “The Glassworker” จากปากีสถาน (ทั้งสองเรื่องนี้ ต่างเป็นตัวแทนประเทศลัตเวียและปากีสถาน ในสาขา ภาพยนตร์นานาชาติด้วย , “Mars Express” จากฝรั่งเศส และ “Memoir of a Snail” จากออสเตรเลีย
ส่วน สาขา ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ในปีนี้ ก็มี ภาพยนตร์สารคดีที่มีสิทธิเข้าชิงมากถึง 169 เรื่อง ก็มาพร้อมสารคดีตัวเต็งแบบ “Will & Harper” จาก Netflix, “Daughters” ของนาตาลี เร, “Dahomey” ของ มาติ ดีออป (ซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศเซเนกัลในสาขา ภาพยนตร์นานาชาติด้วย), “Black Box Diaries” ของ ชิโอริ อิโต้, “The Last of the Sea Women” ของ Apple TV+ และ “No Other Land” สารคดีจากปาเลสไตน์-อิสราเอล
และ สาขา ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ในปีนี้ก็มี 85 ประเทศส่งภาพยนตร์ตัวแทนเข้าชิงในสาขาดังกล่าว และก็มีภาพยนตร์สายแข็งอย่าง “The Seed of the Sacred Fig” จากเยอรมัน, “Emilia Pérez” จากฝรั่งเศส, “I’m Still Here” จากบราซิล, “The Girl with the Needle” จากเดนมาร์ก, “Kneecap” จากไอร์แลนด์, “Grand Tour” จากโปรตุเกส รวมถึงประเทศไทย ที่ปีนี้คัดเลือกส่ง “How to Make Millions Before Grandma Dies” หรือ “หลานม่า” เป็นตัวแทนชิงในสาขานี้