23 ธ.ค. 2024 เวลา 04:16 • สุขภาพ

5. # กินแบบ LCHF……อาหารมื้อแรกหลังเบรคฟาส ควรจะกินอะไรดี เพราะอะไร ?……..26/2/65

"เทคนิคการ break a fast สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าควรจะทานมื้อ แรกยังไงดี? โดยเฉพาะคนที่ต้องการจะลดไขมันให้ได้ผลเร็วๆ
จะขอ focusเฉพาะฮอร์โมนหลักๆ ที่มีผล คือ อินซูลินและฮอร์โมนเครียด (Cortisol)
....Cortisol เป็นอีกหนึ่งสาเหตุใหญ่ ที่ทำให้เรามีพุงสะสมไขมันบริเวณท้องด้านล่าง บางคนเรียกว่า #พุงหมาน้อย
แต่ถ้าเรามี Cortisol ในระดับที่พอเหมาะ และไม่มีฮอร์โมน insulin เข้ามาแทรกซ้อน คอร์ติซอลสามารถที่จะช่วยให้เราเผาผลาญไขมันได้
แต่ปัญหาคือ เวลาที่เรามีภาวะเครียดเรื้อรัง และพักผ่อนไม่เพียงพอ cortisol จะถูกกระตุ้นออกมาและสะสมเพิ่มจนสูงอยู่ตลอดเวลา
....แทนที่จะช่วยเราเผาผลาญไขมันก็กลายเป็นช่วยสะสมไขมันแทนซะเอง เพราะ cortisol ที่สะสมและสูงอยู่นานๆ จะไปกระตุ้นให้ lipoprotein lipase ออกมาทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานส่วนเกินให้กลายเป็นไขมันสะสมแทนในพุงหรือช่องท้องเรา โดยเฉพาะส่วนล่างๆ จะมีตัวรับส่งสัญญาณฮอร์โมนความเครียด (Cortisol Receptor) อยู่มากถึง 4 เท่า ซึ่งมากที่สุดในทุกส่วนของร่างกาย
และถ้าคุณกิน ผิดๆ กินไม่ถูก กินไม่เป็น ในขณะที่มีภาวะเครียดและวิตกกังวล ร่างกายจะเต็มไปด้วย high Cortisol + high Insulin ไขมันก้อยิ่งจะสะสมมากขึ้น
ดังนั้น อาหารส่วนใหญ่ที่คุณกินกว่า 90% จะถูกเก็บเป็นไขมันส่วนเกินที่พุงได้โดยตรง นี่คือสาเหตุที่ว่า #ทำไมยิ่งเครียดแล้วยิ่งอ้วน นั่นเอง
จากที่กล่าวมาก็จะเห็นได้ว่า ระดับของฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) มีความสำคัญเป็นอย่างมาก กับการลดน้ำหนักและไขมันหลังจากทำการ fasting เพราะในขณะที่เราฟาส cortisol จะถูกทำการกระตุ้นให้ออกมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ได้สูงนานๆ อยู่ตลอดเวลา แบบคนที่มีภาวะความเครียดเรื้อรัง
แต่ตอนที่เราฟาสเสร็จ และจะเริ่มทานมื้อแรกเพื่อเบรคฟาส ในช่วงเวลานี้เราคงไม่อยากจะให้ระดับ cortisol พุ่งสูงขึ้น และก็ไม่อยากจะกระตุ้น insulin ให้สูงขึ้นในมื้อแรกด้วยเช่นกัน เพราะทั้ง high cortisol + high insulin ไขมันจะยิ่งสะสม
...จึงขอแนะนำวิธีการลดระดับฮอร์โมนเครียด ว่าควรกินอะไรเป็นมื้อแรก หลังจากฟาสเสร็จนะครับ
1. อาหารหลักๆของมื้อแรกควรเป็น → Very low to No Carb + Balance Protein + High good healthy Fat
2. 1-2 ชม.หลังทาน ให้ผสมผงอบเชย (cinnamon) ในน้ำเปล่าแล้วดื่มหรือดื่มชาที่ผสมอบเชย เพราะอบเชยจะทำหน้าที่คล้าย insulin ไปทำให้เซลล์เปิดประตูเพื่อเอาน้ำตาลส่วนเกิน ที่ยังตกค้างสะสมอยู่ในกระแสเลือดเข้าไปเก็บในเซลล์ส่งผลให้ระดับ insulin ลดลงตามไปด้วย
3. ทานเกลือธรรมชาติเพิ่มผสมน้ำใน ชม. สุดท้ายของการฟาส เพราะ cortisol มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเกลือ ถ้าเราทานเกลือเพิ่มใน ชม.สุดท้ายของการฟาส ร่างกายเราจะหยุดกระบวนผลิตฮอร์โมน Aldosterone จากต่อมหมวกไต ส่งผลให้ระดับ cortisol ลดลงครับ
4. การทานคาร์บ แป้ง น้ำตาล ลื่นโปรตีน น้ำมันผ่านกรรมวิธี ไขมันทรานส์ แม้ในปริมาณเล็กน้อยในมือแรก ก็จะกระตุ้นระดับ Insulin และ Cortisol ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังสะสมยาวๆไปคลอดทั้งวัน เปรียบเทียบกับการทานเฉพาะโปรตีนและไขมันดี
อนึ่ง ในมื้อแรกถ้าเราทานอาหารที่มีแต่ปริมาณคาร์โบไฮเดรดสูงๆ นอกจากจะกระตุ้นอินซูลินออกมามาก แล้วยังจะส่งผลทำให้ Cortisol เพิ่มสูงขึ้นตามๆกันไปด้วย
ในบางคนที่ครบเวลาที่จะเบรคฟาสแล้ว แต่ยังไม่สะดวกนักที่จะทานอาหารมื้อหลัก อาจทานลืนโปรตีน ในปริมาณเล็กน้อยเป็นออเดริฟก่อนมื้อใหญ่ก็พอจะได้ (โดยเฉพาะคนที่ออกกำลังกายในตอนฟาส) ยังไงๆ ลีนโปรตีนก้อยังมีผลกระตุ้นอินซูลินได้น้อยเมื่อเทียบกับอาหารคาร์บมากมายในตอนเช้าๆ ที่รายล้อมอยู่ทั่วไปทุกแห่งหนครับ
ตัวอย่าง เมนูการทานมือเล็กๆ แบบหลังจากฟาสเสร็จและต้องรอประมาณอีก 1 ชม.กว่าๆค่อยกินมื้อใหญ่
- อกไก่สับ 100 gm.
- อาโวคาโดครึ่งลูก
- น้ำมันมะพร้าวหรือสลับกัน MCT Oil 1 ช้อนโต๊ะผสมในซุป bone broth 1 ถ้วยอุ่นๆโรยด้วยเกลือ ชมพูกะพริกไทยดำ
----------------------------------------------
HOUSE OF HORMONES
I → อินซูลิน................ฮอร์โมนตัวพ่อ King of Hormone
C → คอร์ติซอล..........ฮอร์โมนตัวแม่ Mother of Hormone
E→ เอสโตรเจน.. ฮอร์โมนพี่สาวคนโต (ตัวอิจฉาริษยาสุดๆ - นางมารลีมกโช้ว)
Gu → กลูคากอน..........ฮอร์โมนลูกชายคนโต ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกับตัวพ่อนัก
T → ไทรอยด์..............ฮอร์โมนลูกสาวคนกลาง หญิงweak อ่อนแอสุดๆ
Gh → โกร๊ธฮอร์โมน (วัยหนุ่ม) ฮอร์โมนลูกชายคนกลาง พอโตขึ้นจะเปลี่ยนชื่อเป็น IGF1
P → โปรเจสเตอโรน (วัยรุ่น).....ฮอร์โมนลูกแฝด (หญิง) ที่มักจะถูกกดขี่ ข่มเหง ริษยาจาก พี่สาวคนโตบ่อยๆ
Tt → เทสโทสเตอโรส (วัยรุ่น)...ฮอร์โมนลูกแฝด (ชาย)
A → อะดรีนาลีน (ยังเด็ก).........ฮอร์โมนลูกชายคนเล็กสุดท้อง มักจะมาพร้อมกับแม่เสมอ
ฮอร์โมนลูกเทพทั้ง 6 คือ => กลูคากอน ไทรอยด์ โกร๊ธฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน เทสโทสเตอโรน และอะดรีนาลีน
ครอบครัวพ่อแม่ลูกบ้านนี้ มักจะอยู่กันแบบไม่ค่อยจะมีความสุขนัก เนื่องจากอิทธิพลของ
1. อาหารการกิน *** เป็นสิ่งที่มีผลมากที่สุด
2. การนอน
3. ความคิด
4. การออกแรง-ออกกำลัง
มีผลทำให้.....
- ตัวพ่อกะตัวแม่จะชอบแย่งกันเป็นใหญ่ในบ้าน พ่ออาจจะเหนือกว่า แต่เมื่อถึงที่สุดแล้วตัว แม่จะชนะ
- ทั้งพ่อและแม่จะรักลูกสาวคนโตมาก จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมตลอดแทบทุกเรื่อง
- ลูกสาวคนโตจะอิจฉาริษยา-รังเกียจ-กลั่นแกล้ง-กดขี่ข่มเหง-รังแก น้องสาวทุกๆคน
- ตัวพ่อจะไม่ค่อยชอบลูกชายในบ้านทุกๆ คนนัก
- ลูกสาวคนกลาง T หญิงweak อ่อนแอสุดๆ ออกมาเฉพาะช่วงดึกๆ
- ลูกชายคนกลาง Gh มักจะหวาดระแวงกลัวตัวพ่อเอามากๆๆๆๆๆ
- ลูกสาวคนเล็ก(แฝดหญิง) P มักจะอ่อนแอ ขี้โรค-เจ็บป่วยแฝงอยู่บ่อยๆ จะขี้อายและเก็บตัว
- ลูกชายคนสุดท้อง A คนเล็กสุดจะออกไปไหนมาไหนพร้อมกับแม่เสมอ
- ตัวพ่อถือว่ามีอิทธิพลสูงสุดในบ้านแห่งนี้ เวลาที่พ่อออกมาคนในบ้านทุกๆคน ต้องหลบ หยุด หลีกหนี หาที่เก็บเนื้อเก็บตัวกันไปคนละทิศละทาง ตัวพ่อเป็นคนขี้เกียจ ชอบออกมาทํางานช่วงบ่ายๆที่ใกล้ๆ จะเย็นค่ำมากแล้ว โดยจะอยู่หน้างานจริงๆ ประมาณ 4-6 ชม. ก็จะกลับไปพักแล้ว
- ส่วนตัวแม่เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูงต่อการดูแลบ้าน โดยจะออกมาทำงานประมาณช่วงเช้ามืด แล้วกลับไปพักช่วงสายๆ ไม่เกินเที่ยง
- คราใดที่เกิดปัญหาขึ้นภายในบ้านแห่งนี้ ทั้งตัวพ่อและตัวแม่จะรีบเร่งที่จะออกมาช่วยกันดูแลจัดการแก้ปัญหา โดยที่ฮอร์โมนตัวลูกๆ ทั้งหมดจะต้องหยุดการทำงานและหลบเข้าที่พักกันไปโดยอัตโนมัติ..............
----------------------------------------------
DAILY FOOD CLOCK
• 6-7 AM - Cortisol rising
• 8-9 AM - Peak cortisol - WAIT
• 9 AM - Highest testosterone
• 10-11 AM - Optimal caffeine timing
• 10-12 AM - Highest insulin sensitivity
• 2-5 PM - Best physical performance - EAT
• 5-6 PM - Insulin sensitive again - NOW
• 6-7 PM - Highest blood pressure
• 9 PM - Melatonin secretion begins
• 10-11 PM - Insulin resistance - STOP
• 11-2 AM - Growth hormone - EATING
@SIIMLAND
----------------------------------------------
*** หลักการกินแบบ LCHF จะต้องกินให้ได้สารอาหารที่เข้มข้นครบถ้วนและพลังงานที่เพียงพอ จากอาหารในทุกๆ กลุ่มตาม...ชนิด (ประเภท)/ปริมาณ /และสัดส่วน ซึ่งได้กำหนดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ***
กลุ่มอาหารคาร์โบไฮเดรต [คาร์บ] ...Low quality great carb + High fiber non-starchy Plants
#ข้อแนะนำในการกินคาร์โบไฮเดรตร่วมในมื้ออาหารหลักต่างๆ
☞ อาหารมื้อแรกหลังเบรกฟาส ควรเริ่มภายหลัง 9.00-10.00น. ขึ้นไป เพราะในช่วงเวลาก่อน 9.00 น. ร่างกายจะมีน้ำตาลใน เลือดสูงจากกระบวนการ gluconeogenesis จากฤทธิ์ของฮอร์โมนคอร์ติซอลตามธรรมชาติอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่า Dawn Phenomenon อีกทั้งฮอร์โมนอินซูลิน ณ ช่วงเวลานี้ตับอ่อน จะสร้างออกมาได้ในปริมาณน้อย และยังประสิทธิภาพในการ ทำงานเก็บกักนำสารอาหารต่างๆเข้าสู่เซลล์ก้อไม่ดีนัก
ดังนั้น ในมื้อแรกหลังการเบรคฟาสจึงควรที่จะกินอาหารแบบ very low to No carb หรือเลือกกินได้แค่เพียงคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารสูง คือ พืชผักที่ไม่ต้องนับพลังงานรวมเป็นหลักเท่านั้น
☞ ส่วนผักหัว//แป้งเชิงซ้อน//และผลไม้ (บางอย่าง) ควรจะ เลือกทานตามปริมาณโควต้า net carb ต่อวัน แค่ในช่วง มื้อเย็นๆ ที่ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดต่ำลงแล้ว และยังจะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสร้างและหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ตามธรรมชาติออกมาในปริมาณพอเหมาะพอดี แต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง (มีความไว) ต่อการบริหารจัดการคาร์บและโปรตีนที่มีกรดอะมิโนทริฟโทเฟน เพื่อช่วยสร้างเมลาโทนินในการนอนหลับพักผ่อนยามค่ำ
----------------------------------------------
มีปัญหาเรื่องการนอนค่ะ และเคยฟังจากคุณหมอหลายท่าน แนะนำให้ออกกำลังกายช่วงเช้า เพื่อให้ใช้พลังงานไปในระหว่างวัน พอตกเย็นจะได้ง่วง แต่ก็ยังแก้ปัญหานั้นยังไม่ได้ตรงจุด อาจจะเกิดจากเพราะไปกระตุ้นคอร์ติซอลตามที่คุณหมอภทร บอกก็เป็นได้ เดี๋ยวจะลองปรับปรับปรุงดูค่ะ
ภทร พุทธายะ ตอบ.......
เหตุสำคัญมากอย่างนึงที่นอนยาก/หลับไม่มีคุณภาพ เพราะ #ฮอร์โมนอินซูลินตัวพ่อกับคอร์ติซอลตัวแม่ทะเลาะกัน (แต่ตัว พ่อจะเหนือกว่านะครับ) เนื่องมาจากเราบริหารจัดการวิถีชีวิต และการกิน-นอน-ออกกำลังไม่ค่อยจะถูก
- อินซูลินตัวพ่อเขาจะออกมาทำงานตามธรรมชาติเพื่อเก็บกักสารอาหารปิดสวิทต์ให้ร่างกายได้พักผ่อนนอนหลับ และซ่อมแซมตัวเองในช่วงเวลาบ่าย 4 ถึง 2-3 ทุ่มไม่เกิน 4 ทุ่ม
เราจึงต้องจัดอาหารการกินในแบบที่พ่อชอบๆ คือ ต้องมีคาร์บในรูปของผักหัวหรือ แป้งเชิงซ้อนในมื้อนี้ (มื้อเย็น) จะทำให้พ่อ(อินซูลิน)ว่องไว/ไม่ดื้อรั้น /ทำงานเก่งมีประสิทธิภาพ
แต่ๆๆ... ในช่วงเวลาอื่นๆ ของวัน โดยเฉพาะมื้อเช้า/มื้อแรกๆ ก้อจงอย่าไปแหย่กระตุ้นให้พ่อออกมา เรื่อยๆ บ่อยๆ พ่อจะโกรธกริ้วโมโห
นั่นคือเราต้องเลี่ยง/ตัด/งด/ลดคาร์บลงให้มากที่สุด จัดทางการกินแต่โปรตีน+ไขมันดี+ไฟเบอร์ เป็นหลัก เพราะถ้าไปแหย่ให้พ่อต้องออกมาผิดจากเวลาตามธรรมชาติ เขาจะงอน งอแง ขี้เกียจ โยเย ไม่ยอมจะทำงาน และจะแกล้งไปทำแต่เรื่องที่ไม่ดีแทน
...เช่น ไม่เอาพลังงานไปใช้แต่จะสะสมเป็นไขมัน จะก่อการอักเสบ และจะเกิดการสะสมปริมาณของอินซูลินเรื่อยๆ
ถ้ากินผิดๆมั่วๆ กินบ่อยๆแทบทั้งวัน พอถึงตอนกลางคืนอินซูลินตัวพ่อ ที่ถูกสะสมมามากๆ ทั้งวันมันจะคงค้างไม่ยอมสลายตัวไป แต่จะแผลงฤทธิ์ให้เรา หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี วิตกกังวล กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ต้องวนๆ เวียนๆ เที่ยวไปเยี่ยว หลับๆ ตื่นๆ หลับแค่ตื้นๆ หรือไม่หลับเลยจนเสียสุขภาพ
----------------------------------------------
มาดูทางตัวแม่คอร์ติซอลบ้าง ก้อดุดันพอๆ กับตัวพ่ออินซูลินนะตัวแม่ นี่หลักๆ ที่แม่ชอบคือ การนอน และสภาวะความสบาย ที่เกิดการผ่อน คลาย ยืดเส้น-สาย
ธรรมชาติของตัวแม่ เขาจะออกมาทำงานช่วงตี 3-5 แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับ ขึ้นจนสูงที่สุดตอน 8-9 โมงเช้า ซึ่งระหว่างนี้เขาจะปลุกให้เราตื่นขึ้นมา หลัง 9 โมงไปแล้วเขาก้อจะค่อยๆ สลายตัวไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเราเองไม่เข้าใจแม่ กลับไปทำเรื่องด้วยความไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กระตุ้น (เรียกร้อง) ให้แม่ยังคงค้างอยู่ หรือต้องออกมาเพิ่มเรื่อยๆ + สะสมทั้งวี่วัน เช่น กิน กาแฟที่มีคาเฟอีนมากๆ / ออกกำลังกายแบบกระตุ้นหรือกดดันร่างกาย หนักๆ เช่น HIIT SIT / ทํา IF อดอาหารแบบยาวๆ /
และสำคัญที่สุด คือ การกินผิดๆ ในช่วงมื้อแรก (เบรกฟาส) คือ กิน high bad carb ที่จะไปทำให้ตัวพ่อ (อินซูลิน) โมโหเกี้ยวกาด รีบร้อน/พุ่งออกมาอย่างเร็ว + แรงเพื่อจัดการเก็บพลังงานจากคาร์บ+ไขมันแปรรูป ที่มีความเป็น (พิษ)สูง เพื่อจัดการเก็บพลังงานจากคาร์บ เสมือนการพุ่งขึ้น-ลงแบบรถไฟเหาะตีลังกา เกิดอันตรายเสมือนสภาวะที่ระดับน้ำตาลต่ำลงแบบวูบวาบ จนสมองขาดพลังงาน/เครียด/ กดดัน
ฮอร์โมนตัวแม่คอร์ติซอลจะต้องออกมาช่วยเบรกตัวพ่ออินซูลิน (= พ่อแม่ทะเลาะกัน) โดยการสลายกล้ามเนื้อและไขมันที่สะสมไว้มา เป็นพลังงานชั่วคราว
ถ้าวันๆ เราทำแต่เรื่องผิดๆ แม้โดยไม่เจตนา หรือไม่รู้ก้อตาม ฮอร์โมน ตัวพ่อตัวแม่ถูกกระตุ้นให้ต้องเข้าๆ ออกๆ และยังเกิดการสะสมปริมาณ แทบตลอดทั้งวัน ทุกๆวัน และหลายๆ วันดังที่เล่ามา (แทนที่ว่าเขาควร จะออกมาทํางานตามหน้าที่ปรกติ ณ เวลาตามธรรมชาติของเขาเท่านั้น แล้วก้อสลายตัวไปตามปรกติ)
พอถึงช่วงกลางคืน ทั้งพ่อและแม่ที่มีปริมาณสะสมมาทั้งวัน ไม่ได้สลายตัวลดลงไปตามปรกติทีนี้แหละ
...มันก้อจะไปทะเลาะกันต่อภาค 2 ในเวลากลางคืน
เราอย่าหวังเลยว่าจะได้ พักผ่อนหลับนอนได้อย่างสงบ และฮอร์โมนตัวลูกๆ ทั้งหลาย เช่น GH กลูคากอนไทรอยด์ เทสโทสเตอโรน ฯ มันก้อย่อมจะออกมาทํางานไม่ได้ เพราะพ่อกะแม่มันยังทะเลาะกันไม่เลิกข้ามวันข้ามเชียวคืนอ่ะ คงพอจะเข้าใจกันบ้างแล้วนะ
เรื่องการกินๆๆๆๆๆ นี่สำคัญที่สุด → กินเป็น กินให้ถูก ฮอร์โมนต่างๆ เขาจะโอเคร ไม่มาทะเลาะกัน แล้วเราจึงจะมีสุขภาพที่ดีได้ครับ
----------------------------------------------
• 6-7 AM - Cortisol rising WAIT
• 8-9 AM - Peak cortisol
• 9 AM - Coffee time
• 10-11 AM - Coffee time
@DRJAMESDINIC
@SIIMLAND
*** หลักการกินแบบ LCHF จะต้องกินให้ได้สารอาหารที่เข้มข้นครบถ้วน และพลังงานที่เพียงพอ จากอาหารในทุกๆ กลุ่มตาม... ชนิด (ประเภท) /ปริมาณ /และสัดส่วน ซึ่งได้กำหนดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ***
กลุ่มอาหารคาร์โบไฮเดรต[คาร์บ] ...Low quality great carb + High fiber non-starchy Plants
ข้อแนะนำในการกินคาร์โบไฮเดรตร่วมในมื้ออาหารหลักต่างๆ
อาหารมื้อแรกหลังเบรกฟาส ควรเริ่มภายหลัง 9.00-10.00น. ขึ้นไป เพราะในช่วงเวลาก่อน 9.00 น. ร่างกายจะมีน้ำตาลใน เลือดสูงจากกระบวนการ gluconeogenesis จากฤทธิ์ของ ฮอร์โมนคอร์ติซอลตามธรรมชาติอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่า Dawn Phenomenonอีกทั้งฮอร์โมนอินซูลิน ณ ช่วงเวลานี้ตับอ่อน จะสร้างออกมาได้ในปริมาณน้อย และยังประสิทธิภาพในการ ทำงานเก็บกักนำสารอาหารต่างๆเข้าสู่เซลล์ก้อไม่ดีนัก
ดังนั้น ในมื้อแรกหลังการเบรคฟาสจึงควรที่จะกินอาหารแบบ very low to No carb หรือเลือกกินได้แค่เพียงคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารสูง คือ พืชผักที่ไม่ต้องนับพลังงานรวมเป็นหลักเท่านั้น
ส่วนผักหัว//แป้งเชิงซ้อน//และผลไม้(บางอย่าง) ควรจะ เลือกทานตามปริมาณโควต้า net carb ต่อวัน แค่ในช่วง มื้อเย็นๆที่ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดต่ำลงแล้ว และยังจะ เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสร้างและหลั่งฮอร์โมนอินซูลินตาม ธรรมชาติออกมาในปริมาณพอเหมาะพอดี แต่สามารถทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง(มีความไว) ต่อการบริหารจัดการ คาร์บและโปรตีนที่มีกรดอะมิโนทริฟโทเฟนเพื่อช่วยสร้างเมลา โทนินในการนอนหลับพักผ่อนยามค่ำ
----------------------------------------------
ไขมัน คือพลังงานเสถียร ที่ร่างกายมนุษย์ทุกยุค ทุกสมัยต้องการ
โฆษณา