5 พ.ค. เวลา 06:14 • สุขภาพ

ยินดีที่ได้รู้จัก ต้นกล้าดอกแก้ว

Volume ฉบับที่ 55 เดือนมกราคม 2568
Column Rama Update
Writer Name นันทิตา จุไรทัศนีย์
สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่าน @Rama ทุกท่านค่ะ Live and Learn Diary ฉบับนี้จะพาไปยินดีที่ได้รู้จักกับต้นกล้าดอกแก้ว พยาบาลวิชาชีพญาดา มีชูสิน อาจารย์พยาบาล สาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชน โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดีกันค่ะ
ต้นกล้าดอกแก้ว หรือชื่อเต็มคือ โครงการพัฒนาต้นกล้าดอกแก้ว เป็นโครงการพัฒนานักศึกษาพยาบาลเพื่อเป็นอาจารย์พยาบาล จะมีการเปิดรับสมัครนักศึกษาพยาบาลเข้าโครงการตั้งแต่ชั้นปีที่ 4 ค่ะ ซึ่งเราจะไปยินดีที่ได้รู้จักอาจารย์ญาดาหรืออาจารย์อ๋อมแอ๋ม ว่ามีแรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้ตัดสินใจเลือกเรียนต่อพยาบาล ชีวิตในการเรียนและการฝึกปฎิบัติเป็นอย่างไร ทำไมถึงสมัครเข้าโครงการพัฒนาต้นกล้าดอกแก้วเพื่อเป็นอาจารย์พยาบาล ติดตามกันได้เลยค่ะ
อาจารย์ญาดาเล่าให้ฟังว่า “หนูเลือกเรียนพยาบาลเพราะว่าได้รับแรงบันดาลใจจากคุณแม่ที่เป็นพยาบาลค่ะ คุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ วิชาชีพพยาบาลเป็นวิชาชีพที่มีเกียรติและมีความสําคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวิชาชีพอื่น ๆ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล เป็นวิชาชีพที่ได้นำความรู้ไปช่วยเหลือผู้อื่นและคนในครอบครัวได้ อีกทั้งพยาบาลยังเป็นวิชาชีพที่มีความต้องการสูงในปัจจุบัน เรียนจบแล้วมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เลือกเรียนพยาบาลค่ะ
ตลอด 4 ปีในการเรียน ช่วงเวลาเรียนที่รู้สึกว่าเหนื่อยและเครียดที่สุด น่าจะเป็นช่วงปี 2 ขึ้นปี 3 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 เริ่มมีการแพร่ระบาด ทำให้การเรียนการสอนมีการปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบออนไลน์ และเป็นช่วงที่ได้เรียนวิชาเฉพาะทางซึ่งมีเนื้อหาอัดแน่น ทำให้ต้องปรับตัวอย่างมาก แต่ตอนนั้นผ่านมาได้เพราะได้กําลังใจจากครอบครัวและเพื่อน ๆ
พอมาถึงเวลาที่ต้องฝึกปฏิบัติบนวอร์ด (หอผู้ป่วย) หรือออกฝึกปฏิบัติในชุมชน เป็นช่วงเวลาที่ต้องนำเอาความรู้ที่ได้เรียนมาไปช่วยเหลือผู้ป่วย ทําให้พวกเขามีอาการดีขึ้นจากโรคที่เผชิญอยู่ ถึงแม้ว่าตอนนั้นอาจจะรู้สึกเหนื่อย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา เช่น รอยยิ้มจากผู้ป่วยหรือจากญาติของผู้ป่วย ทําให้มีความสุขและรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเรียนพยาบาลค่ะ”
ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดนั้น อาจารย์อ๋อมแอ๋มกำลังเรียนชั้นปีที่ 3 ทำให้การเรียนการสอนมีการปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบ online ทุกคนต้องปรับตัวกับการเรียนท่ามกลางโรคระบาดครั้งใหญ่ “ทุกคนต้องปรับตัวกับการเรียนค่ะ เพื่อน ๆ บางคนยังคงปรับตัวไม่ได้ สอบไม่ผ่านกันหลายคน รวมถึงเพื่อน ๆ ในกลุ่มของหนูด้วย เวลาที่สอบไม่ผ่านเพื่อน ๆ จะขอให้ช่วยติวให้ก่อนการสอบซ่อม ทำให้มีโอกาสได้สอนเพื่อน ๆ ในหลาย ๆ วิชา
เพื่อน ๆ บอกว่า “อ๋อมสอนเข้าใจง่าย ทำให้เข้าใจมากขึ้น” และหลังจากที่เพื่อน ๆ ได้สอบซ่อมและประกาศคะแนนออกมาแล้ว เพื่อนได้ทักมาบอกหนูทางไลน์ว่า “เราสอบผ่านแล้วนะ ขอบคุณมาก ๆ ที่ช่วยติวให้ในวันนั้น” ทำให้หนูรู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยให้เพื่อน ๆ สอบผ่าน เลยทำให้อยากมาเป็นอาจารย์พยาบาลเพื่อสอนน้อง ๆ ในรุ่นต่อ ๆ ไปค่ะ”
อาจารย์พยาบาลมีการสอนในหลายสาขาวิชา แต่อาจารย์ญาดาเลือกสอนสาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชน
“ในสาขาอื่น ๆ เวลาผู้ป่วยมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำต่าง ๆ ในการปฏิบัติตัวจากพยาบาลก่อนกลับบ้าน แต่เมื่ออยู่ที่บ้านเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวตามที่เราให้คำแนะนำไปได้หรือไม่ แต่ในวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชนทั้งตอนที่เรียนและทำงาน
การลงชุมชนทำให้เราได้เห็นสภาพความเป็นอยู่จริง ๆ ของผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าผู้ป่วยหลาย ๆ คนไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและปฏิบัติตัวตามที่ได้รับคําแนะนํามา เพราะมีหลาย ๆ ปัจจัยมาเกี่ยวข้อง ทั้งเศรษฐานะ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย
การได้ลงไปเห็นสภาพแวดล้อมจริงทำให้พยาบาลสามารถให้คำแนะนำที่ปรับให้เหมาะสมกับบริบทของผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ในผู้ป่วยบางคนที่ต้องมีผู้ดูแล (Caregiver) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่เราต้องให้คำแนะนำและช่วยเหลืออีกเช่นกัน ทำให้รู้สึกว่าเราได้ดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมจริง ๆ เลยเลือกที่จะมาอยู่ในสาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชนค่ะ”
อาจารย์ญาดาวาดภาพตัวเองในอนาคตไว้ว่า “อยากเห็นภาพตัวเองเป็นอาจารย์พยาบาลที่มุ่งมั่นและทุ่มเทในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ทางการพยาบาลให้กับนักศึกษารุ่นใหม่ ๆ ด้วยความรักในวิชาชีพและความตั้งใจที่จะพัฒนาให้พวกเขามีทักษะและความสามารถที่จะดูแลผู้ป่วยได้อย่างดีที่สุด มองเห็นตัวเองในห้องเรียนหรือการพานักศึกษาลงชุมชน สอนนักศึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการจัดทําโครงการวิจัยและการทํางานร่วมกับทีมพยาบาลอื่น ๆ เพื่อพัฒนาการดูแลผู้ป่วยให้ยิ่งดีขึ้นค่ะ”
อาจารย์ญาดาฝากถึงน้อง ๆ นักศึกษาพยาบาลที่กำลังศึกษาอยู่และมีความสนใจที่จะพัฒนาตนเองเพื่อเป็นอาจารย์พยาบาลในโครงการพัฒนาต้นกล้าดอกแก้วค่ะ
“จะมีการเปิดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เข้าโครงการพัฒนาต้นกล้าดอกแก้วเพื่อพัฒนาเป็นอาจารย์พยาบาล โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้สมัครรับทุน ดังนี้
1. เป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ของโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ปีละ 10 ทุน
2. มีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสมจนถึงวันสมัครตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป
3. มีผลการสอบภาษาอังกฤษตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดลเรื่องมาตรฐานความรู้ภาษาอังกฤษของนักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหิดล ดังนี้
• MU-ELT ที่ระดับคะแนนตั้งแต่ 84 คะแนนขึ้นไปหรือ
• TOEIC ที่ระดับคะแนนตั้งแต่ 600 คะแนนขึ้นไปหรือ
• TOEFL IBT ที่ระดับคะแนนตั้งแต่ 64 คะแนนขึ้นไปหรือ
• IELTS ที่ระดับคะแนนตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป
ทั้งนี้ หากมีผลการสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดลเรื่องมาตรฐานความรู้ภาษาอังกฤษของนักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการประจําโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดีเป็นผู้พิจารณา
4. เป็นผู้มีความประพฤติดีมีจิตอาสา
หลังจากนั้นจะมีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ เพื่อสัมภาษณ์อีกครั้งก่อนที่จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าโครงการพัฒนาต้นกล้าดอกแก้วค่ะ
หลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ เรารู้สึกได้ถึงพลังบวกจากอาจารย์อ๋อมแอ๋มกลับมา เราเห็นภาพอาจารย์พยาบาลรุ่นใหม่ที่ถ่ายทอดความรู้ ความสามารถให้กับน้อง ๆ นักศึกษาพยาบาลเพื่อเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ดีในอนาคต เป็นเรื่องดี ๆ ที่สวยงามเหมาะกับช่วงเวลาปีใหม่นี้ค่ะ
ฉบับหน้า Live and Learn Diary: ยินดีที่ได้รู้จัก จะพาไปรู้จักกับใคร ทำอะไร ที่ไหน รอติดตามกันได้
สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่านอีกครั้งค่ะ
ขอขอบคุณ
พยาบาลวิชาชีพญาดา มีชูสิน อาจารย์พยาบาล สาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชน โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี
โฆษณา