3 ก.พ. เวลา 12:00 • ธุรกิจ

อยากให้ ‘เด็กสมบูรณ์’ อยู่อีก 200 ปี กางแผน ‘ท็อป-วสุพล’ บุก TikTok ไปจนถึงซีอิ๊วเม็ด

“มีคนสบประมาทเราว่า เด็กรุ่นใหม่มาบริหาร เด็กอมมือรึเปล่า พ่อแม่ทำมาดีๆ ลูกทำก็ปัง ปังปินาศ ครอบครัวก็บอกว่า ถ้าคนคอมเมนต์ได้ ด่าได้ แปลว่า เขารู้จักเราแล้วแหละ เป็นอีกจุดที่ต้องรับมือและระวังมากขึ้น”
หลังจากหันมาทำการตลาดผ่าน TikTok จนโด่งดังเป็นไวรัลภายในชั่วข้ามคืน “วสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์” ทายาทรุ่นที่ 3 อาณาจักรเด็กสมบูรณ์ ต้องเจอกับความท้าทายบนโลกโซเชียลหลายทิศทาง แรกๆ ก็มีเสียงชื่นชมถึงความสดใหม่ในฐานะทายาทธุรกิจอายุเกือบร้อยปี ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ท่ามกลางสปอตไลต์ดวงใหญ่ไปพร้อมกัน
กระแสดราม่ากินน้ำจิ้มซีฟู้ดไม่โดนปากสร้างบทสนทนาบนโลกโซเชียลหลากหลายแพลตฟอร์ม บ้างก็บอกว่า ไม่จริงใจกับผู้บริโภค หนักเข้าก็มีคำสบประมาทบอกว่า ธุรกิจจะพังทลายลงก็เพราะรุ่นลูก “วสุพล” บอกว่า ตนเป็นเพียงเด็กรุ่นใหม่ที่ตั้งใจทำงาน มีแพชชัน และมีมุมมองที่ต่างจากกรอบคิดเดิมๆ เขายอมรับว่า แรกๆ ที่เจอดราม่าก็ส่งผลต่อใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ได้คาดคิดว่า จำนวนผู้ติดตามจะส่งผลกับการใช้ชีวิตหรือไม่อย่างไร
“ที่ผ่านมาอาจจะเคยเห็นดราม่าของผม เช่น กินน้ำจิ้มซีฟู้ด มีหลายคอมเมนต์ในเชิงสบประมาทว่า เด็กรุ่นใหม่มาบริหาร เด็กอมมือรึเปล่า มาบริหารแบบนี้ที่พ่อแม่ทำมาพังหมดเพราะมึง มีแม้กระทั่งส่งข้อความหลังไมค์มาบอกว่า พ่อแม่ทำมาดีๆ มึงมาทำก็ปัง ปังปินาศหมด เราก็พยายามอธิบาย ยึดมั่นในสิ่งที่ทำ ครอบครัวเห็นก็บอกว่า ถ้าคนคอมเมนต์ได้ ด่าได้ ก็แปลว่า เขารู้จักเราแล้วแหละ ก็รู้สึกว่า เป็นอีกจุดที่ต้องรับมือให้ได้ ทำอะไรต้องระวังมากขึ้น”
ทายาทรุ่นที่ 3 คนนี้บอกว่า หน้าฉากอาจจะเห็นว่า คอนเทนต์ดังเปรี้ยงภายในพริบตา แต่กว่าจะออกมาเป็นผลลัพธ์เชิงประจักษ์ทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตนลงมือทำทุกอย่างเองตั้งแต่เขียนสคริปต์ไปจนถึงเช็กเทป
นอกจากคอนเทนต์ในช่อง TikTok เขายังเป็นคนนำเสนอ “พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” เพื่อให้บอร์ดบริหารอนุมัติในฐานะพรีเซนเตอร์เด็กสมบูรณ์คนใหม่ล่าสุด เพราะแม้จะอยู่ในฐานะลูกชายคนโตเจ้าของบริษัท แต่หมวกอีกใบก็ยังเป็นคนทำงานที่จะคิดจะทำอะไรต้องผ่านการอนุมัติจากบอร์ดบริหารอยู่ดี โดยเฉพาะการ “ปรับใหญ่” ที่ต้องผ่านการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลมาแล้วนับไม่ถ้วน
โฆษณา