“สี่แผ่นดิน” กับเกล็ดทางประวัติศาสตร์ (2 : เปิบพิสดาร)
ในประเด็นนี้ผู้เขียนมีความคิดว่าเป็นเรื่องน่าตลกขบขันและควรจะนำมาเสนอแก่ท่านผู้อ่านว่าด้วยเรื่องของการเปิบพิสดารของชาววัง ซึ่งหากเราลองมองดูจากในนวนิยายเรื่องสี่แผ่นดินจะพบในตอนหนึ่งที่แม่พลอยและช้อยแนะนำด้วงมะพร้าวมาเลี้ยงอยู่ในลำอ้อยจนตัวโตใหญ่แล้วสุดท้ายด้วงเหล่านั้นก็ถูกนำไปทำเมนูแสนอร่อย ดังตอนหนึ่งที่ว่า
“ ครั้งหนึ่งช้อยหายไปข้างนอกตำหนักกลับมาหอบอ้อยที่ตัดเป็นท่อนสั้น ๆมาหลายท่อน ช้อยเรียกพลอยมาดู และแบ่งท่อนอ้อยสั้น ๆนั้นให้ครึ่งจำนวนแล้วบอกให้ช่วยกันเลี้ยงพร้อมทั้งอธิบายว่า ในท่อนอ้อยนั้นมีตัวด้วงมะพร้าวซึ่งช้อยไปรับอาสาคนที่ห้องเครื่องต้นว่าจะมาเลี้ยงให้จนครบกำหนด เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องการด้วงมะพร้าวเหล่านี้ไปทอดตั้งเครื่องก็จะนำไปคืน ช้อยบอกให้พลอยเอาอ้อยฟังที่หูพลอยก็ทำตามได้ยินเสียงตัวด้วงกัดกินอ้อยอยู่ข้างในถนัด
ช้อยและพลอยเป็นห่วงใยด้วงเหล่านั้นเป็นวรรคเป็นเวร แม้เวลานอนก็เอาไปวางข้างหมอนเพื่อฟังเสียงด้วงกัดอ้อยจนหลับไปกับที่
พอครบกำหนดที่จะต้องส่งคืนที่ห้องเครื่อง ทั้งช้อยและพลอยก็หอบอ้อยไปช้อยถึงกับร้องไห้ด้วยความอาลัยด้วงที่จะต้องตายในเวลาอันเร็ว พอไปถึงห้องเครื่องพลอยก็เห็นเขาผ่าอ้อยเอาตัวด้วงซึ่งอ้วนกว่าหัวแม่มือและสีขาว เอาลงใส่อ่างซึ่งเต็มไปด้วยหัวกะทิ ปล่อยให้ด้วงกินกะทิต่อไปอีก แต่ช้อยก็ยังไม่ยอมกลับต้องนั่งรอจนเขาจับตัวด้วงเป็น ๆ นั้นลงทอดในกระทะน้ำมันร้อน ๆ จนตัวด้วงนั้นเหยียดยาวออกไป แล้วก็เอาขึ้นมาหั่นเป็นแว่น ๆ พร้อมที่จะจิ้มน้ำจิ้ม
ช้อยจึงกลับระหว่างทางที่เดินทางกลับช้อยก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนคนที่รู้จักเห็นเข้าถามว่าใครตาย ”
สี่แผ่นดิน หน้าที่ 80-81 ฉบับสำนักพิมพ์ NANMEEEBOOKS
ซึ่งเมนูด้วงมะพร้าวทอดนั้นไม่เพียงแต่เป็นส่วนเล็ก ๆ น่าขบขันในนวนิยายหากแต่มีเข้าโครงเรื่องจริง ซึ่งตามทัศนะของผู้เขียนคิดว่าสาเหตุที่คุณชายคึกฤทธิ์ได้นำเมนูด้วงมะพร้าวทอดมานำเสนออยู่ในสี่แผ่นดินก็มีเหตุเนื่องมาจาก “พระองค์เจ้าคำรบ”
พระองค์เจ้าคำรบ
นายพลตำรวจเอก นายพลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าคำรบ ประสูติเมื่อ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2414 - 7 สิงหาคม พ.ศ. 2482) เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนวรจักรธรานุภาพ กับหม่อมราชวงศ์ดวงใจ ปราโมช
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ เป็นทหารบก ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการกองทหารปืนใหญ่ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2444 ผู้บัญชาการกองพลที่ 7 มณฑลพิษณุโลก หลังจากนั้นทรงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพกองทัพน้อยที่ 2 (ปัจจุบันคือ กองทัพภาคที่ 3) ระหว่าง พ.ศ. 2454 - 2457 ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ จากนั้นทรงย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจภูธร เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2457 และกรมตำรวจ ระหว่าง พ.ศ. 2458 - 2472
ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีบทบาทในการปรับปรุงกิจการตำรวจ โดยทรงดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ พระองค์แรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2458
นายพลตำรวจเอก นายพลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2482 สิริพระชันษา 67 ปี 277 วัน
ทั้งนี้ความเกี่ยวเนื่องกันระหว่าง “พระองค์เจ้าคำรบ” และ “ด้วงมะพร้าว ” นั้นผู้ที่ได้ให้ข้อมูลในเชิงประวัติศาสตร์บอกเล่าคือ ผศ. ดร.ประพจน์ อัศววิรุฬหการ คณบดีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องในงานปาฐกถา เสาหลักของแผ่นดิน ชุดสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่องสาสน์สมเด็จ ในวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
" อย่างที่คุณคึกฤทธิ์เคยเล่า เคยได้ยินคุณคึกฤทธิ์เล่ารึเปล่าครับ ท่านพ่อคุณคึกฤทธิ์เนี่ย ตอนหลังเป็นพระองค์เจ้าคำรบ พระองค์เจ้าคำรบเนี่ยโปรดที่จะเสวยด้วงมะพร้าวทอด มันเป็นด้วงอย่างอื่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ มันเป็นด้วงอย่างหนึ่งหละ อาจจะไม่ใช่ด้วงมะพร้าวก็ได้
มันก็มีอยู่วันหนึ่งหละ เราก็เห็นพระเป็นไปรษณีย์อะ ทุกคนเนี่ยใช้พระเป็นไปรษณีย์ทั้งนั้นแหละ แต่จะอยากกินอะไรก็สั่งไว้ตั้งแต่ยังไม่ตาย ช่วยทำไปถวายพระด้วยนะฉันจะได้กินต่อไป ไป ๆ มา ๆ พวกเรายังไม่ตายเราก็ทำไว้เหมือนกัน พระก็เหมือนกับตู้กับข้าวอะ ไปฝากไว้ก่อน ท่านก็ทำไปถวายสมเด็จพระสังฆราชเจ้า (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์)
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าท่านก็รับสั่งถามว่า “ไอ้เนี่ยอะไร” คุณคึกฤทธิ์ท่านก็ช่างบรรยายจะตายไป “ก็เอาด้วงมาเนี่ยนะ แล้วก็มาเลี้ยงในอ้อย กินจนกระทั่งแบบอ้วนดี แล้วก็เอาไปแช่ในน้ำกะทิให้มันขึ้นอืดตายแล้วก็เอาไปทอด แล้วหั่นเป็นแว่น ๆ” สมเด็จพระสังฆราชท่านพูดดีนะ ท่านบอกว่า "วันนี้ไปรษณีย์ปิด" "
ดังนั้นจากข้อมูลข้างต้นก็ทำให้เราเข้าใจได้ทีเดียวเลยว่า เหตุเนื่องมาจากพระองค์เจ้าคำรบโปรดการเสวยด้วงมะพร้าวทอดจึงทำให้ ตำรับแปลกเปิบพิสดารนี่เองได้ถูกบันทึกอยู่ใน “สี่แผ่นดิน” วรรณกรรมสะท้อนยุคสมัยและให้แง่มุมในเชิงเกร็ดประวัติศาสตร์ซึ่งผู้เขียนได้นำมาเสนอไว้ในโอกาสนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
