[ด.ดล Blog] เกิดอะไรขึ้นกับ Skype? จากมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ สู่การเป็นแค่แอปในเงา Teams จำเสียง “ตึ๊ง ตึ๊ง” ของ Skype ได้ไหม? เสียงที่เคยดังอยู่ในชีวิตประจำวันของเราเมื่อสิบกว่าปีก่อน ถึงตอนนี้อาจจะไม่ค่อยได้

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

17 ก.พ. เวลา 04:50 • ธุรกิจ

เกิดอะไรขึ้นกับ Skype? จากมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ สู่การเป็นแค่แอปในเงา Teams

จำเสียง “ตึ๊ง ตึ๊ง” ของ Skype ได้ไหม? เสียงที่เคยดังอยู่ในชีวิตประจำวันของเราเมื่อสิบกว่าปีก่อน ถึงตอนนี้อาจจะไม่ค่อยได้ยินแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้ยิน มันทำให้หวนนึกถึงยุคที่การโทรต่างประเทศเริ่มเป็นเรื่องง่าย

เรื่องราวของ Skype เริ่มต้นที่ประเทศเล็กๆ อย่างเอสโตเนีย หลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลายได้ไม่นาน มีกลุ่มเพื่อนที่เป็นโปรแกรมเมอร์จำนวน 4 คน ร่วมมือกับนักธุรกิจชาวสแกนดิเนเวีย 2 คน คิดจะเปลี่ยนวิธีการสื่อสารของผู้คนทั่วโลก

ทีมผู้ก่อตั้งประกอบด้วย Niklas Zennström, Janus Friis และเพื่อนนักพัฒนาชาวเอสโตเนียอีก 4 คน คือ Jaan Tallinn, Priit Kasesalu, Toivo Annus และ Ahti Heinla พวกเขาใช้เวลาแค่ 9 เดือนในการพัฒนา Skype เวอร์ชันแรก

สิ่งที่น่าสนใจคือไม่มีใครในทีมมีความรู้เรื่องโทรคมนาคมเลย แต่กลับกลายเป็นข้อดี เพราะทำให้พวกเขาคิดนอกกรอบ และสร้างสิ่งที่แตกต่างจากระบบโทรศัพท์แบบเดิมๆ

ทีมงานเอาประสบการณ์จากการทำ Kazaa ซึ่งเป็นโปรแกรมแชร์ไฟล์ที่ดังมากในตอนนั้น มาใช้พัฒนา Skype ชื่อ Skype มาจากคำว่า “Sky peer-to-peer” สื่อถึงการสื่อสารที่ไร้ขีดจำกัดเหมือนท้องฟ้า

Skype เปิดตัววันแรกก็ทำให้ทุกคนตะลึง มีคนดาวน์โหลดถึง 10,000 ครั้งในวันเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับปี 2003 ที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายเท่าทุกวันนี้

ภายในปี 2005 Skype มีผู้ใช้งานถึง 59 ล้านคน และถูกดาวน์โหลดมากกว่า 182 ล้านครั้ง ความสำเร็จนี้ทำให้ eBay สนใจ และตัดสินใจซื้อ Skype ด้วยเงิน 2.6 พันล้านดอลลาร์

Meg Whitman ซีอีโอของ eBay ในตอนนั้นมองว่า Skype จะช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายบน eBay สื่อสารกันได้ง่ายขึ้น แต่แผนนี้ไม่เวิร์ก เพราะคนใช้ Skype กับ eBay แยกจากกันโดยสิ้นเชิง

ในปี 2009 eBay ขาย Skype ให้กับ Silver Lake ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุน ในราคา 2.75 พันล้านดอลลาร์ ช่วงนี้ Skype เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีผู้ใช้เกือบ 500 ล้านคน

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2011 เมื่อ Microsoft ซื้อ Skype ด้วยเงิน 8.5 พันล้านดอลลาร์ Steve Ballmer ซีอีโอ Microsoft ตั้งเป้าจะผนวก Skype เข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Xbox และ Outlook

แม้ Microsoft จะทุ่มทรัพยากรมหาศาลให้ Skype แต่สถานการณ์กลับเปลี่ยนไป WhatsApp เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะใช้งานง่ายกว่า จนมีผู้ใช้ถึง 2 พันล้านคนในปี 2020

Microsoft เองก็เปิดตัว Teams ในปี 2016 เพื่อแข่งกับ Slack แม้จะบอกว่า Teams และ Skype มีกลุ่มเป้าหมายต่างกัน แต่สุดท้าย Teams ก็แย่งผู้ใช้ไปจาก Skype

จุดพลิกผันคือช่วงโควิด-19 ในปี 2020 เมื่อทุกคนต้องทำงานที่บ้าน แทนที่จะใช้ Skype คนส่วนใหญ่กลับเลือก Zoom และ Teams เพราะใช้งานง่ายกว่าและตอบโจทย์การทำงานมากกว่า

ตอนนี้ Skype เหลือผู้ใช้ประจำวันแค่ 36 ล้านคน ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับในอดีต แต่ Microsoft ก็ยังพยายามพัฒนาต่อ เช่น เพิ่มฟีเจอร์ AI chatbot จาก Bing

ผู้ก่อตั้ง Skype แต่ละคนก็ไปสร้างความสำเร็จในด้านอื่น Ahti Heinla ทำบริษัทหุ่นยนต์ส่งของ Niklas Zennström บริหารบริษัทลงทุน ส่วน Jaan Tallinn หันไปศึกษาเรื่องความปลอดภัยของ AI

เรื่องของ Skype สอนให้รู้ว่า แม้จะเป็นผู้นำตลาดและมีเงินทุนมหาศาล แต่ถ้าไม่ปรับตัวให้ทันคู่แข่งและความต้องการของผู้ใช้ ก็อาจจะตกจากบัลลังก์ได้

แต่ถึงอย่างไร Skype ก็ประสบความสำเร็จในการทำให้การสื่อสารทางไกลเป็นเรื่องง่ายและประหยัด เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนติดต่อกันไปตลอดกาล นี่คือมรดกที่แท้จริงที่ Skype ทิ้งไว้ให้กับโลกใบนี้

◤━━━━━━━━━━━━━━━◥

หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'

หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'

คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม

◣━━━━━━━━━━━━━━━◢

The original article appeared here https://www.tharadhol.com/what-happened-to-skype/

ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog

คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA

รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด

คลิกเลย --> https://www.blockdit.com/articles/5cda56f1e5eac0101e278c73

——————————————–

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่