Elon Musk เซฟ Tesla อย่างไร? บริษัทที่เกือบล้มละลาย 3 ครั้ง แต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ใครจะเชื่อว่าโลกของเราจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ จากที่เคยเห็นแต่รถน้ำมันวิ่งกันเกลื่อนถนน วันนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว และบริษัทที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ Tesla
แต่เส้นทางของ Tesla ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ Elon Musk เคยบอกว่าตอนเริ่มต้น Tesla กับ SolarCity เขาคิดว่าทั้งสองบริษัทจะไม่รอดแน่ ๆ โดยเฉพาะ Tesla ที่มีโอกาสรอดแค่ 10% เท่านั้น
ย้อนกลับไปปี 2003 ที่ Silicon Valley มีวิศวกรสองคนคือ Martin Eberhard และ Marc Tarpenning ปลุกปั้น Tesla ขึ้นมา พวกเขาตั้งชื่อบริษัทตามนักประดิษฐ์ระดับตำนาน Nikola Tesla โดยใช้ชื่อว่า Tesla Motors
Tesla รอดมาได้อย่างหวุดหวิดในปี 2008 แต่ก็ยังต้องการเงินเพิ่ม จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2009 เมื่อ Daimler ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันได้เข้ามาลงทุน 15 ล้านดอลลาร์โดยถือหุ้น 10% Daimler กับ Tesla ร่วมชายคากันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ บริษัทยังได้เงินกู้ 465 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสะอาด
ปีถัดมา Tesla เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ราคาหุ้นละ 17 ดอลลาร์ แม้จะมีปัญหากับ Roadster แต่ Tesla ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถเทพและเร็วได้ในคันเดียวกัน แต่ราคาที่แพงกว่า 100,000 ดอลลาร์ทำให้คนทั่วไปได้แต่ชายตามอง
1
ปี 2012 Tesla สร้างความฮือฮาให้วงการด้วยการเปิดตัว Model S รถซีดานที่วิ่งได้ไกลกว่า 300 ไมล์ต่อการชาร์จ และราคาถูกกว่า Roadster แม้จะยังแพงอยู่ดี Model S ทำให้ชื่อเสียงของ Tesla ดังกระฉูดไปทั่วโลก
แต่ปัญหาของ Tesla ยังไม่จบ บริษัทเกือบล้มอีกครั้งในปี 2013 ลูกค้าที่วางมัดจำ Model S ไว้ 5,000 ดอลลาร์เริ่มลังเลใจที่จะซื้อ มีคนบ่นเรื่องภายในรถ ปัญหาจุกจิก รุ่นแรกๆ ไม่มีเซ็นเซอร์จอดรถและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ควรมีในรถหรู และกังวลว่าราคาขายต่อจะลดฮวบ
Elon จัดหนักด้วยการเปลี่ยนพนักงาน Tesla ทุกคนให้เป็นพนักงานขาย พวกเขาโทรหาทุกคนที่วางมัดจำเพื่อโน้มน้าวใจ เขายังได้ติดต่อไปที่ Larry Page ซีอีโอของ Google ให้ช่วยซื้อ Tesla ถ้าเกิดอะไรขึ้น และปิดโรงงานเงียบๆ เมื่อออร์เดอร์น้อย โดยอ้างว่าปิดซ่อมบำรุง
กลยุทธ์นี้เริ่มเข้ารูปเข้ารอย วันที่ 8 พฤษภาคม 2013 Tesla ทำให้ Wall Street ตะลึงด้วยการทำกำไรครั้งแรกในฐานะบริษัทมหาชน ได้กำไร 11 ล้านดอลลาร์จากยอดขาย 562 ล้านดอลลาร์ หลังส่งมอบ Model S 4,900 คันในไตรมาสแรก