20 ก.พ. เวลา 08:27 • ศิลปะ & ออกแบบ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

"ว่าด้วยรูปเข็มหมุดที่กลัดติดบนผืนผ้าที่ทออยู่บนกี่"

รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสือ “มรดกพื้นถิ่น ผ้าซิ่นโบราณเมืองน่าน” ที่ข้าพเจ้าได้เขียนนั้น มีรูปภาพหน้าหนึ่ง (หน้า 69) เป็นรูปภาพที่ได้แสดงให้เห็นถึงการทอตกแต่งลวดลายด้วย “วิธีมุก” ซึ่งเป็นวิธีเพิ่มเส้นพุ่งพิเศษแบบต่อเนื่องโดยอาศัย “ไม้หลาบ” หรือ “ไม้ดาบ” ในการแยกเส้นยืนออกเป็น 2 ส่วน เพื่อสอดเส้นพุ่งพิเศษเข้าไปตามลวดลายที่ต้องการ
ในรูปภาพนี้ (หน้า 69) ข้าพเจ้าตั้งใจจะใช้รูปผ้าทอขณะที่ทออยู่บนกี่ทอโดยมีเข็มหมุด 1 ตัว กลัดติดอยู่บนผืนผ้า ซึ่งเข็มหมุดตัวนี้เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในการต่อเส้นยืนมื่อเกิดปัญหาเส้นยืนเส้นใดเส้นหนึ่งขาด
เส้นยืนที่ขึ้นอยู่บนกี่ทอผ้าจะขาดได้ด้วยสาเหตุหลายประการเช่น การขึงเส้นยืนบนกี่ทอที่ตึงเกินไป การกระทบฟืม (ไม้จะขัด) แรงเกินไป การใช้เส้นพุ่งขนาดใหญ่เกินไป จำนวนเส้นยืนที่ขึ้นอยู่บนกี่ทอน้อยเกินไป รวมไปถึงคุณภาพของเส้นยืนที่ใช้ ฯลฯ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นยืนขาดได้ในขณะทอ
เมื่อเส้นยืนเส้นใดเส้นหนึ่งบนกี่ทอขาด ช่างทอจะใช้ “วิธีการต่อเส้นยืน” ที่หลากหลายตามแต่ความถนัดของตน วิธีหนึ่งที่นิยมก็คือการใช้เข็มหมุดยึดและต่อเส้นยืนไว้
เข็มหมุดที่กลัดติดผืนผ้าที่ทออยู่บนกี่
กล่าวคือ เมื่อเส้นยืนขาดออกจากกันบนกี่ทอ ช่างทอไม่สามารถที่จะเลื่อนเส้นยืนที่ขาดนั้นเข้ามาหากันเพื่อให้มีพื้นที่ในการผูกหรือสืบได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มเส้นด้ายเข้ามาอีกเส้นหนึ่งในระยะที่เส้นยืนนั้นขาดซึ่งจะต้องมีพื้นที่ที่สามารถผูกต่อได้ทั้งสองด้าน โดยจะผูกต่อเข้ากับเส้นยืนเก่าที่ขาดด้านหนึ่ง (ด้านที่ยังไม่ได้ทอเป็นผืนผ้า) ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะผูกเข้ากับเข็มหมุดแล้วจึงกลัดลงบนผืนผ้าในต่ำแหน่งเส้นยืนที่ขาดโดยจะยึดให้แน่นเสมือนเป็นเส้นยืนเดิมนั้นเอง
ดังนั้นรูปภาพเข็มหมุดที่กลัดติดไว้บนผืนผ้าในหน้า 69 นี้ จึงถูกใส่เข้ามาในหนังสือเพื่อแสดงให้เห็นถึงกระบวนการแก้ปัญหาอันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้เรียนรู้และสืบทอดกันมาแต่อดีตนั่นเอง
อรรถพงษ์ ประดิษฐพงษ์
เขียน 20 ก.พ. 68,
ถ่ายภาพ 15 มี.ค. 58,
บ้านม่วงใหม่ ต.นาปัง อ.ภูเพียง จ.น่าน)
โฆษณา