23 ก.พ. เวลา 19:50 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Melo movie ชีวิตจริงที่เหมือนหนัง “สนุกๆ“ สักเรื่อง

เรื่องราวของ โกกยอม (ชเวอูชิก) กับ คิมมูบี (พัคโบยอง) ที่มาพบกันในกองถ่ายของหนังเรื่องหนึ่งที่โกกยอมไปแคส แล้วได้เป็นตัวประกอบ เพราะด้วยความชอบดูหนังมากๆ ตั้งแต่วัยเด็ก ดูมาทุกเรื่อง สุดท้ายได้ไปอยู่ในหนังซะเอง ส่วนคิมมูบีเป็นผู้ช่วยกองถ่าย ทำทุกอย่าง ทั้งขนของ จัดฉาก เตรียมของ ดูคิว โดยพื้นฐานมาจากพ่อที่ทำงานในแวดวงหนังมาก่อน แล้วดันเกิดเป็นความรักง่ายๆ ขึ้นของคู่นี้และจบลงไปอย่างง่ายๆ เช่นกัน
ในขณะที่เพื่อนสนิทสองคนของ โกกยอม อย่างฮงชีจุน ชายหนุ่มที่อยากทำเพลง กับ ซงจุนอา ที่เป็นคนเขียนบท เป็นแฟนกันตั้งแต่วัยเรียน และวันครบรอบเจ็ดปี ซงจุนอาก็บอกเลิกกับฝ่ายชาย ไปอย่างง่ายๆ เช่นกัน ดูได้ใน Netflix 10 ตอน
ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าถึงชีวิตตัวละครผ่านแต่ละความสัมพันธ์ ทั้งคนแปลกหน้ามารักกัน ทั้งเพื่อนกลายเป็นคนรัก ทั้งความสัมพันธ์พี่น้อง เพื่อนกับเพื่อน ลูกกับพ่อแม่ และคนที่สนับสนุนเราไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร ชีวิตของตัวละครมีความเรียลในแง่ที่ว่า ชีวิตมันไม่ได้ง่ายและยังมีปมในใจในอดีตที่มันทำให้การใช้ชีวิตไปต่อได้ยาก แต่เพราะเหตุนี้แหละ ทำให้ชีวิตของตัวละครมีสีสัน และ ดู “น่าสนุก” มากขึ้น
บางส่วนบางตอนที่ชวนคิดและอาจจะยิ้มหรือร้องไห้ตาม หากมีประสบการณ์นั้นๆ มาก่อน
1. เรื่องที่ต้องเจอกับโควตาในแต่ละวัน
เคยไหมที่เริ่มต้นวัน มีเหตุการณ์บางอย่างไม่ค่อยดีเกิดขึ้น อย่างหัวตกหมอน กาแฟหกใส่เสื้อ น้ำก๊อกพิโรธสาดเปียกทั้งตัวตอนล้างมือ แล้วเกิดความรู้สึกว่าวันนี้ น่าจะไม่ดีไปทั้งวัน ทางเลือกคือจะไปต่อ หรือ พอแค่นี้ กับวัน (ที่อาจจะแย่ไปกว่า) นี้ พอออกไป รถเกิดเสียอีก ฝนดันตกอีก
คำพูดน่ารักๆ ที่ปลอบใจตัวเองตอนช่วงเวลานั้นได้คือ
มันอาจจะมีโควตาเรื่องแย่ๆ ให้กับวันหนึ่งๆ หรือช่วงชีวิตหนึ่งๆ และถ้าใช้สัดส่วนโควตาของเรื่องแย่ๆ ไปเยอะแล้ว สัดส่วนโควตาเรื่องดีๆ ก็น่าจะตามมา ขอแค่อดทนรอ อีกหน่อยย
2. ตวามรักในวัยหนุ่มสาว น่ารักแบบใสๆ
ซงจุนอาที่ชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง บอกกับคนที่ชอบว่า ในโลกนี้มีคนแค่สองประเภท คือ ฮงชีจุน คนที่เธอรัก และคนที่ไม่ใช่ฮงชีจุน
พอโลกใบของเรามีแค่เขา ชงจุนอาเลยมีความสนใจกับเรื่องของชีจุนไปหมด ไม่ว่าจะเรื่องดนตรี ดูบอล การกินเร็วๆ เพราะแฟนกินเร็ว เหมือนโลกต้องเป็นใบเดียวกันของความรัก และโลกชีจุนก็กลืนโลกของจุนอาหายไป
3. ความรักในวัยที่เติบโตขึ้น มองความเป็นจริงมากขึ้น
ตอนบอกเลิกแฟนที่คบมาเจ็ดปี ไม่ใช่ความผิดของชีจุนหรอก แต่เป็นความคิดและความรู้สึกต่อความรักที่ใบเล็กลงของซงจุนอา จากเดิมโลกทั้งใบคือ ความรัก พอเติบโตขึ้น มันมีมิติของการใช้ชีวิต ความภูมิใจในตัวเองที่ต้องทำอะไรบางอย่าง ซงจุนอาไม่ได้หมดรัก แต่มิติชีวิตด้านอื่นมันเติบโตใหญ่จนความรักเป็นเรื่องที่เล็กลงมาแล้ว
4. ความสัมพันธ์ กับปมในใจ
ภายนอกที่ดูปกติกับความสัมพันธ์ ไม่อาจรักษาความสัมพันธ์ไปได้ยาว หากปมในใจมันคอย เคาะประตู ออกมา ว่า ความสัมพันธ์นี้มันมีปัญหาบางอย่าง ทางที่ดีที่สุดของการรักษาความสัมพันธ์ ไม่ใช่การรักษาปมในใจ และไม่ใช่การคลายปมในใจออกมาเท่านั้น ทางที่ดีที่สุดคือ การอยู่กับคนตรงหน้าหรือปัจจุบัน แล้วทำให้ดีในแต่ละวันๆ เพราะปมในใจมันอาจไม่ได้คลาย หากอีกฝ่ายไม่ได้อยู่บนดาวดวงนี้แล้ว
5. จังหวะ ที่ใช่ ของชีวิต
เคยไหมที่พยายามเท่าไหร่ ก็ไม่ได้เหมือนจะประสบความสำเร็จเสียที และมีคำพูด คลิเชว่า มันจะมีจังหวะของชีวิตแหละ แต่แค่ไม่รู้ว่าตอนไหน
จังหวะของชีวิตเป็นอะไรที่ตอบยากมากว่า คือเมื่อไหร่ บางทีคำถามอาจจะเป็นอีกแบบว่า ขอให้เชื่อว่า มันจะมีจังหวะชีวิตของเราแน่ๆ และจังหวะชีวิตของเราจะเป็นอะไรก็ได้ อาจจะไม่เหมือนจากตอนแรกที่จะทำ และนั่นไม่ใช่ความผิดอะไรเลย สิ่งเดียวที่ควรรู้คือ ขอให้มีกำลังใจทีีดีที่จะทำและมองระหว่างทางคือจังหวะที่ใช่อยู่ทุกชั่วขณะอยู่แล้ว แค่กับคนอื่นที่เขายังไม่เห็น
6. ความรักก็เป็นจังหวะเช่นกัน
ความรักที่จะเจอใคร จะชอบใคร จะรักใคร จะเลิกใคร และหรือจะกลับมารักกันอีกกับคนเดิม เป็นช่วงจังหวะเช่นเดียวกัน
หากมีชีวิตเหมือนทำนองเพลง ความรักจะเป็นเพลงที่มีจังหวะหลากหลาย และอาจจะเป็นเพลงที่เป็นเพลงเมดเลย์ หรือเพลงที่วนลูป สิ่งสำคัญคือ อยากให้เพลงจังหวะเพราะ ก็ต้องทำให้จังหวะทำนอง เป็นบทที่ร่วมเขียนไปด้วยกันกับคนที่เรารัก อย่างที่ คิมมูบี บอกกับ โกกยอมว่า เธอยังมีฉันอยู่ข้างๆ เป็นครอบครัว แม้พี่ชายเธอจะไม่อยู่แล้ว
ปล ชเวโยชิกเล่นบทนี้ได้ธรรมชาติน่ารักมาก ชอบทุกฉากที่มองพัคโบยองด้วยสายตาตี่ๆ พร้อมรอยลักยิ้มเล็กๆ นั้นจัง
โฆษณา