Rearm , เศรษฐกิจสงครามของยุโรป เริ่มแล้ว…
หลังสหภาพยุโรปและพันธมิตร ที่ไม่มีอเมริกาเข้าร่วม
มีมติร่วมกันถึงการเสริมแกร่งด้านการทหารระยะเริ่มต้น
ด้วยงบมหาศาลถึง 8 แสนล้านยูโรออกมา
ก็ได้รับการขานรับอย่างดี จากภาคอุตสาหกรรม
ทั้งอาวุธและไม่อาวุธในสหภาพยุโรป
ดูเหมือนความชัดเจนแรก จะเกิดขึ้นในเยอรมัน
เมื่อ Rheinmetall ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของเยอรมันเอง
จับมือกับ โฟล์คสวาเก้น(VW) เพื่อขยายกำลังการผลิต
อาวุธต่างๆ ให้มากขึ้น ซึ่งดีลกันเรียบร้อยแล้ว
ในขณะที่มีอีกหลายคู่ธุรกิจ ที่ผู้ผลิตทางกลาโหม
จะจับมือกับอุตสาหกรรมพลเรือน โดยเฉพาะภาคยานยนต์
เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอาวุธ ให้ทันต่อความต้องการ
ในอีกหลายชาติ เช่นกรณีของ FIAT และ Augusta
ในอิตาลี เป็นต้น
หรือที่ทำทั้งสองอย่างอยู่แล้ว ก็คือ SAAB , BMW
Rolls Royce, Mitsubishi , Kawasaki และ Hyundai
ก็กำลังเร่งเครื่องเต็มสูบ เพื่อรองรับสถานการณ์
…ดูเหมือนความไม่แน่นอนของ Mr.Krasnov
จะสร้างปัญหาในระยะยาวให้อุตสาหกรรมอาวุธ
ของสหรัฐเข้าอย่างมากแล้วจริงๆ….
ผลงานของ Rheinmetall กับ Leonardo จากอิตาลี คือรถถัง Euro tank ซึ่งคาดว่าจะมาแทน ABRAMS ของสหรัฐในชาติยุโรปทั้งหมดในอนาคต นี่คือตัวอย่างความร่วมมือ
ไม่มีใครรู้จักและใช้เศรษฐกิจสงครามเก่งเท่ายุโรป
จริงๆแล้ว ถ้าเราไปดูยักษ์ใหญ่ทางอุตสาหกรรมหนัก
ของยุโรปแทบทุกเจ้า พวกเขามีพื้นฐานจากสงคราม
แทบทั้งนั้นเลย และเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกลาโหม
มาตลอดประวัติของบริษัท
ในช่วงสงครามเย็น พวกนี้ก็ผลิตให้อุตสาหกรรมกลาโหมเยอะ
เพิ่งมาผ่อนคลายเมื่อโลกสงบหลังการล่มสลายของโซเวียต
30 กว่าปีที่หายไป มันนานพอที่จะทำให้คนลืม
ปิศาจอุตสาหกรรมสงครามของยุโรปไปได้เหมือนกัน
บางคนจึงเข้าใจผิดว่าไม่มีศักยภาพ
หรือหนักกว่า คือคิดว่ายุโรปทำอะไรไม่เป็นอะไรเลย….
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว อุตสาหกรรมหนักของถนัดของยุโรป
และมันคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของสงครามเสมอ
…วันที่ญี่ปุ่นบอมบ์เพิรล์ ฮาเบอร์ อิโซโรคุ ยามาโมโตะ
แม่ทัพเรือในตำนานของญี่ปุ่นได้เคยบอกว่า…
…เราพลาดมาก ที่ไปปลุกยักษ์ขึ้นมา สุดท้ายยักษ์จะฆ่าเรา…
ทั้งที่ตอนนั้น สหรัฐมีกองทัพที่อ่อนแอกว่าญี่ปุ่นมาก
แต่ที่ยามาโมโตะพูดแบบนั้น ก็เพราะพลังทางอุตสาหกรรม
ที่ซ่อนอยู่ของสหรัฐนั่นเอง…
…นี่แหละ คือความสัมพันธ์ของพลังทางอุตสาหกรรมและสงคราม ไม่มีใครเปลี่ยนสมการนี้ได้
…และเที่ยวนี้กับยุโรป มันอาจให้ผลไม่ต่างกันนัก….
VW เกิดจากสงคราม ก็กลับสู่สงคราม แปลกอะไรล่ะ
อุตสาหกรรมยานยนต์ถูก EV แทรกแซง ก็ขายอาวุธสิค้าบ !
นี่คือเรื่อง่ายๆ ที่ทำให้ VW แทบไม่ต้องคิดเลย
เมื่อได้รับข้อเสนอจาก Rheinmetall
ที่จะขอซื้อโรงงานที่ไม่ได้ใช้งานในหลายแห่งของยุโรป
เพื่อนำมาผลิตอาวุธแทน
เนื่องจากยอดขายที่ตกลงของ VW ในจีนมันทำให้
พวกเขาต้องหยุดการผลิตไปเยอะมาก หลายโรงงาน
ถูกทิ้งร้าง ไม่ได้ใช้งาน
Rheinmetall เสนอมาแบบนี้ ก็ตะครุบสิครับ
VW แทบไม่ต้องคิดอะไรเลย ซึ่งดูเหมือนตลาดทุน
ก็ตอบรับดี กับการตัดสินใจของ VW
ซึ่งในประเทศอื่นก็มีแบบนี้เช่นกัน การที่สินค้าจีนมาแรงมาก
ในหลายอุตสาหกรรม มันทำให้ยุโรปมีกำลังการผลิตเหลือ
ที่จะเอาไปทำอย่างอื่นแทน
ในทางหนึ่ง ถ้ายุโรปมองว่า อุตสาหกรรมอาวุธให้ผลตอบแทน
ที่ดี และจีนขายสิ่งต่างๆให้พวกเขาได้ถูกในระยะยาว
มันจะเปลี่ยนโฉมหน้าระบบเศรษฐกิจโลกได้แบบพลิกขั้วเลย
คือ แทนที่จะซื้ออาวุธ ทำโน่นนี่ใช้เอง
ยุโรปจะเปลี่ยนมาขายอาวุธ ทำของใช้เองแค่พอดีๆ
ส่วนของจิปาถะก็ซื้อจีนเอา ลักษณะนี้จะวินๆมากสำหรับ
ทั้งสองฝ่าย คือจีนและยุโรป…
…ดังนั้น ถ้าจะมองในทางเศรษฐกิจ ต้องบอกว่านโยบาย
Rearm Europe ค่อนข้างให้ผลดี ทั้งในแง่การทหาร
และการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซึมได้….
…จะบอกว่ากระสุนนัดเดียวได้นกสองสามตัว ก็ได้เหมือนกัน…
https://www.euronews.com/my-europe/2025/03/12/bypassing-parliament-is-a-mistake-meps-sidelined-on-new-rearm-europe-plan
กำลังผลิตอาวุธยุโรป ถ้ามาในแนวทางนี้
พวกเขาจะเพิ่มได้อย่างเร็วมากๆ จนไม่น่าเชื่อแน่นอน
และจะเร็วพอ จนรับมือรัสเซียได้ไม่ยาก
เดิมนั้น ยุโรปมีปัญหาเรื่องสถานที่ ที่จะต้องลงทุนใหม่
ซึ่งเสียเวลามาก และค่าใช้จ่ายสูง
ทำให้ตอนแรกคาดว่าคงยากที่จะผลิตอาวุธมากๆ
ได้ทันในกรณีมีสงครามจริงๆ
แต่เมื่ออุตสาหกรรมภาคพลเรือนเอาด้วย
ปัญหานี้ก็เท่ากับได้รับการแก้ไขไปแล้วแทบหมด
เพราะเครื่องจักรพื้นฐาน ทักษะแรงงานที่ใช้ แทบไม่ต่างกันเลย
เช่น การขึ้นรูปโลหะ ก็เปลี่ยนแค่บล็อก ในทำนองนั่น
และถ้าว่ากันที่เทคโนโลยี
ยุโรปมีระบบสายพานการผลิตที่เหนือกว่ารัสเซียหลายเท่า
ว่าตามจริง ระบบสายพาการผลิตของรัสเซีย ก็ซื้อจากยุโรป
นั่นแหละ ที่ใช้อยู่ก็ใช่ ของเยอรมันกับอิตาลีมากที่สุค
แต่มันเก่าแล้ว
และรัสเซียยังไม่พร้อมกับการย้ายค่ายไปเป็นระบบของจีน
ด้วยความไม่พร้อมหลายอย่าง รวมถึงปัจจัยทางการเมือง
ที่พวกเขาไม่ต้องการผูกกับจีนมากจนเกินไป
เพราะปัจจุบัน มันก็มากเกินพออยู่แล้ว
ใช่ รัสเซียมีแรงงาน ทรัพยากรมาก
แต่เรื่องโรบ็อต สายพานการผลิต
พวกเขายังตามยุโรปและมืออาชีพทางอุตสาหกรรม
ทั่วโลกหลายขุม
รัสเซีย ผลิตรถยนต์ รถบรรทุกได้ช้ากว่าไทยเสียอีกนะ
นี่คือความจริง เราถึงได้ขายรถกระบะให้พวกเขามาตลอดไง
หรือ กรณีการสั่งซื้อเครื่องบินรบคลาสเดียวกัน
อย่าง SU 34 กับคู่แข่งเจ้าอื่น โดยเฉพาะฝรั่งเศส
ผู้ซื้อจะทราบเสมอว่าRafale ของฝรั่งเศส จะส่งมอบได้เร็วกว่า
และนี่คือปัจจัย ที่ทำให้อินเดียเลือก มาประจำ
เรือบรรทุกเครื่องบินของพวกเขาแทนที่ของเดิม
ที่ใช้ MIC 29s ของรัสเซีย
…เดิมอินเดียอยากได้ SU34 ที่ใช้บนเรือมากกว่าเพราะคุ้นชิน
กับอาวุธค่ายรัสเซียมานาน
แต่ทางรัสเซียบอกว่าพวกเขาเริ่มส่งมอบได้เร็วที่สุดคือ 7 ปี
แต่ทางฝรั่งเศสทำได้เร็วกว่านั้นมาก นี่ชัดเจนถึงศักยภาพ
ของอุตสาหกรรมที่เหนือกว่าในค่ายตะวันตก
และปัจจุบันรัสเซียเสียตลาดอาวุธไปเยอะมากด้วยเหตุผลนี้ …
ที่จริงไทยเองก็รู้รสปัญหาด้านการผลิตของรัสเซียไม่น้อย
จากการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก ที่ตอนแรก
เอาของรัสเซีย แต่มันช้าจนรอไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเป็น
AW-149 จาก Augusta อิตาลี ในท้ายที่สุด …
…กองเชียร์รัสเซียต้องยอมรับความจริงนะครับ
ถ้าเรื่องเทคโนโลยีสายพานการผลิต
รัสเซียยังเป็นรองชาติอุตสาหกรรมมืออาชีพอยู่เยอะ…
…รัสเซียเก่งอุตสาหกรรมทรัพยากร เหมืองแร่ พลังงาน
แต่ไม่ใช่ระบบสายพานการผลิตอุตสาหกรรมหนัก เราต้องเข้าใจในส่วนนี้ด้วย แต่ละชาติมีจุดเด่นจุดด้อยครับ….
และนั่นคือในสภาวะปกติ แต่เมื่อรัสเซียขาดแคลนแรงงาน
และซัพพลายที่ทำเองไม่ได้ จำพวกอิเล็กทรอนิกส์แบบปัจจุบัน มันจะยิ่งทำให้ความสามารถในการผลิตพวกเขาช้าลงมาก…
( อืม เห็นเพจลูกโลกสายอวยรัสเซียแหละ
บอกรัสเซียผลิตรถถังได้มากขึ้น 400% อ่านแล้วก็ขำ
เพราะเดือนก่อนเมดเวเดฟยังด่ากลาโหมอยู่เลย
ว่าผลิตได้ต่ำเป้า 150 คันต่อเดือน 555 )
รัสเซียช้านัก อินเดียเลยเอาของฝรั่งเศสซะเลย
ยุโรปเคยเป็นกลุ่มที่ผลิตอาวุธแข่งกันเองได้อย่างมากมาย
มาตลอดประวัติศาสตร์สมัยใหม่ หลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
ที่จริงพวกเขาไม่เคยเสียประสิทธิภาพในการผลิตสิ่งต่างๆเลย
เพียงแต่เปลี่ยนจากอาวุธไปเป็นสิ่งอื่น เมื่อพวกเขามีสหรัฐ
และดูด้อยลงด้วยพลังการผลิตที่บ้าคลั่งของยักษ์เอเซียทั้งสาม
อย่างญี่ปุ่นในอดีต และจีน เกาหลีใต้ ในปัจจุบัน
ในทางหนึ่ง ความสัมพันธ์ยุโรป-สหรัฐ
มันมีสถานะเหมือนยุโรปจ้างสหรัฐดูแลความปลอดภัย
อยู่ในที ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องลงทุนกับส่วนนี้มากนัก
Krasnov อาจพูดถูกอย่างหนึ่ง คือยุโรปจ่ายน้อยเกินไป
แต่นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่เห็นความจำเป็นอะไรนัก
เมื่อถือว่าจ่ายค่าคุ้มครองให้สหรัฐแล้ว
จากการซื้ออาวุธมากมาย
ซึ่งนั่นก็ช่วยให้อุตสาหกรรมอาวุธสหรัฐมีวันนี้
วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ยามที่เคยจ้างกลับทรยศหักหลัง
มันจึงจำเป็น และถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องพึ่งพาตัวเองอีกครั้ง
ซึ่งถ้ามองจากทุกมิติแล้ว มันไม่ได้เสียเปล่าอะไร
แรงงานจากภาคอุตสาหกรรมก็จะกลับมามีงานทำ
อีกครั้ง ภายใต้อุตสาหกรรมใหม่ แถมได้อาวุธที่ต้องการ
Rearm ยุโรป จึงไม่ใช่แค่การแสวงหาอาวุธ
แต่ยังเป็นทางเลือกทางธุรกิจให้กับหลายบริษัท
ซึ่งกำลังย่ำแย่จากสถานการณ์ค้าขายภาคพลเรือนอีกด้วย
สำหรับสหรัฐ นี่คือคู่แข่งที่น่ากลัวมากทางธุรกิจอาวุธ
เพราะศักยภาพการผลิตของพวกยุโรปนั้นสูงมาก
และคุณภาพสินค้า เทคโนโลยี ก็ไม่ได้เป็นรอง
การที่ Krasnov ทำตัวไม่น่าเชื่อถือ ขู่จะไม่ส่งซัพพลาย
อาวุธต่างๆ ให้ชาติที่ขายของแข่ง
เช่น กรณีของเครื่องยนต์
ระบบไฟฟ้าใน Gripen ของ SAAB ที่ไทยก็ซื้อ
สิ่งนี้จะยิ่งผลักให้คนหนีห่างจากอาวุธสหรัฐมากขึ้น
รัสเซียช้า อาวุธจีนเฉพาะตัวเกินไป คนซื้อจะเลือกใครล่ะ ?
ใช่ครับ …อาวุธจากยุโรปจะเป็นคำตอบมากขึ้นจากนี้ไป
และสำหรับรัสเซีย นี่ไม่ใช่ข่าวดีเลย
เพราะนอกจากยุโรปจะมีอาวุธที่มากขึ้น เร็วขึ้น
ในแบบที่พวกเขาอาจตามไม่ทัน
ในทางธุรกิจ พวกเขาจะยิ่งเสียเปรียบ
ยิ่งปัจจุบัน ยุโรปแก้ปัญหาซัพพลายวัสดุหนักจำพวกโลหะได้
เมื่อมี แคนาดา ออสเตรเลีย รวมถึงยูเครนเข้ามาหนุน
มีการสนับสนุนทางอิเล็กทรอนิกส์จากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน
อุตสาหกรรมอาวุธของพวกเขาจึงไม่ได้โดดเดี่ยว
และอาจขาดแคลนได้เหมือนในอดีตอีกแล้ว
…อาวุธจากสหรัฐ และรัสเซีย จึงไม่ได้แค่แข่งกับยุโรป…
แต่พวกเขากำลังแข่งกับพลังการผลิตจากทั่วโลก ! …
อย่างเครื่องบินรบ Gen6 นี่ ถ้าสหรัฐงี่เง่ามากๆ
ในการจัดหาใหม่ พวกเขาจะเจอคู่แข่งที่น่ากลัวมาก
จากญี่ปุ่นเอาได้
โครงการ F-X ซึ่งเป็นความร่วมมือของญี่ปุ่นผ่านบริษัทมิตซูบิชิ
อังกฤษ และอิตาลี กำลังจะเริ่มผลิตจริงในอีกไม่ช้า
และหลายชาติในยุโรป ก็ชอบ และทยอยตามมาเข้าร่วมแล้ว
มันมีแนวโน้มสูงมาก ว่าจะเป็นเครื่องแบบหลักในอนาคต
ของยุโรป แทนที่ F-35 ที่เป็น Gen5 กว่าๆ
นี่คือความร่วมมือข้ามโลก ที่กำลังเป็นไปของอดีตเพื่อนสหรัฐ
ที่มีต้นเหตุมาจากความไม่ไว้ในสหรัฐเอง
และจะยิ่งมากขึ้น เร็วขึ้น เมื่อถูกเร้าด้วยสถานการณ์
…สำหรับเจ้าตลาดปัจจุบัน มันไม่ใช่อะไรที่ดีเลย…
ดูแล้วสักสิบปีจากนี้ อุตสาหกรรมอาวุธสหรัฐหนักแน่
คงไม่ถึงเจ๊ง แต่ก็ไม่อู้ฟู่เหมือนเดิมแน่ๆ
เมื่อเพื่อนไม่เชื่อใจกัน แล้วกลายเป็นคู่แข่งแบบนี้
…ซึ่งดูราคาหุ้นLockheat Martin เอาก็ชัดแหละ ว่ายังไง
และมันคงไม่หยุดแค่นี้แน่ ถ้าสหรัฐยังเอาแต่ทะเลาะกับลูกค้า…
…ก็อย่างว่าแหละนะ ทำลายสหรัฐ มันคืองานหลักของ Krasnov ที่ปูตินสั่งมานี่นา ก็ตามหน้าที่แหละ 555…
และนี่แหละครับ ผลของการเสียเครดิต…
จะเป็นคนธรรมดา หรือชาติก็ไม่ต่างกัน
หมดความน่าเชื่อถือซะแล้ว ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรดีไปได้หรอก
…ดูไว้นะครับ มันสอนใจเราได้เหมือนกัน …
ข่าว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
