3 เม.ย. เวลา 12:00 • อาหาร
Rimping Supermarket NimCity Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Ricotta Cheese”ชีสสดของอิตาลีที่ทำมาจากเวย์นมแกะ วัว แพะ หรือควาย

Ricotta (ริคอตต้า) เป็นชีสสดที่ได้รับความนิยมในอาหารอิตาลี ทำมาจากเวย์ (น้ำนมที่เหลือจากการผลิตชีสประเภทอื่น ๆ) มีลักษณะเป็นครีมสีขาว เนื้อสัมผัสบางเบา ครีมมี่ มีรสชาติหวานเล็กน้อย นิยมนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนูทั้งคาว และหวาน
.
ต้นกำเนิดของ Ricotta มีประวัติย้อนกลับไปในยุคสำริดในคาบสมุทรอิตาลีประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล เมื่ออารยธรรมเมดิเตอร์เรเนียนยุคแรกเริ่มพัฒนาวิธีการทำชีส แต่อย่างไรก็ตามชาวโรมันเป็นผู้ที่พัฒนากระบวนการนี้ และทำให้ Ricotta เป็นที่นิยม
.
คำว่า “Ricotta” มาจากคำภาษาละตินว่า “Recocta” แปลว่า “ปรุงสองครั้ง” ซึ่งอธิบายถึงวิธีการผลิตชีสที่มีการทำซ้ำ โดยนำเวย์ที่เหลือจากการผลิตชีสชนิดอื่น ๆ มาอุ่นอีกครั้ง ทำให้โปรตีนที่เหลือจับตัวเป็นก้อน และกลายเป็นครีมเปรี้ยวที่มีลักษณะเฉพาะของ Ricotta
.
การผลิต Ricotta ได้รับการบันทึกไว้ในตำราโรมันโบราณ โดยนักเขียนชาวโรมัน เช่น Columella และ Pliny the Elder ได้กล่าวถึงกระบวนการอุ่นเวย์อีกครั้ง เพื่อผลิตชีสนุ่มสีขาวว่าเป็นชีสที่เกิดจากการนำเวย์ที่เหลือจากการทำชีสชนิดอื่น ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์แทนที่จะโยนทิ้งไป
.
ในช่วงยุคกลางการผลิต Ricotta เริ่มเฟื่องฟูมากขึ้นในอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทที่มีการเลี้ยงแกะ อย่างแพร่หลาย อารามหลายแห่ง และฟาร์มต่าง ๆ เริ่มปรับปรุงเทคนิคการทำ Ricotta ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น จากนั้น Ricotta ก็เริ่มมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายทั้งในกลุ่มชาวนา และขุนนาง
.
วิธีการทำ Ricotta แบบดั้งเดิม คือการอุ่นเวย์ที่เหลือจากการผลิตชีสด้วยอุณหภูมิสูง จากนั้นเติมกรดซึ่งมักอยู่ในรูปของน้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาวลงไป เพื่อให้โปรตีนที่เหลือจับตัวเป็นก้อน และก่อตัวเป็นนมเปรี้ยว จากนั้นจึงกรองนมเปรี้ยวออกเหลือเพียง Ricotta เท่านั้น
.
ยุคเรอเนซองส์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Ricotta เนื่องจากแนวทางการทำอาหารได้รับการพัฒนา และ Ricotta ก็เริ่มแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของยุโรป โดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีการใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันส่งผลให้ Ricotta มีเวอร์ชันที่หลากหลาย เช่น สูตรที่ทำจากนมวัว นมแพะ และนมควาย โดยแต่ละชนิดจะมีรสชาติที่แตกต่างกัน
.
ตลอดหลายศตวรรษ Ricotta ยังคงเป็นส่วนผสมที่สำคัญในอาหารอิตาเลียน โดยทางตอนใต้ของอิตาลีมักจะนำไปใช้ในอาหารคาว เช่น ลาซานญ่า (Lasagna), ราวีโอลี่ (Ravioli) และคานเนลโลนี (Cannellon) ขณะที่ในซิซิลี Ricotta มักจะถูกนำไปใช้ในเมนูอาหารหวาน เช่น คันโนลี (Cannoli ) คาสซาตา (Cassata) ทาลงบนขนมปัง และชีสเค้ก
.
Ricotta ไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่อการซ่อมแซม และการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ มีแคลเซียมที่จำเป็นต่อสุขภาพกระดูก และสารอาหารที่สำคัญอื่น ๆ เช่น วิตามินเอ และไรโบฟลาวิน นอกจากนี้ Ricotta ยังมีไขมัน และแคลอรี่ต่ำเมื่อเทียบกับชีสชนิดอื่น ๆ
.
ในช่วงศตวรรษที่ 20 ถือเป็นช่วงที่เทคโนโลยีการผลิต Ricotta และการขนส่งมีความก้าวหน้าอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ Ricotta จึงได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ผู้อพยพชาวอิตาลีนำประเพณีการทำอาหารของพวกเขาไปเผยแพร่ ปัจจุบัน Ricotta จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก
สามารถหาซื้อ Ricotta ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ
โฆษณา