24 มี.ค. เวลา 03:00 • สุขภาพ

AI อัจฉริยะทำนายผลตอบสนองของร่างกายต่อยา: ก้าวสำคัญในการพัฒนายารักษาโรค

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ วงการแพทย์และเภสัชกรรมก็ไม่พลาดที่จะนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาการรักษาโรคให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก
บทความนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องมือ AI สุดล้ำที่นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นขึ้นมาครับ เครื่องมือนี้มีความสามารถพิเศษในการทำนายว่าร่างกายของเราจะตอบสนองต่อยาแต่ละชนิดอย่างไร ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเร่งกระบวนการพัฒนายารักษาโรคต่างๆ ให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
# AI "LogiRx" นักทำนายผลลัพธ์ยาในร่างกาย
เครื่องมือ AI ที่ว่านี้มีชื่อว่า "LogiRx" ครับ ชื่ออาจจะดูเทคนิคอลสักหน่อย แต่หลักการทำงานของมันน่าสนใจมากทีเดียว LogiRx ไม่ได้เป็นแค่ AI ที่ตรวจจับรูปแบบข้อมูลเหมือนที่เราคุ้นเคยกัน แต่เป็น AI ที่สามารถ "เข้าใจ" กลไกการทำงานของยาในระดับเซลล์เลยทีเดียวครับ พูดง่ายๆ ก็คือ LogiRx สามารถจำลองสถานการณ์ว่าเมื่อยาชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะไปมีผลกระทบต่อกระบวนการทางชีวภาพต่างๆ อย่างไรบ้าง ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่ต้องการรักษาโรคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วย
ทีมวิจัยได้ทดสอบความสามารถของ LogiRx โดยมุ่งเน้นไปที่ "ภาวะหัวใจล้มเหลว" ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากทั่วโลกและในสหรัฐอเมริกาเองก็เช่นกัน ภาวะหัวใจล้มเหลวนี้มีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งคือ "ภาวะหัวใจโต" หรือการที่กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวขึ้นจนทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิจัยต้องการดูว่า LogiRx จะสามารถช่วยค้นหายาที่มีศักยภาพในการป้องกันภาวะหัวใจโตนี้ได้หรือไม่
# ค้นพบยาเก่าใช้ใหม่: "Escitalopram" กับความหวังใหม่เพื่อหัวใจ
ในการทดลอง นักวิจัยได้ใช้ LogiRx ประเมินยาจำนวน 62 ชนิด ที่เคยมีงานวิจัยบ่งชี้ว่าอาจมีแนวโน้มในการป้องกันภาวะหัวใจโตได้ ผลปรากฏว่า LogiRx สามารถทำนาย "ผลกระทบนอกเป้าหมาย" ของยา 7 ชนิด ที่อาจช่วยป้องกันภาวะหัวใจโตในระดับเซลล์ได้ และเมื่อนำยา 2 ชนิดใน 7 ชนิดนั้นไปทดลองในห้องปฏิบัติการ ก็พบว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่ LogiRx ทำนายไว้จริงๆ ครับ
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ หนึ่งในยาที่ LogiRx ชี้เป้าว่าเป็นตัวเต็งในการป้องกันภาวะหัวใจโต คือยา "escitalopram" ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลอยู่แล้วภายใต้ชื่อการค้า "Lexapro" นักวิจัยได้ตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วยที่ใช้ยา escitalopram และพบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีโอกาสเกิดภาวะหัวใจโตน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาอย่างมีนัยสำคัญ
2
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า LogiRx สามารถช่วย "ค้นพบยาเก่าใช้ใหม่" ได้อย่างน่าทึ่ง ยา escitalopram เป็นยาที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วว่าปลอดภัยในมนุษย์ การค้นพบว่ามันอาจมีประโยชน์ในการป้องกันภาวะหัวใจโตได้ด้วย จึงเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เพราะหมายถึงเราอาจมียาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มต้นกระบวนการพัฒนายาใหม่ทั้งหมด
1
# ประโยชน์ที่มากกว่าแค่หัวใจ: โอกาสใหม่ในการรักษาโรคอื่นๆ
แน่นอนครับว่าการค้นพบศักยภาพของ escitalopram ในการป้องกันภาวะหัวใจโตยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในห้องปฏิบัติการและการทดลองทางคลินิกในมนุษย์อีกมาก ก่อนที่แพทย์จะเริ่มสั่งจ่ายยา escitalopram เพื่อจุดประสงค์นี้ แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือ ศักยภาพของเครื่องมือ LogiRx เองครับ
ศาสตราจารย์ Jeffrey J. Saucerman หัวหน้าทีมวิจัยผู้พัฒนา LogiRx กล่าวว่า "AI กำลังเร่งการพัฒนาในหลายๆ ด้านของวงการยา แต่ยังมีความก้าวหน้าน้อยในการให้ความเข้าใจที่จำเป็นว่ายาเหล่านี้ทำงานในร่างกายอย่างไร เครื่องมือ LogiRx เป็นก้าวสำคัญในการรวม AI เข้ากับความรู้เดิมเกี่ยวกับกลไกการทำงานของเซลล์ เพื่อค้นหาการใช้ประโยชน์ใหม่ๆ สำหรับยาเก่า"
LogiRx ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การค้นหายาสำหรับโรคหัวใจเท่านั้นนะครับ เครื่องมือนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการค้นหายารักษาโรคอื่นๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคทางระบบประสาท หรือโรคเรื้อรังต่างๆ นอกจากนี้ LogiRx ยังสามารถช่วยนักวิจัยในการทำความเข้าใจผลข้างเคียงของยา และค้นหากลุ่มผู้ป่วยที่เหมาะสมที่จะได้รับประโยชน์จากยาแต่ละชนิดได้อีกด้วย
ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นการนำ AI อย่าง LogiRx มาใช้ในการพัฒนายาอย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนายาใหม่ๆ ได้อย่างมาก ลองจินตนาการดูนะครับว่า หากเราสามารถใช้ AI ในการคัดกรองยาที่มีศักยภาพในการรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เราก็จะสามารถนำยารักษาโรคใหม่ๆ มาช่วยชีวิตผู้คนได้เร็วขึ้นอีกมาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ AI เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการวิจัยและพัฒนาเท่านั้นนะครับ การตัดสินใจทางการแพทย์และการใช้ยาจริงในผู้ป่วยยังคงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ เราต้องใช้ AI อย่างชาญฉลาดและมีจริยธรรม เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติอย่างแท้จริง
เครื่องมือ AI "LogiRx" เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในวงการเภสัชกรรม เพื่อเร่งการพัฒนายารักษาโรคและค้นหาการใช้ประโยชน์ใหม่ๆ จากยาที่มีอยู่แล้ว การค้นพบศักยภาพของยา escitalopram ในการป้องกันภาวะหัวใจโตเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดของ AI ในการปฏิวัติวงการแพทย์และการดูแลสุขภาพ
ท่านผู้อ่านคิดว่าอย่างไรบ้างครับ? เทคโนโลยี AI จะเปลี่ยนแปลงวงการยาและการรักษาโรคไปในทิศทางใด? เราจะสามารถนำ AI มาใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพของเราได้อย่างไรบ้าง? ผมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันคิดและติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ในวงการแพทย์และเภสัชกรรมต่อไปนะครับ
**แหล่งอ้างอิง**
1. Eggertsen, T. G., Travers, J. G., Hardy, E. J., Wolf, M. J., McKinsey, T. A., & Saucerman, J. J. (2025). Logic-based machine learning predicts how escitalopram attenuates cardiomyocyte hypertrophy. Proceedings of the National Academy of Sciences, 122(13), e2420499122. DOI: 10.1073/pnas.2420499122
2. University of Virginia. (2025, March 18). AI tool predicts how body will respond to drugs, potentially accelerating disease treatments. MedicalXpress. Retrieved from https://medicalxpress.com/news/2025-03-ai-tool-body-drugs-potentially.html
โฆษณา