Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Movie Trivia
•
ติดตาม
21 มี.ค. เวลา 10:51 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ผกก. เรย์ เมนโดซ่า ถ่ายทอด “Warfare” เพื่อช่วยเล่าให้เพื่อนร่วมหน่วยที่เสียความทรงจำเข้าใจ
ผลงานใหม่อย่าง “Warfare” อาจเป็นที่สนใจ จากการเป็นผลงานการร่วมกำกับล่าสุดของ อเล็กซ์ การ์แลนด์ จาก “Civil War” ก็จริง หากแต่ตัวโครงการหนัง “Warfare” นั้น มีจุดกำเนิดมาจากเรื่องราวที่ เรย์ เมนโดซ่า อดีตที่ปรึกษาทางการทหารในกอง “Civil War” ด้วยประสบการณ์การประจำการในสมัยเป็นนาวิกโยธิน เขาจึงดึงเอาหนึ่งในภารกิจถอนกำลังจากปฏิบัติการปลดแอกในอิรักในปี 2006 มาเล่าเป็นเหตุการณ์ในหนัง “Warfare”
โดยล่าสุดทาง Vanity Fair ได้ทำการเผยภาพชุดใหม่ของ “Warfare” พร้อมบทสัมภาษณ์ที่เล่าผู้กำกับ ฯ อย่าง เรย์ เมนโดซ่า และ อเล็กซ์ การ์แลนด์ พูดคุยถึงที่มาที่ไปของการสร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งเกิดขึ้นภายในกอง “Civil War” และมันมาพร้อมความตั้งใจที่จะถ่ายทอดเหตุการณ์ โดยปราศจากการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด นั่นคือ ขจัดเครื่องช่วยการเล่าเรื่องทั้งหลายออกไปที่มักพบในภาพยนตร์ ทั้งดนตรีประกอบ การปูเส้นเรื่อง หรือกระทั่ง ตัวละครทั้งหมดในเรื่องก็ถอดไปจากนาวิกโยธินตัวจริง ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของหนัง คือการที่ เมนโดซ่า ต้องการที่จะเล่าเหตุการณ์ภารกิจถอนกำลังที่ผิดพลาดนี้ ให้กับ พลแม่นปืนและเสนารักษ์ในหน่วยอย่าง เอลเลียต มิลเลอร์ (รับบทโดย คอสโม จาร์วิส ในเรื่อง) ที่ได้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และไร้ซึ่งความทรงจำว่าแท้จริงมันเกิดอะไรขึ้น ซึ่ง เมนโดซ่า พยายามอธิบายหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ มิลเลอร์ ก็ไม่อาจเข้าใจได้หมด จึงเกิดเป็นโครงการอย่าง “Warfare” ที่ช่วยเล่าเหตุการณ์นั้นด้วยสื่ออย่างภาพยนตร์
“ขณะที่ผมเอง ก็สับสนในการท่องไปในมุมมองของคนทั้ง 12 คน เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“ผมมักรู้สึกแบบ เวร ผมหวังว่าวันนึง ผมจะสามารถสร้างสื่อทางด้านภาพให้สำหรับเขา ถึงแม้มันจะเป็นหนังสื่อทุนต่ำ หรือสารคดีความยาว 30 นาที สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผมเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถ่องแท้” เมนโดซ่า กล่าว
ด้วยเป้าหมายดังกล่าว ทำให้การ์แลนด์และเมนโดซ่า ตัดสินใจเลือกวิธีการถ่ายทำของ “Warfare” ให้ประกอบด้วยเทคที่ยาวและตึงเครียด ด้วยการจัดวางแต่ละฉากให้เป็นดั่งละครเวทีเล็ก ๆ สั่งนักแสดงแต่ละคนให้แสดงด้วยความจริงจัง ขณะที่เดินไปประจำจุดในแต่ละฉาก ผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ที่อิงมาจาก ความทรงจำของเมนโดซ่าและเพื่อนร่วมหน่วยของเขา
โดย เมนโดซ่า เองก็รู้สึกด้วยซ้ำ ว่าการให้น้ำหนักถึงความถูกต้องของเหตุการณ์ เพื่อถ่ายทอดห้วงเวลาอันเจ็บปวดและเป็นส่วนตัว ของเพื่อนร่วมหน่วยของเขา ก็กระทบความรู้สึกของเขาเช่นกัน
“ประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์อาจไม่เห็นด้วย จากสิ่งที่เป็นเหมือนข้อเท็จจริงที่ยิ่งใหญ่และไม่ผันแปร กลับกลายเป็นอะไรบางอย่างที่ลื่นไหลและเป็นอัตวิสัยโดยพลัน คุณอาจจะพยายามอย่างยิ่ง ในการที่คุณจะยึดมั่นในหลักในความเป็นจริง แต่คุณเอง ก็กำลังเคลื่อนผ่านช่องว่างของความทรงจำเฉพาะนี้” การ์แลนด์ เอ่ย
“ฉากบางฉากจะชวนกระตุ้นความรู้สึกมาก แค่ด้วยกลิ่นหรือสุ้มเสียงเท่านั้น แล้วก็มันเป็นห้วงเวลาที่กระแทกกระทั้นความรู้สึกผมอยู่หลายครั้งเหมือนกัน” เมนโดซ่า กล่าวเสริม
กระนั้นเอง ด้วยมุมมองของหนัง “Warfare” ที่นำเสนอจากมุมมองของทหารหน่วยปฏิบัติการสัญชาติอเมริกัน ที่ทำให้ผู้ชมรับรู้เรื่องราวแค่ฝ่ายเดียว และหนังก็จะไม่ได้นำเสนอภาพของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจนนัก นั่นทำให้มีความกังวลว่า ตัวหนังที่อาจจะไม่ได้มาพร้อมสาส์นต่อต้านสงคราม อาจจะเอนเอียงไปทางชาตินิยม และสร้างอคติต่อชาวตะวันออกกลาง ผ่านการถ่ายทอดภารกิจในห้วงสงครามอิรักในช่วงปี 2006
ซึ่งเมื่อถามคำถามนี้กับทาง การ์แลนด์ ว่า มีการพิจารณาถึงบริบทนี้ขณะกำลังพัฒนา “Warfare” หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ “Civil War” ก็ฉายมุมมองของสงครามผ่านสื่ออย่างวารสารศาสตร์ ด้าน การ์แลนด์ ก็กล่าวว่า ทางเลือกของพวกเขาในเรื่องราวเอาชีวิตรอดของนาวิกโยธินในภารกิจถอนกำลังนี้ คือการปรุงแต่งเรื่องราวให้น้อยที่สุด และอิงจากความทรงจำเหล่านั้น
1
“เป็นคำถามที่น่าสนใจ และคำตอบนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความทรงจำ”
“ข้อสรุปที่ผมได้ จากการได้สนทนากับคนเหล่านี้ คือคนที่คุณกำลังได้คุยด้วย คือคนที่กำลังนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขามีทัศนวิสัยที่แคบลงอย่างยิ่ง ท้ายสุดคือ เราก็ปฏิเสธที่จะปรุงแต่งเนื้อหาอะไรเพิ่ม ถ้าหนังเรื่องนี้มีพลัง พลังของหนังก็จะมาจากจุดนั้น ผมคิดว่านะ” การ์แลนด์ กล่าวทิ้งท้าย
“Warfare” กำกับและเขียนบทโดย เรย์ เมนโดซ่า และ อเล็กซ์ การ์แลนด์ (“Civil War”) นำแสดงโดย ชาร์ลส เมลตัน, ดี’ฟาโรห์ วูน-เอ-ไท, โจเซฟ ควินน์, คิท คอนเนอร์, คอสโม จาร์วิส, วิล พัลเตอร์, ฟินน์ เบนเนตต์, โนอาห์ เซนทินีโอ, เทเลอร์ จอห์น สมิธ, ไมเคิล แกนดอล์ฟินี และ อเล็กซ์ บร็อคดอร์ฟ
“Warfare” วางกำหนดฉายในสหรัฐฯ 11 เมษายน 2025
ภาพยนตร์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย