ตลาดหุ้นเวียดนามมุ่งสู่ 'ทศวรรษทอง'? จุดแข็งและแนวโน้มในยุคสงครามการค้า
เวียดนามกำลังอยู่ในจุดที่น่าสนใจท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ โดยมีจุดแข็งสำคัญคือการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับสหรัฐและจีน วางตัวเป็นกลางอย่างชาญฉลาด
เวียดนามเอาใจสหรัฐอย่างเต็มที่ด้วยการประกาศซื้อเครื่องบินจากโบอิงหลายร้อยลำ นำเข้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานจากสหรัฐ รวมถึงเชิญชวนนักธุรกิจสหรัฐมาลงทุน ซึ่งประสบความสำเร็จมาก ทั้งยังร่วมมือด้านไฮเทค เห็นได้จาก CEO ของ NVIDIA ไปเยือนและทำธุรกิจกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของเวียดนาม
การปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ของเวียดนามมีความน่าทึ่ง ทั้งการปราบปรามคอร์รัปชั่นจนคะแนนสูงกว่าไทย เน้นการศึกษาด้าน STEM และการลดความซ้ำซ้อนของหน่วยงานรัฐ โดยลดจำนวนกระทรวง จังหวัด และตำแหน่งงานในภาครัฐลงอย่างมีนัยสำคัญ
ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามเติบโตดีต่อเนื่อง 2 ปี โดยปี 2023 ขึ้น 13% และปี 2024 ขึ้น 12% ส่วนในปี 2025 (มกราคม-มีนาคม) ขึ้นแล้ว 4% อยู่ที่ 1,322 จุด น่าสนใจที่ตลาดหุ้นเวียดนามเปิดมาเพียง 25 ปี แต่มีมูลค่าสูงกว่าตลาดหุ้นไทยที่เปิดมา 50 ปี และกำลังยกระดับเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ได้รับการรับรองจาก MSCI
สำหรับผลกระทบจากสงครามการค้า สถานการณ์อาจเป็นไปได้ 2 ทาง คือ สินค้าเปลี่ยนฐานการผลิตจากจีนมาเวียดนาม ซึ่งเวียดนามจะได้ประโยชน์ หรือสหรัฐหันไปผลิตเองในประเทศ ทำให้การค้าระหว่างประเทศลดลงและเวียดนามเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ด้วยการวางตัวทางการเมืองที่ชาญฉลาด การปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง และศักยภาพของแรงงานที่เพิ่มขึ้น เวียดนามมีโอกาสสูงที่จะก้าวเข้าสู่ "ทศวรรษทอง" ด้วยการเติบโตต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 8 ปี แม้จะมีความผันผวนระยะสั้นจากสงครามการค้า
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
