Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
24 มี.ค. เวลา 05:08 • ประวัติศาสตร์
จดหมายที่หลอกหลอน ”อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)” ไปตลอดชีวิต
“อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)” นามนี้เป็นที่รู้จักกันดี
เขาคือนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก และเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอัจฉริยะมาจนถึงทุกวันนี้
แต่ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบก็คือ อัจฉริยะอย่างไอน์สไตน์ก็มีเรื่องที่มารู้สึกเสียใจทีหลัง และตามหลอกหลอนไอน์สไตน์ไปตลอดชีวิต
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
สิ่งที่ตามหลอกหลอนไอน์สไตน์ก็คือ “จดหมาย” แค่ฉบับเดียว
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ในฤดูร้อน ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ความตึงเครียดในยุโรปมาถึงจุดแตกหัก และไอน์สไตน์ก็ได้ตกลงใจที่จะร่วมลงนามในจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนโดยนักฟิสิกส์ชาวฮังการี นามว่า “ลีโอ ซีลาร์ด (Leó Szilárd)“
ลีโอ ซีลาร์ด (Leó Szilárd)
จดหมายนี้ได้ถูกส่งไปถึง “แฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ (Franklin D. Roosevelt)“ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โดยเนื้อความในจดหมาย เป็นการเตือนท่านประธานาธิบดีถึงความเป็นไปได้ที่เยอรมนีกำลังพัฒนาระเบิดปรมาณู
จดหมายของซีลาร์ดได้กระตุ้นให้รัฐบาลอเมริกันเริ่มต้นทำการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาระเบิดปรมาณูเพื่อป้องกันประเทศของตน หากแต่เจตนาที่ดูเหมือนจะดีนี้ กลับพลิกผันไปสู่โครงการที่คาดไม่ถึงอย่าง “โครงการแมนแฮตตัน (Manhattan Project)”
ตัวของไอน์สไตน์ไม่ใช่คนบ้าสงคราม และไม่เคยส่งเสริมการพัฒนาอาวุธ อันที่จริง ไอน์สไตน์เป็นคนรักสงบและต่อต้านสงคราม
แฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ (President Franklin D. Roosevelt)
แล้วไอน์สไตน์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาระเบิดปรมาณูได้อย่างไร?
ในเวลานั้น ซีลาร์ดเพิ่งหลบหนีออกมาจากยุโรป เนื่องจากเยอรมนีได้แผ่อำนาจไปทั่วยุโรป และซีลาร์ดก็กังวลมาตลอดว่าเยอรมนีอาจจะให้ความสนใจในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ซีลาร์ดต้องการจะหยุดยั้งอำนาจของเยอรมนีด้วยการเอาสหรัฐอเมริกามาหยุดเยอรมนี จึงจัดการเขียนจดหมายถึงรูสเวลต์ และซีลาร์ดก็คิดได้ว่าหากจดหมายของตนมีนักฟิสิกส์คนดังอย่างไอน์สไตน์ร่วมลงนาม จดหมายฉบับนี้ก็จะยิ่งน่าเชื่อถือ
ไอน์สไตน์ (ซ้าย) ซีลาร์ด (ขวา)
ทางด้านไอน์สไตน์ ก็หวาดกลัวเมื่อนึกถึงว่าโลกจะเป็นอย่างไรหากเยอรมนีพัฒนาอาวุธได้จริง จึงตกลงจะร่วมลงนามในจดหมาย
แต่การตัดสินใจนี้จะทำให้ไอน์สไตน์ต้องมาเสียใจทีหลังและหลอกหลอนไอน์สไตน์ไปตลอดชีวิต
ทางด้านรูสเวลต์ เมื่อได้รับจดหมายแล้วก็คิดหนัก
หากปล่อยทิ้งไว้ เยอรมนีพัฒนาอาวุธได้จริง สหรัฐอเมริกาก็ย่อมตกอยู่ในความเสี่ยงใหญ่ ดังนั้น สิ่งที่ซีลาร์ดพูดมาก็มีเหตุผล
เมื่อเป็นเช่นนี้ รูสเวลต์จึงตัดสินใจเริ่มโครงการแมนแฮตตัน ซึ่งเป็นโครงการลับที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ไอน์สไตน์นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการแมนแฮตตัน อันที่จริง เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมโครงการด้วยซ้ำ แต่จะบอกว่าไอน์สไตน์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาเป็นผู้ลงนามในจดหมายที่ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา
โครงการแมนแฮตตัน คือจุดเริ่มต้นของความโหดร้ายที่ไอน์สไตน์กับซีลาร์ดคาดไม่ถึง สหรัฐอเมริกาสามารถพัฒนาระเบิดปรมาณูได้สำเร็จ
6 สิงหาคม และ 9 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลงยังเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นนับหมื่นเสียชีวิต และความเสียหายก็มากมายเกินจะบรรยาย
เหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่า
และเมื่อโลกเห็นถึงอานุภาพของระเบิดปรมาณู ทั้งโลกก็ตระหนัก สหรัฐอเมริกาได้นำพาโลกเข้าสู่ยุคที่อาวุธนั้นรุนแรงชนิดที่กวาดเมืองได้ทั้งเมือง
และแน่นอน เรื่องนี้ไอน์สไตน์ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงก็ตาม
เมื่อไอน์สไตน์รับทราบข่าวที่เกิดขึ้น ไอน์สไตน์ก็ถึงกับสติแตก
ไอน์สไตน์ได้ยอมรับในเวลาต่อมาว่า หากเขาทราบตั้งแต่แรกว่าเยอรมนีจะไม่สามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ เขาจะไม่ลงนามในจดหมายฉบับนั้นเด็ดขาด และจะไม่สนับสนุนสหรัฐอเมริกาในการสร้างระเบิดปรมาณู
ความรู้สึกผิดนี้ตามหลอกหลอนไอน์สไตน์ไปทุกหนทุกแห่ง และไอน์สไตน์ก็ใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อสนับสนุนการคัดค้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์
ในปีค.ศ.1955 (พ.ศ.2498) ไอน์สไตน์ได้ร่วมกับ “เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์ (Bertrand Russell)” นักปรัชญาชาวอังกฤษ ร่วมกันร่าง “คำประกาศเจตนารัสเซลล์–ไอน์สไตน์ (Russell-Einstein Manifesto)“ เพื่อกระตุ้นให้ผู้นำชาติต่างๆ หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในทุกกรณี
1
แต่ถึงแม้ว่าไอน์สไตน์จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไถ่บาปในใจ แต่โลกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ความก้าวหน้าของอาวุธนิวเคลียร์นำไปสู่สงครามเย็นและอนาคตที่ไม่แน่นอนของมนุษยชาติ
แต่หากไม่ได้ไอน์สไตน์ออกมาเรียกร้องและกระตือรือร้นที่จะกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ ประวัติศาสตร์ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมเช่นกัน
1
และนี่ก็คือเรื่องราวของตราบาปในใจของไอน์สไตน์ ซึ่งจะติดอยู่ในใจของเขาไปจนวันสุดท้ายของชีวิต
References:
https://medium.com/exploring-history/the-chilling-letter-that-einstein-wished-he-never-wrote-4b8406274290
https://ahf.nuclearmuseum.org/ahf/key-documents/einstein-szilard-letter/
https://ischool.uw.edu/podcasts/dtctw/einsteins-letter-roosevelt
https://www.osti.gov/opennet/manhattan-project-history/Events/1939-1942/einstein_letter.htm
ประวัติศาสตร์
4 บันทึก
21
1
4
4
21
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย