Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กรุงเทพธุรกิจ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
21 เม.ย. เวลา 05:00 • ธุรกิจ
‘แซนวิชอบร้อน’ ใน 7-Eleven ผลิตเกือบ ‘1 ล้านชิ้น/วัน’ ลุ้นขายดีสู่ธุรกิจหมื่นล้าน ?
“แซนวิชอบร้อน” น่าจะเป็นหนึ่งในสินค้าที่หลายคนนึกถึงเมื่อมีโอกาสเดินเข้า “เซเว่นอีเลฟเว่น” (7-Eleven) ยักษ์สะดวกซื้อเบอร์ต้นที่มีจำนวนสาขาเฉียด 15,000 แห่งทั่วประเทศ โดยสินค้าแซนวิชอบร้อนประจำการบนชั้นวางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาไม่มีตกหล่น ทำให้ปริมาณการผลิตต่อวันสูงถึง “1 ล้านชิ้น” ซึ่งไม่ได้เป็นการผลิตแบบ “เผื่อเหลือเผื่อขาด” แต่ยังขายเกลี้ยงสต๊อกแทบทุกวัน
เจ้าของตำนานแซนวิชอบร้อนคนแรกและคนเดียวที่ผูกปิ่นโตกับ “เซเว่นอีเลฟเว่น” มายาวนาน เล่าให้ “กรุงเทพธุรกิจ” ฟังว่า ในช่วงเริ่มต้นบริษัทไม่ได้ขายแซนวิชอบร้อนเป็นอย่างแรก ย้อนกลับไปสองทศวรรษก่อนหน้า “สมชาย อัศวปิยานนท์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) เริ่มจากผลิตข้าวกล่องแช่แข็ง ไปจนถึงเบเกอรี ขนมหวาน แซนวิชแช่เย็น ฯลฯ ทั้งขายเองและส่งขายตามร้านค้าโมเดิร์นเทรด
2
จนมาเจอกับจุดหักเลี้ยวสำคัญ เมื่อเซเว่นอีเลฟเว่นอยากทำ “คอร์นด็อก” หรือขนมปังแป้งเค้กห่อไส้กรอกเสียบไม้ พัฒนาสินค้าไปเรื่อยๆ “สมชาย” ก็คิดพลิกแพลงด้วยการเสนอให้นำแผ่นแป้งขนมปังมาประกบกัน สอดไส้แฮมหรือไส้กรอกเข้าไปอบร้อน จากวันที่ไม่มีแพ็กเกจ ไม่มีชื่อเรียก เป็นเพียงการประกอบขนมปัง ชีส และไส้กรอก วางเรียงซ้อนกันในกล่องเก็บอาหาร กระทั่งวันนี้ “แซนวิชอบร้อน” กินสัดส่วนพอร์ตโฟลิโอของ “NSL Foods” มากถึง 80% และยังปิดจบปี 2567 ด้วยผลประกอบการทั้งเครือกว่า “5,800 ล้านบาท”
แซนวิชแฮมชีส, แซนวิชไส้กรอกชีส และแซนวิชหมูหยองน้ำสลัด Top 3 สินค้าขายดีในหมวดแซนวิชอบร้อน
📌 จบฟู้ดไซน์แต่ไม่อยากทำงานประจำ ลาออกมาเปิดบริษัท เจ๊งแล้วก็ทำใหม่เรื่อยๆ
ก่อนจะมาเป็นเถ้าแก่พันล้าน “สมชาย” เริ่มต้นเส้นทางผู้ประกอบการจากการเลือกเรียนคณะอุตสาหกรรมเกษตร ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ฟู้ดไซน์” จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังจบปริญญาตรีเขาเดินตามสูตรสำเร็จเหมือนกับบัณฑิตคนอื่นๆ ด้วยการเป็นพนักงานประจำ ทำได้ 2-3 ปี “สมชาย” ก็รู้ตัวว่า ไม่อยากทำงานประจำอีกแล้ว
เขาจึงตัดสินใจลาออกไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม้จะเคยตกตะกอนกับตัวเองไปแล้วว่า ไม่อยากทำงานประจำ แต่สุดท้ายก็เลือกกลับเข้าระบบเพื่อทำงานในตำแหน่งพนักงานขายที่โรงงานผลิตอาหารอีกพักใหญ่ ตรงนี้เองที่ทำให้สมชายได้สั่งสมประสบการณ์ก่อนจะตัดสินใจกระโดดออกมาตั้งบริษัทเป็นของตัวเองในวัย 29 ปี
ด้วยความรู้ความสามารถที่เรียนจบมาโดยตรง บวกกับเป็นคนชอบเข้าครัวอยู่แล้ว “สมชาย” จึงกรุยทางด้วยการลงมือทำทุกอย่างตั้งแต่เบเกอรี ขนมหวาน ไปจนถึงอาหารแช่แข็งที่ร่วมลงขันกับกลุ่มเพื่อน ในช่วงเวลานั้นอาหารแช่แข็งยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก สุดท้ายธุรกิจนี้ก็มีอันต้องปิดตัวลง
1
ธุรกิจที่ล้มลง ขาดทุน และถึงขั้น “เจ๊ง” ไม่ได้ทำให้สมชายคิดอยากกลับไปทำงานประจำแม้แต่น้อย ผิดหวังและท้อก็มีบ้างแต่ใช้เวลาเพียง 2-3 วันก็ลุกขึ้นมาเริ่มใหม่ได้ “ทำต่อเพราะยังอยากมีชีวิต” คือประโยคสั้นๆ ที่สมชายบอก จับพลัดจับผลูไปเรื่อยๆ จนมาลงเอยกับการทำขนมปังแถว เค้ก และแซนวิชส่งขายทั้งร้านค้าทั่วไปและโมเดิร์นเทรด จนมาเจอ “บิ๊กดีล” เมื่อเซเว่นอีเลฟเว่นอยากทำ “คอร์นด็อก” แล้วให้ทาง NSL Foods เป็นคนผลิต
สมชาย อัศวปิยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)
ระหว่างพัฒนาคอร์นด็อก “สมชาย” ก็เกิดไอเดียที่ได้การทำแป้งเค้กมาต่อยอด จากที่จะนำไปห่อไส้กรอกอย่างเดียว ก็ลองเอาแผ่นแป้งมาแผ่เป็นสี่เหลี่ยมแล้วเข้าเครื่องอบแซนวิชดู ปฐมบทแซนวิชอบร้อนจึงเริ่มต้นขึ้นแบบง่ายๆ ด้วยการนำขนมปัง ชีส และไส้กรอก วางประกบซ้อนกันในกล่องพลาสติกเตรียมไว้ เมื่อมีลูกค้าสนใจพนักงานจึงนำเข้าเครื่องอบร้อน ซึ่งในช่วงแรกมีเพียง 2 ไส้ให้เลือก ได้แก่ แซนวิชแฮมชีส และแซนวิชไส้กรอกชีส
ไม่นานหลังจากนั้นเมนูแซนวิชอบร้อนก็ขายดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากที่ไม่มีแพ็กเกจก็เริ่มคุมคุณภาพด้วยการแต่งตัวทำแพ็กเกจจิ้งให้เรียบร้อย ซึ่งกว่าจะมาถึงตรงนี้ “สมชาย” เผยว่า ก่อนหน้านี้เคยส่งแซนวิชแช่เย็นขายในเซเว่นอีเลฟเว่นจนขาดทุนไปเยอะเหมือนกัน เพราะขายไม่ออก สินค้าก็ทยอยหมดอายุ แต่ผ่านมาได้จนถึงการเป็นเจ้าแห่งแซนวิชอบร้อนอย่างวันนี้เพราะตนไม่เคยปฏิเสธ ไม่ว่าต้นทางจะขออะไรมา ทำได้หรือไม่ยังไม่รู้แต่ต้องลองก่อน
“ช่วงแรกเราขายแซนวิชแช่เย็น มีรับคืนด้วยเพราะเจ๊ง แต่พอถึงจุดที่ขายดีขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มคุยกับเซเว่นฯ มากขึ้น เราเป็นคนที่ถ้าเขาอยากได้อะไรบอกเราเราจะพยายามพัฒนาให้ เป็นจุดที่เขาคิดอะไรได้ก็จะนึกถึงเรา มาหาเรา เราเปิดตลอดแม้จะสำเร็จไม่สำเร็จก็ลองไว้ก่อน ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะปฏิเสธ ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับความสำเร็จมัดใจเซเว่นฯ ด้วย สมมติมีสินค้า 10 ตัวที่วางขาย อาจจะติดตลาดแค่ 1-2 ตัว แต่ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว”
1
หมวดหมู่แซนวิชแช่เย็น อีกหนึ่งสินค้าขายดีของ NSL Foods
📌 ผลิตแซนวิชเกือบล้านชิ้นก็ขายหมด รายได้ถึงหมื่นล้านก็ดี แต่ไม่อยากกดดันคนทำงาน
ผลประกอบการ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ปี 2567 ปิดตัวเลขไปได้ที่ “5,800 ล้านบาท” โตขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 20% “สมชาย” บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทโตขึ้นทุกปีเพราะไม่ได้ทำสินค้าแค่กลุ่มเดียวอีกแล้ว แม้ว่าจะเกิดและเติบโตจากแซนวิชอบร้อนที่ปัจจุบันกินสัดส่วนรายได้มากถึง 80% แต่บริษัทก็ไม่เคยหยุดตามหาน่านน้ำใหม่ๆ ใต้ร่ม “NSL Foods” มีทั้งบริษัทส่งออกอาหาร บริษัททำชีส ส่งออกน้ำผลไม้ และยังเข้าถือหุ้นแบรนด์ “Bake A Wish” ด้วย
สำหรับ “แซนวิชอบร้อน” ยังขายดีและผลิตส่งเซเว่นอีเลฟเว่นทุกวันวันละเกือบๆ 1 ล้านชิ้น ผลิตเท่าไหนก็ขายหมดเท่านั้น โดยมีแซนวิชแฮมชีส แซนวิชไส้กรอกชีส และแซนวิชหมูหยองน้ำสลัด ครองแชมป์ขายดีตลอดกาล โดยในปีที่ผ่านมาเฉพาะหมวดแซนวิชอบร้อนโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 25% เทียบกับหมวดอื่นถือว่าเติบโตดีที่สุด
ถึงจะมี “Hero Product” แต่บริษัทไม่เคยหยุดออก NPD ใหม่ๆ สมชายเล่าว่า ใน 1 ปี จะมีสินค้าใหม่หมุนเวียนกัน 60-70 รายการ เฉลี่ย 1 เดือนต้องมีออกใหม่ 5-6 รายการกระจายทุกกลุ่ม ตัวไหนยอดขายไม่ดีก็เอาออก ตัวไหนขายดีก็ได้อยู่ต่อ โดยเกณฑ์ชี้วัดว่า ขายดีหรือไม่ดีอยู่ที่จำนวนชิ้น บาร์ของ NSL Foods คือใน 1 วัน ต้องไม่ต่ำกว่า 6-7 พันชิ้น น้อยกว่านี้ก็มีโอกาสหลุดจากชั้นวางสินค้าได้
2
เมื่อถามว่า กราฟโตดีขนาดนี้ มีตั้งเป้าไปให้ถึงหมื่นล้านหรือไม่ “สมชาย” บอกว่า ตนไม่อยากตั้งเป็นตัวเลขขนาดนั้น เพียงแต่จะทำอย่างไรให้โตขึ้นทุกปีแบบที่ยังสมส่วนกับจำนวนพนักงาน ให้องค์กรโตไปอย่างมั่นคง และพนักงานที่ทำอยู่มีความสุขด้วย หากตั้งเป็นตัวเลขกลัวว่า คนทำงานอาจจะรู้สึกกดดัน ถ้าการไปถึงหมื่นล้านไปด้วยบรรยากาศที่มีความสุขในการทำงานก็นับเป็นเรื่องที่ดี
1
บรรดาแซนวิชอบร้อนในร้าน 7-Eleven
📌 เป้าหมายชัดเจน ทำในสิ่งที่ชอบ บริษัทต้องเหมือนบ้านหลังที่ 2
การออกโปรดักต์ใหม่ๆ ทุกเดือนเป็นเพราะต้องการให้ธุรกิจมีความเคลื่อนไหว บวกกับสร้างสีสันให้ผู้บริโภคด้วย แม้ว่า “แซนวิชแฮมชีส” จะยังครองเบอร์ 1 ขายดีตลอดกาลแบบที่ยังไม่มีใครล้มได้ แต่ทุกครั้งที่มีสินค้าตัวใหม่ก็เท่ากับการสร้างฐานรากดันยอดขายสำหรับปีต่อๆ ไป ยิ่งมีสินค้าขายติดตลาดเยอะ รายได้และการเติบโตก็จะยิ่งแข็งแรงเท่านั้น
บริษัทเข้าสู่ปีที่ 22 ส่วนการขายในเซเว่นอีเลฟเว่นเข้ากำลังสู่ปีที่ 20 ที่ทำธุรกิจมาได้ยาวนานขนาดนี้ “สมชาย” บอกว่า สำคัญที่สุดคือ “ใจ” ในการเป็นผู้ประกอบการ ตั้งเป้าหมายให้ชัดว่า อยากทำอะไร อยากเป็นมืออาชีพด้านไหน เมื่อตั้งธงไว้แล้วจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรให้ดูว่า ชอบอะไร สิ่งไหนเหมาะกับเรา จากนั้นเป็นเรื่องของคน ต้องสร้างบรรยากาศให้เหมือนบ้านหลังที่ 2 ของพนักงาน ที่ “NSL Foods” หลายคนทำงานที่นี่มานาน 20 ปี ยิ่งพนักงานอยู่ยาว เราในฐานะเจ้าของก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนคน
ในประเทศโตวันโตคืนแล้ว มีโอกาสจะไปชิมลางที่เมืองนอกบ้างหรือไม่? “สมชาย” บอกว่า บริษัทวางแผนเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน ประชากรไทยลดน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อคนน้อยลงการบริโภคก็ลดตาม NSL Foods ก็ต้องมองหาน่านน้ำใหม่ๆ ไว้รองรับ ซึ่งตอนนี้มีการส่งออกน้ำมะพร้าวไปต่างประเทศเรียบร้อย
แซนวิชชีสโทสต์เนื้อย่างจิ้มแจ่ว NPD ล่าสุดของ NSL Foods ร่วมกับเนื้อแท้
ส่วนสินค้าฮีโร่อย่าง “แซนวิชอบร้อน” ที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติมาพักใหญ่ ก็เป็นอีกส่วนที่เล็งตลาดต่างประเทศไว้เหมือนกัน รูปแบบการพัฒนาอาจจะแตกต่าง แต่รสชาติ-เนื้อสัมผัสไม่หนีกันมาก มองว่า ที่แซนวิชอบร้อนได้รับความนิยมเพราะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในคำเดียว ต่างจากแซนวิชฝั่งยุโรปหรือสหรัฐที่จะมีชิ้นหนารวมถึงราคาที่จับต้องได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งตัวอย่าง
อีกหน่อยเราคงได้เห็นแซนวิชไทยไปผงาดบนเวทีโลกกันไม่นานเกินรอ
3 บันทึก
13
1
5
3
13
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย