Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
26 มี.ค. เวลา 10:50 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 227 บ่อชะตากรรม
กล่าวถึงหลูจวิ้นอี้ตีได้เมืองเฝินหยาง 汾阳 เถียนเป้า 田豹 พ่ายหนีจากเฝินหยางไปยังอำเภอเสี้ยวอี้ 孝义县 ทัพหนุนของหม่าหลิง 马灵 จากเวยเสิ้งก็มาถึงพอดี
หม่าหลิง 马灵 เป็นชาวเมืองจวอโจว 涿州 รู้คาถาอาคม เท้าเหยียบล้อลมไฟ 风火二轮 เดินทางได้วันละพันลี้ จึงมีฉายาว่า อัศวเทพ 神驹子
ทั้งยังมีวิชาซัดอิฐทอง โจมตีคนได้ฉกาจนัก ยามออกศึก บนหน้าผากจะปรากฏดวงตาปีศาจขึ้นดวงหนึ่ง จึงมีอีกฉายาว่า หัวกวงน้อย 小华光 ตามเทพหัวกวงสามตาในลัทธิเต๋าผู้ทรงถืออิฐทองในมือหนึ่ง
ไสยเวทที่ใช้เป็นรองแต่เพียงเฉียวเต้าชิง มีทหารคนสนิทสองนายชื่อว่า อู่เหนิง 武能 และ สวีจิ่น 徐瑾 ทั้งสองร่ำเรียนวิชาอาคมมาจากหม่าหลิง จึงใช้คุณไสยได้เช่นกัน
หม่าหลิงจึงควบรวมทัพเข้ากับเถียนเป้า รวมกำลังพลเป็นสามหมื่นคน มีขุนพลโทแปดนาย คือ อู่เหนิง 武能 สวีจิ่น 徐瑾 สว่อเสียน 索贤 ตั่งสื้อหลง 党世隆 หลิงกวง 凌光 ต้วนเหยิน 段仁 เหมียวเฉิง 苗成 เฉินเซวียน 陈宣 ยกทัพมาตั้งค่ายห่างจากเมืองเฝินหยางไปทางเหนือสิบลี้
ทัพฝ่ายใต้ยกเข้าตีหม่าหลิงหลายวันติดต่อกันล้วนพ่ายแพ้กลับมา หลูจวิ้นอี้จึงถอยมาตั้งมั่นในเมืองเฝินหยาง ไม่ยกออกรบ แต่ทัพฝ่ายเหนือคงกลับเป็นฝ่ายบุกเข้าตีเมืองบ้าง จึงวิตกกังวลอยู่ พลันมีทหารรักษาประตูเมืองตะวันออกมารายงานว่า กงซุนเสิ้ง เฉียวเต้าชิง นำทัพม้าสองพันมาช่วยรบ
หลูจวิ้นอี้ให้เปิดประตูรับเข้ามา แล้วจัดโต๊ะเลี้ยงรับรอง ระหว่างนั้น หลูจวิ้นอี้ก็กล่าวว่า
“ไสยเวทของหม่าหลิงร้ายกาจนัก ทำให้ทหารฝ่ายเราบาดเจ็บกันไปหมด มีเหลยเหิง เจิ้งเทียนโซ่ว หยางสยง สือสิ้ว เจียวถิ่ง โจวยวน โจวยุ่น กงว่าง ติงเต๋อซุนสือหย่ง และขุนพลโทอีกหลายคน ผู้แซ่หลูกำลังจนปัญญา ก็พอดีท่านอาจารย์ทั้งสองมาถึง”
เฉียวเต้าชิงว่า “พรตผู้น้อยกับอาจารย์เรียนท่านแม่ทัพซ่ง อาสามาที่นี่เพื่อจับตัวหม่าหลิง”
ไม่ทันขาดคำ ทหารมารายงานว่า หม่าหลิงนำทัพมาตีเมืองทางตะวันออก อู่เหนิง สวีจิ่นนำทัพมาตีเมืองทางตะวันตก เถียนเป้านำสว่อเสียน ตั่งสื้อหลง หลิงกวง ต้วนเหยินเข้าตีเมืองทางทิศเหนือ
กงซุนเสิ้งจึงว่า “พรตผู้ยากจะออกรับศึกหม่าหลิงทางประตูตะวันออก น้องเฉียวออกรับศึกอู่เหนิง สวีจิ่นทางประตูตะวันตก ท่านแม่ทัพหลูนำทัพรับศึกเถียนเป้าทางประตูเหนือ”
หลูจวิ้นอี้สั่งการให้หวงซิ่น หยางจื้อ โอวเผิง เติ้งเฟยนำทัพไปช่วยอาจารย์อีชิง ไต้จงพอรู้ว่าหม่าหลิงรู้วิชาเทพเดินหน จึงขออาสาไปกับกงซุนเสิ้งด้วย หลูจวิ้นอี้อนุญาต
แล้วสั่งการให้เฉินต๋า หยางชุน หลี่จง โจวทงนำทัพไปช่วยอาจารย์เฉียว
หลูจวิ้นอี้นำฉินหมิง เซวียนจ้าน เห่าซือเหวิน หันเทา เผิงฉี่ออกรับศึกเถียนเป้า
อัศวเทพหม่าหลิงนำทหารมาโบกธงลั่นกลองยืนด่าท้ารบอยู่หน้าประตูตะวันออก สักพัก ทัพฝ่ายใต้ยกออกจากเมืองมาตั้งกระบวนพยุหะหนึ่งเดียวอสรพิษ 一字长蛇阵 หม่าหลิงขี่ม้าถือทวนจี่มายืนตวาดว่า
“ไอ้พวกนกเขาขี้แพ้ รีบส่งเมืองคืนมา หากชักช้า ข้าจักไม่ปล่อยให้รอดกลับไปแม้เกราะสักชิ้น”
โอวเผิง เติ้งเฟยขี่ม้าขึ้นมาด้วยกัน ตวาดสวนกลับไปว่า “ถึงคราวตายของเจ้าแล้ว”
โอวเผิงถือทวนเหล็ก เติ้งเฟยควงโซ่เหล็กเข้ารุมรบหม่าหลิง หม่าหลิงใช้ทวนจี่เข้ารับ ทั้งสามสู้กันได้สิบกว่าเพลง หม่าหลิงหยิบอิฐทองหมายจะซัดใส่โอวเผิง
กงซุนเสิ้งขี่ม้าขึ้นมาหน้าแถว ถือกระบี่ร่ายเวท พอหม่าหลิงยกมือขึ้นเตรียมซัดอิฐ กงซุนเสิ้งชี้กระบี่มา เกิดเสียงดังราวฟ้าผ่า แสงแดงวาบปกคลุม กระบี่ของกงซุนเสิ้งกลายเป็นกระบี่เพลิง อิฐทองในมือหม่าหลิงตกพื้นกลิ้งหายไป เพียงพริบตา ทัพฝ่ายใต้ทั้งนายทหารและไพร่พลรวมทั้งอาวุธมีเปลวเพลิงลุกโชติช่วง พยุหะหนึ่งเดียวอสรพิษ กลายเป็นมังกรไฟ วิชาอิฐทองของหม่าหลิงถูกสยบด้วยวิชาเทพอัคคี
กงซุนเสิ้งโบกหางกวาง ทหารเคลื่อนทัพเข้าโจมตีทัพหม่าหลิงแตกยับเยินสูญเสียไปถึงสองในสาม หม่าหลิงมีวิชาเทพเดินหนขี่ล้อลมไฟเหาะหนีไปทางตะวันออก
จอมเวทเทพเดินหนไต้จงผูกผ้ายันต์ม้าเตรียมไว้แล้ว ร่ายเวทเดินหน ถือดาบพอเตาเร่งไล่ตามหม่าหลิง วิชาของหม่าหลิงนั้นเดินได้เร็วกว่า เพียงชั่วครู่ไปไกลยี่สิบกว่าลี้ ในขณะที่ไต้จงไล่มาได้เพียงสิบเจ็ดลี้ มองไม่เห็นหม่าหลิงเสียแล้ว
หม่าหลิงที่เหาะหนีอยู่เบื้องหน้า พลันปะสงฆ์อ้วนโผล่ขึ้นมาตรงหน้าใช้ไม้เท้าหวดมาจนล้มกลิ้ง แล้วตามมาจับตัวไว้ สงฆ์อ้วนกำลังจะซักไซ้หม่าหลิง ไต้จงก็ตามมาทัน เห็นสงฆ์อ้วนที่จับหม่าหลิงไว้ก็แปลกใจว่าไฉนเป็นหลู่จื้อเซิน จึงถามว่า
“อาจารย์ทำไมมาอยู่ที่นี่”
หลู่จื้อเซินถามว่า “ที่นี่ที่ไหน”
ไต้จงว่า “ที่นี่ฟากตะวันออกนอกตัวเมืองเฝินหยาง คนผู้นี้คือหม่าหลิงขุนศึกฝ่ายเหนือ ถูกกงซุนอีชิงแก้ไสยเวทหนีมา ผู้น้องไล่ตามไม่ทันด้วยว่าหมอเดินเร็ว ดีที่อาจารย์จับได้ก่อน อย่างกับเหาะลงมาจากฟ้า”
หลู่จื้อเซินหัวเราะแล้วว่า “ส่าเจียไม่ได้ลงมาจากฟ้า แต่มุดมาจากดิน”
ทั้งสองจับหม่าหลิงมัด แล้วพากันเดินดินกลับมายังเฝินหยาง ไต้จงถามหลู่จื้อเซินอีกว่าไปมาอย่างไรจึงโผล่มาได้ หลู่จื้อเซินเดินไปคุยไปตอบว่า
“วันก่อน เถียนหู่ใช้อีนางนกเขามาไล่ฆ่าคนที่นอกเมืองเซียงหยวน นางซัดหินเป็น ทำพวกเราเจ็บไปหลายคน ส่าเจียลุยเข้าไปในค่ายจะจับอีนางนกเขา ไม่ทันระวังก้าวตกลงหลุมที่ซ่อนอยู่กลางพงหญ้า หลุมลึกนั่นตกลงไปครึ่งค่อนวันจึงถึงก้น ดีที่ไม่บาดเจ็บ
ส่าเจียนั่งอยู่ในหลุม มองไปข้างตัวยังมีอีกหลุมเป็นเหมือนถ้ำ มีแสงสว่างลอดออกมา ส่าเจียเข้าไปดู แปลกแท้ ข้างในมีฟ้ามีตะวัน มีหมู่บ้าน มีคนอยู่ด้วยทำงานง่วนอยู่ พอเห็นส่าเจีย ก็หัวเราะกัน ส่าเจียไม่สนใจถาม เดินไปเรื่อยๆ ผ่านย่านที่มีคนหนาแน่นไปก็เห็นที่ราบกว้างใหญ่เงียบสงบ ไม่มีคนอยู่
ส่าเจียเดินอยู่นาน กว่าจะเห็นอารามมุงหญ้าหลังหนึ่ง มีเสียงเคาะบักฮื้อดังโป๊กโป๊ก ส่าเจียเข้าไปดู มีพระสงฆ์หน้าตาเหมือนส่าเจียนั่งขัดสมาธิสวดมนตร์อยู่ ส่าเจียถามหาทางออก สงฆ์นั้นว่า
“มายังที่ที่มา ไปยังที่ที่ไป”
ส่าเจียฟังไม่รู้เรื่อง นึกฉุนขึ้นมา สงฆ์นั้นหัวเราะแล้วถามว่า
“ท่านรู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน”
ส่าเจียว่า “จะไปรู้ได้ไง ที่นกเขาอยู่”
สงฆ์นั้นหัวเราะอีกแล้วว่า
“เบื้องบนจรดอรูปภูมิ เบื้องล่างจรดอเวจีนรก มหาโลกธาตุสามพันเท่า (三千大千 ติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ) โลกธาตุกว้างใหญ่ไพศาล คนมิอาจรู้ได้”
สงฆ์กล่าวต่อว่า
“ปุถุชนล้วนมีจิต มีจิตย่อมมีสติ นรกสวรรค์ล้วนเกิดจากสติ ด้วยเหตุนี้ ไตรภพเพียงจิต สรรพธรรมเพียงวิญญาน มีสติไม่เกิด หกภพภูมิไม่มี หลุดพ้นสังสารวัฏ”
ส่าเจียฟังอย่างนี้จึงเข้าใจ จึงขานคารวะสงฆ์รูปนั้น สงฆ์นั้นหัวเราะแล้วว่า
“ท่านเข้ามาในบ่อชะตากรรม 缘缠井 ยากหลุดพ้นฟากฟ้ากามตัณหา 欲迷天 ข้าจะชี้ทางออกให้”
สงฆ์นั้นนำส่าเจียออกจากอารามมาได้สี่ห้าก้าว ก็บอกส่าเจียว่า
“อำลากันตรงนี้ วันหลังค่อยพบกันใหม่”
แล้วชี้มือไปข้างหน้าว่า
“ท่านออกไปนี่ก็จะได้อัศวเทพ”
ส่าเจียหันกลับมา ไม่เห็นสงฆ์นั้นแล้ว มีแสงสว่างวูบ แล้วเห็นทิวทัศน์กลับมาปกติ ปะคนผู้นี้เข้า ส่าเจียเห็นวิ่งมาท่าทางแปลกๆ จึงเอาไม้เท้าหวดล้มลง แต่ไม่รู้ว่ามาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร บรรยากาศผิดกับเมืองเจาเต๋อ 昭德 ต้นเถาหลี่ 桃李 ใบก็ใหญ่ ดอกก็ไม่มีเกสร”
(ความหมายแฝง 昭德 พบธรรม ; 桃李 ลูกศิษย์ ดอกผล)
ไต้จงหัวเราะแล้วว่า “ตอนนี้เป็นปลายเดือนสาม เถาหลี่ร่วงหมดแล้ว”
หลู่จื้อเซินไม่เชื่อ เถียงว่า “นี่เพิ่งปลายเดือนสอง ตกบ่อไป แวะอยู่เดี๋ยวเดียว จะเป็นปลายเดือนสามได้ไง”
ไต้จงได้ฟังก็งง ช่วยกันคุมตัวหม่าหลิง เดินทางต่อกลับเฝินหยาง
ทางด้านเมืองเฝินหยาง กงซุนเสิ้งขับไล่ทัพฝ่ายเหนือไปแล้ว ยกทัพกลับเข้าเมือง
ทางฝ่ายพวกหลูจวิ้นอี้ ฉินหมิง สังหารสว่อเสียน ตั่งสื้อหลง หลิงกวงไปสามขุนพล แล้วไล่ตามตีทัพเถียนเปียว ต้วนเหยินที่หนีมาทางเหนือ พอพ้นแนวสิบลี้ ก็ยกทัพกลับ ระหว่างทางพบพวกเฉียวเต้าชิงกำลังไล่ตามตีทัพอู่เหนิง สวีจิ่นที่ถอยร่นมา จึงเข้าช่วยตีกระหนาบ ทัพฝ่ายเหนือแตกยับเยิน อู่เหนิงถูกหยางชุนใช้ง้าวฟันตกม้าตาย สวีจิ่นถูกเห่าซือเหวินแทงตาย ยึดม้าและยุทโธปกรณ์ได้เป็นอันมาก
หลูจวิ้นอี้ เฉียวเต้าชิงยกทัพกลับเข้าเมืองมาถึงที่ว่าการ ก็พอดีพบหลู่จื้อเซิน ไต้จงคุมตัวหม่าหลิงมา หลูจวิ้นอี้ยินดียิ่งนัก รีบถามว่า
“หลู่จื้อเซินมาที่นี่ได้อย่างไร ศึกทางด้านพี่ซ่งกับอูหลีเป็นอย่างไร ได้ชัยไหม”
หลู่จื้อเซินจึงเล่าเรื่องที่ตนตกบ่อระหว่างที่ซ่งเจียงกำลังรบกับอูหลีอยู่ให้ฟังกันอีกรอบ ต่างพากันแปลกใจ
หลูจวิ้นอี้เห็นหม่าหลิงถูกจับมัดมา จึงแก้เชือกให้ด้วยตัวเอง หม่าหลิงได้ฟังเรื่องจากหลู่จื้อเซินมาระหว่างทาง และเห็นหลูจวิ้นอี้มีน้ำใจ จึงยอมสามิภักดิ์
1
วันรุ่งขึ้น ทัพที่รักษาเมืองจิ้นหนิง 晋宁 ส่งมอบหน้าที่แก่เจ้าเมืองใหม่ที่ราชสำนักส่งมาแล้ว เดินทางมาถึง หลูจวิ้นอี้ให้ไต้จงพาหม่าหลิงกลับไปพบท่านแม่ทัพซ่งเจียง หลูจวิ้นอี้ก็หารือกับเสธ.จูอู่ถึงแผนเดินทัพขั้นต่อไป
ทางด้านหม่าหลิงสอนวิชาเทพเดินหนที่เดินทางได้วันละพันลี้แก่ไต้จง ทั้งสองเดินทางด้วยวิชาเทพเดินหนเพียงวันเดียวก็มาถึงเจาเต๋อเข้ารายงานตัวกับซ่งเจียง แล้วเล่าเรื่องประหลาดของหลู่จื้อเซินให้ฟัง ซ่งเจียงพลอยแปลกใจไปด้วย จากนั้นซ่งเจียงก็นำข่าวความคืบหน้าไปรายงานต่อเฉินอันฝู่
ตอนก่อนหน้า : หัวศรหยกไร้ขน
https://www.blockdit.com/posts/67e132ceae1fb0a49f9ca0d3
ตอนถัดไป : จมเมืองไท่หยวน
https://www.blockdit.com/posts/67e679f7c95e1e921253d3ca
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน ภาคต้น
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย