24 มี.ค. เวลา 10:24 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 226 หัวศรหยกไร้ขน

เย่ชิงมาถึงเชิงกำแพงเมืองเซียงหยวน 襄垣 ตะโกนบอกทหารรักษาประตูเมืองว่า
“รีบเปิดประตู ข้าคือเย่ชิงเป็นทหารในจวนอู 邬府 ออกไปตามหาหมอมารักษานายท่าน นี่คือหมอเฉวียนหลิง 全灵 เฉวียนหวี่ 全羽”
ทหารรักษาประตูไปลั่นกลองรายงานที่จวนว่าการ 幕府 แล้วได้รับคำสั่งให้เปิดประตูได้ เย่ชิงนำเฉวียนหลิง เฉวียนหวี่มายังหน้าจวนว่าการพระมาตุลา ด้านในสั่งให้นำหมอเข้าไปตรวจรักษาได้ เย่ชิงนำเฉวียนหลิงเข้าไปพบองค์หญิงฉยงอิงก่อนจะไปทำการรักษา
อูหลีนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง เฉวียนหลิงจับชีพจรแล้วพอกยารักษาแผลภายนอก จัดยารักษาอาการภายใน สามวันเลือดฝาดดีขึ้น เริ่มกินอาหารได้ พอถึงห้าวัน แม้ปากแผลยังไม่หายสนิท แต่กินอาหารได้ปกติ
อูหลียินดียิ่งนัก ให้เย่ชิงตามหมอเฉวียนหลิงมาพบ อูหลีกล่าวกับเฉวียนหลิงว่า
“ได้วิชาแพทย์เทวดาของท่านรักษา แผลหายดีวันดีคืน สมควรตอบแทนท่านอย่างงาม”
เฉวียนหลิงกราบขอบคุณแล้วว่า “วิชาพื้นๆ ของผู้แซ่เฉวียน มิจำต้องเอ่ยถึง ผู้แซ่เฉวียนมีน้องชายร่วมสายเลือดชื่อเฉวียนหวี่ ติดตามผู้แซ่เฉวียนท่องวงนักเลงได้ฝึกปรือเพลงอาวุธจนมีฝีมือดีพอตัว บัดนี้มาอยู่ที่นี่ช่วยผู้แซ่เฉวียนปรุงยาพอกอยู่ ใครขอฝากให้นายท่านช่วยส่งเสริม”
อูหลีให้ตามเฉวียนหวี่มาพบ เห็นหน่วยก้านไม่ธรรมดาก็ชอบใจรับเฉวียนหวี่ไว้ให้อยู่นอกจวนคอยเรียกใช้ เฉวียนหลิง เฉวียนหวี่กราบขอบคุณแล้วออกมานอกจวน
สี่วันต่อมา ซ่งเจียงนำทัพมาตีเมือง เย่ชิงเข้ามารายงานอูหลี พร้อมทั้งบอกว่า ขุนศึกฝ่ายซ่งเจียงฝีมือฉกาจนัก คงมีเพียงองค์หญิงที่อาจขับไล่ข้าศึกได้ อูหลีรับรายงานแล้ว พาฉยงอิงมายังลานฝึกเพื่อคัดเลือกทหารเข้าทัพ เฉวียนหวี่มาขอพบยังโรงประลองฝีมือแล้วกล่าวว่า
“นายท่านมีพระคุณรับผู้น้อยไว้คอยรับใช้ บัดนี้มีศึกมาประชิดเมือง ผู้น้อยแม้ด้อยความสามารถ ขออาสานำทัพออกรับศึก จักไม่ปล่อยให้ศัตรูกลับไปได้แม้เกราะสักชิ้น”
เย่ชิงแกล้งทำเป็นโกรธกล่าวว่า “เจ้ากล้าคุยโม้โอ้อวด กล้าประลองกับข้าไหม”
เฉวียนหวี่หัวเราะแล้วว่า “อาวุธทั้งสิบแปดชนิด ข้าฝึกมาแต่เล็ก วันนี้ขอประลองกับท่านดู”
เย่ชิงขออนุญาตอูหลี อูหลีให้ประลองทวนบนหลังม้า ทั้งคู่ขึ้นม้าสู้กันหน้าโรงประลอง รุกรบกันไปมาได้ห้าสิบเพลง ไม่อาจแยกแพ้ชนะ
ฉยงอิงร่วมชมอยู่ด้วย เห็นหน้าตาเฉวียนหวี่แล้วแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“เหมือนเคยพบกันมาก่อน เพลงทวนก็เหมือนของข้าไม่มีผิด”
ตรองอยู่พักใหญ่ ก็คิดออกว่า
“ผู้ที่สอนข้าซัดหินในความฝัน มีหน้าตาแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะซัดหินเป็นไหม”
แล้วก็ขึ้นม้าถือทวนจี่ เข้าไปสกัดแยกคนทั้งสอง
ฉยงอิงเกรงว่าเฉวียนหวี่จะทำร้ายเย่ชิง หารู้ไม่ว่าทั้งคู่รู้เห็นกัน
ฉยงอิงใช้ทวนจี่เข้าโจมตีเฉวียนหวี่ เฉวียนหวี่ใช้ทวนรับ สู้กันได้ห้าสิบกว่าเพลง ฉยงอิงพลันกลับม้าควบหนีมาทางโรงประลอง เฉวียนหวี่กวดตามมา ฉยงอิงหยิบหินกลับตัวเล็งชายโครงเฉวียนหวี่แล้วซัดใส่ เฉวียนหวี่เห็นแต่แรกแล้ว ใช้มือขวารับหินไว้
ฉยงอิงเห็นรับหินได้ ก็แปลกใจยิ่ง หยิบหินซัดไปเป็นก้อนที่สอง เฉวียนหวี่เห็นฉยงอิงตวัดมือ ก็ใช้หินที่รับได้ในมือซัดกลับมา หินสองก้อนปะทะกันกลางอากาศเสียงดังลั่นแล้วร่วงลงพื้น
อูหลีเรียกเฉวียนหวี่ขึ้นมาบนโรง มอบชุดเกราะและม้าศึก แล้วให้นำทัพสองพันออกรับศึก
ในวันนั้นแม้มีเหล่าขุนศึกชมการประลองอยู่รอบลาน หลายคนยังคลางแคลงว่าเฉวียนหวี่อาจเป็นไส้ศึก แต่เห็นว่าฉยงอิงมีศักดิ์เป็นองค์หญิง เย่ชิงก็เป็นคนสนิท ประกอบกับเป็นคราวเคราะห์ของอูหลี จึงไม่มีใครเอ่ยปากค้าน
เฉวียนหวี่นำพลสองพันออกทำศึกได้ชัยชนะ ขับไล่ทัพซ่งกลับไปได้ อูหลีชอบใจยิ่งนัก
วันรุ่งขึ้น ทัพซ่งกลับมาอีก อูหลีให้เฉวียนหวี่นำพลสามพันออกรับศึก รบกันแต่เช้าถึงเที่ยง เฉวียนหวี่ซัดหินจนขุนพลซ่งรวนเรถอยทัพหนี เฉวียนหวี่ตามตีข้ามเขาอู่ยิน 五阴山 พวกซ่งเจียงถอยกรูดกลับเข้าเมืองเจาเต๋อ เฉวียนหวี่ได้ชัยอีกคำรบ อูหลีชอบใจใหญ่
เย่ชิงว่า “วันนี้ นายท่านมีทั้งคนผู้นี้ มีทั้งองค์หญิงฉยงอิง กลัวไยกับทัพซ่ง กลัวไยว่าการใหญ่จักไม่สำเร็จผล”
เย่ชิงกล่าวต่อว่า “ก่อนหน้านี้ องค์หญิงเคยตั้งปณิธานไว้ว่า ผู้ที่จะเป็นคู่ครองของนางจักต้องซัดหินเป็นเท่านั้น ขุนพลเฉวียนนั้นองอาจห้าวหาญ ไม่ลบหลู่พระเกียรติขององค์หญิง”
เย่ชิงเฝ้าตอกย้ำ ซ้ำพรหมลิขิตขีดเส้นเกณฑ์ชะตา เชือกแดงมัดมั่นมิอาจแก้ อูหลียินยอมจัดงานมงคลในวันที่สิบหกเดือนสาม รับจางชิงไปเป็นเขย
ในวันงาน แขกเหรื่อมากันเนืองแน่น เฉวียนหวี่ ฉยงอิงสวมชุดแดง คุกเข่ากราบฟ้าดินเป็นคู่ กราบอูหลีพ่อตาอุปโลกน์ มโหรีบรรเลง เครื่องหอมจุดฟุ้งทั้งงาน ถึงยามส่งตัวเข้าหอ คลอเคียงคู่ชั่วฟ้าดินสลาย 山盟海誓 เฉวียนหวี่พินิจดูฉยงอิงใต้แสงตะเกียงช่างแตกต่างจากที่เห็นในลานประลอง
指头嫩似莲塘藕,腰肢弱比章台柳。
凌波步处寸金流,桃腮映带翠眉修。
今宵灯下一回首,总是玉天仙,涉降巫山岫。
นิ้วนุ่มนิ่มดังรากบัวในบึง
เอวกลมกลึงอ้อนแอ้นหลิ่วจางไถ
ยุรยาตรเกลียวทองท้องคลื่นไป
แก้มดังท้อนวลใสรับคิ้วเรียว
ราตรีนี้ใต้แสงไฟตะเกียง
เอียงพักตร์พิศพินิจในราตรีเปลี่ยว
แม่นมั่นแท้นางสวรรค์แน่จริงเชียว
ลงมาเที่ยวแดนดินจากเขาอูซาน
นับแต่นี้เฉวียนหวี่และฉยงอิง
如鱼似水 似漆如胶
ประดุจดังมัจฉาคู่วารี
ชั่วชีวีแนบแน่นดังลงรักกาว
ในราตรีที่ร่วมหมอน เฉวียนหวี่เผยชื่อจริงแก่ฉยงอิงว่า ตนคือศรไร้ขนจางชิงขุนพลเอกแห่งทัพซ่ง ส่วนหมอเฉวียนหลิง คือหมอเทวดาอันเต้าเฉวียน ฉยงอิงก็เล่าเรื่องชีวิตอันขมขื่นในเบื้องหลังให้ฟังโดยละเอียด สนทนากันทั้งคืน
ผ่านไปสองวัน ทั้งสองประสานกันทั้งนอกในกำจัดอูหลี แล้วตามสวีเวยเข้ามาในจวน จับสังหารไปด้วย ขุนพลที่เหลือต่างยอมจำนน จางชิง ฉยงอิงสั่งการให้เก็บเรื่องสังหารอูหลีและเมืองยอมจำนนไว้เป็นความลับ ผู้ใดแพร่งพรายมีโทษประหาร จากนั้นปล่อยตัวเซี่ยเจิน เซี่ยเป่า ออกมาแบ่งหน้าที่รักษาประตูเมืองทั้งสี่ร่วมกับจางชิง เย่ชิง ให้ทหารคนสนิทของเย่ชิงนำทางอันเต้าเฉวียนไปเจาเต๋อรายงานแก่ซ่งเจียง
อู๋ย่งให้หลี่ขุย อู่ซงคุ้มกันบัณฑิตหัตถ์เทวะเซียวย่างลอบเดินทางในเวลากลางคืนมาเซียงหยวน ฉยงอิง จางชิงหาเอกสารลายมืออูหลีให้เซียวย่างเลียนลายมือร่างรายงานถึงเถียนหู่ เรื่องรับเขยเจ้า 郡马 แล้วให้เย่ชิงนำหนังสือไปยังเวยเสิ้ง
ทางด้านซ่งเจียงตั้งมั่นอยู่ที่เจาเต๋อได้สั่งการให้สว่อเชา สวีหนิงนำทัพไปตีลู่เฉิง 潞城 ได้รับรายงานกลับมาว่า
“พวกสว่อเชานำทัพไปล้อมเมืองลู่เฉิงไว้ ฉือฟาง 池方 ปิดประตูมั่นรักษาเมืองไว้ไม่ยอมออกรบ สวีหนิงจึงออกอุบายให้ทหารไปแก้ผ้าด่าท้ารบจนพวกในเมืองอดรนทนไม่ไหว เปิดประตูเมืองทุกทิศยกทัพออกรบ ทัพเราทำทีรบพลางถอยพลาง ล่อทัพฝ่ายเหนือให้ออกห่างจากเมืองมา แล้วถังปินก็นำทัพจากทางทิศตะวันออก ทังหลงนำทัพจากทางทิศตะวันตกเข้าตีเมือง ประตูทิศตะวันออกและตะวันตกปิดไม่ทัน ถังปิน ทังหลงบุกยึดเมืองได้
สวีหนิงใช้ทวนแทงฉือฟางตาย ทัพฝ่ายเหนือถูกสังหารไปห้าพันกว่า ยึดม้าศึกได้สามพันกว่าตัว ทหารยอมจำนนหมื่นกว่าคน สว่อเชานำทัพเข้าเมืองทำการปลอบขวัญราษฎร จึงมารายงานชัยชนะให้ทราบ บัญชีราษฎรและทรัพย์สินในคลังจะส่งตามมา”
ซ่งเจียงชอบใจ ให้บันทึกความชอบพวกสว่อเชา ให้รางวัลพลนำสาร แล้วให้กลับไปลู่เฉิงแจ้งให้รอคำสั่งต่อไป
ทางด้านเมืองเวยเสิ้งของเถียนหู่ได้รับรายงานว่า
“เฉียวเต้าชิง ซุนอันสามิภักดิ์ต่อข้าศึก เมืองเจาเต๋อ และลู่เฉิงแตกแล้ว”
เถียนหู่วิตกกังวลยิ่งนัก เรียกประชุมขุนนางหาหนทางแก้ไข พลันมีรายงานว่า เย่ชิงนำสารมาจากพระมาตุลาอูหลี เถียนหู่ให้เปิดสารออกอ่านความว่า
“กระหม่อมอูหลีได้รับเฉวียนหวี่มาเป็นเขย เฉวียนหวี่เป็นคนกล้าหาญมีฝีมือเข้มแข็งยิ่ง ขับไล่ทัพซ่งเจียงกลับไปเมืองเจาเต๋อ กระหม่อมจึงสั่งการให้องค์หญิงฉยงอิง และเฉวียนหวี่ยกทัพไปตีเมืองเจาเต๋อคืน จึงให้เย่ชิงมารายงานให้ทรงทราบ และขอพระราชทานอภัยโทษที่ไม่ได้ขอพระราชานุญาตก่อนรับเขย”
เถียนหู่ฟังจบ คลายกังวลไปได้บางส่วน จึงมีบัญชาแต่งตั้งเฉวียนหวี่เป็น ราชบุตรเขยแม่ทัพหน้ากอบกู้ทักษิณ 中兴平南先锋郡马 พระราชทานดอกไม้แดง แพรพรรณ เงินทอง ให้เย่ชิงอัญเชิญกลับไปเซียงหยวนพร้อมราชทูตสองนาย
ทางด้านไต้จงที่รับบัญชาให้ตระเวนแจ้งเหล่าขุนพลที่รักษาเมืองว่าหากทางราชสำนักส่งเจ้าเมืองใหม่มาประจำหน้าที่เมื่อใด ให้เหล่าขุนพลส่งมอบหน้าที่แล้วตามไปสมทบกับทัพใหญ่ที่เจาเต๋อ เมื่อตระเวนครบแล้ว ก็เดินทางไปเฝินหยางเพื่อฟังข่าวทางหลูจวิ้นอี้
ขุนศึกชุดแรกที่ส่งมอบหน้าที่แล้วเดินทางมาสมทบคือทัพจากเว่ยโจว มีกวนเสิ้ง ฮูหยันจว๋อ ทัพจากด่านหูกวน มีซุนลี่ จูถง เอี้ยนซุ่น หม่าหลิน จากเขาเป้าตู๋ มีเหวินจ้งหยง ชุยเหย่ พอรายงานตัวกับเฉินอันฝู่และซ่งเจียงแล้ว ก็รายงานเรื่องทัพเรือว่า
“นายทัพเรือหลี่จวิ้นรู้ว่ายึดได้ลู่เฉิงแล้ว จึงเคลื่อนทัพเรือมากับจางเหิง จางซุ่น สามหย่วน ถงเวย ถงเหมิ่งจากแม่น้ำเว่ย ออกแม่น้ำเหลือง มาเข้าแม่น้ำลู่ 潞水 ขณะนี้อยู่ทางตะวันออกของลู่เฉิง รอบัญชาต่อไป”
วันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงสั่งการให้กวนเสิ้ง ฮูหยันจว๋อ เหวินจ้งหยง ชุยเหย่นำทัพไปยังลู่เฉิงสมทบกับสว่อเชา และทัพเรือบุกยึดอำเภอหวีเส้อ 榆社 และต้ากู่ 大谷 เพื่อป้องกันไม่ให้หันไปสามิภักดิ์พวกจิน 金 หลังจากที่เถียนหู่ถูกปราบปรามลง
ถัดมา ทัพที่ส่งมอบหน้าที่ให้เจ้าเมืองใหม่แล้วมาสมทบเพิ่มเติมก็ทยอยมาถึง จากหลิงชวน มีหลี่อิ้ง ไฉจิ้น จากเกาผิง มีสื่อจิ้น มู่หง จากไก้โจว มีฮวาหยง ต่งผิง ตู้ซิง ซือเอิน
ทางด้านพวกฮวาหยงขณะรักษาการณ์เมืองไก้โจวนั้น ซานสื้อฉี 山士奇 แม่ทัพฝ่ายเหนือที่แตกพ่ายหนีจากหูกวน นำทหารแตกทัพหนีไปสมทบกับทหารที่อำเภอฝูซาน 浮山县 แล้วยกทัพมาตีไก้โจว พวกฮวาหยงรบป้องกันไว้ได้ จับเป็นซานสื้อฉี สังหารทหารไปสองพันกว่า พวกที่เหลือแตกหนีไป ซานสื้อฉียอมสามิภักดิ์ จึงนำตัวมาพบซ่งเจียง
ซ่งเจียงยังคงตั้งสงบอยู่ที่เจาเต๋อ ตามอุบายทำทีเกรงกลัวฉยงอิง จางชิง เพื่อหลอกล่อเถียนหู่ให้ตายใจ
ตอนก่อนหน้า : บุพเพสันนิวาส
ตอนถัดไป : บ่อชะตากรรม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา