GS.EP.8-ตรีเทพแห่งกรีก ซูส โพไซดอน เฮเดส
ในตำนานเทพปกรนัมของกรีก เทพกลุ่มหนึ่งได้ร่วมมือกันโค่นบัลลังก์ของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะทำการแบ่งการปกครองสวรรค์ ท้องสมุทร และนรกอเวจีกัน ซึ่งปกครองโดยเทพทั้งสามองค์ได้แก่ ซูส โพไซดอน และเฮเดส ซึ่งแต่ละองค์ก็มีตำนานเรื่องราวที่น่าสนใจ และนี่คือเรื่องราวของตรีเทพแห่งตำนานกรีก
สวัสดีครับ ผมห่างหายจากการหาเรื่องมาเล่าไปนาน เนื่องจากช่วงที่ผ่านมางานค่อนข้างเยอะพอสมควรเลย หลังจากนี้จะพยายามหาเรื่องมาเล่าให้ถี่ขึ้นนะครับ วันนี้รายการ G-Story ขอพักเรื่องราวลี้ลับมาเป็นตำนานปรัมปราฟังสบาย ๆ เกี่ยวกับทวยเทพกรีกกันครับ
พวกเราน่าจะรู้จากการดูหนังหลายต่อหลายเรื่อง ว่าเทพกรีกที่ใหญ่ที่สุดเหนือเทพทั้งปวงก็คือเทพซูสหรือซีอุส ที่ใช้สายฟ้าเป็นอาวุธ แต่ทว่าแท้จริงแล้วซูสปกครองแค่ในส่วนของสวรรค์ครับ ท้องทะเลได้แบ่งให้พี่น้องคนหนึ่งอย่างโพไซดอนดูแล ส่วนดินแดนนรกนั้นก็เป็นอำนาจหน้าที่ของพี่น้องอีกคนที่พวกเราชาวไทยอาจจะเคยได้ยินชื่อน้อยที่สุด นั่นก็คือเฮเดสนั่นเอง
ขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าเรื่องราวของทวยเทพกรีกนี่เป็นตำนานจริง ๆ เป็นเรื่องที่เขาเล่าต่อ ๆ กันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ แน่นอนว่าเรื่องเล่าของผมคงต้องผิดเพี้ยนไม่ตรงกับคนอื่นหรือที่บันทึกที่อื่นไว้บ้าง แต่ผมจะพยายามคงในความสำคัญไว้ให้มากที่สุด ท่านผู้ฟังที่มาฟังก็ถือซะว่ามาฟังเอาบันเทิงแล้วกันครับ
การจะเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของทวยเทพกรีกต้องเล่าย้อนกลับไปถึงต้นกำเนิดแรกเริ่มเลยครับ ชาวกรีกเขาเชื่อกันว่าจักรวาลได้เกิดขึ้นก่อนแล้วจักรวาลก็ได้สร้างท้องฟ้าและแผ่นดินขึ้นมา
ท้องฟ้าและแผ่นดินก็ไม่รู้ว่าไปทำกันยังไงก็ได้ให้กำเนิดไททันขึ้นมา บรรดาไททันเปรียบเสมือนเทพรุ่นแรกเลยครับ มีลักษณะร่างกายใหญ่โต มีพละกำลังมหาศาล และเทพรุ่นแรกเหล่านี้ก็มีอยู่หลายองค์ครับ แต่องค์ที่สำคัญและเป็นสารตั้งต้นของเรื่องราวทั้งหมดชื่อว่า โครนอส หรือในภาษาละตินเรียกว่า แซเทิร์น
โดยโครนอสได้ทำการโค่นล้มบิดาก็คือท้องฟ้าหรือเทพแห่งท้องนภาก่อนจะตั้งตนเป็นราชาแห่งเทพทั้งปวง การโค่นบัลลังก์พ่อแบบนี้ทำให้โครนอสเองก็ถูกแผ่นดินหรือพระแม่ธรณี แม่ของโครนอสทำการสาปแช่งไว้ต่อว่าบัลลังก์ที่โครนอสได้ครอบครองก็จะต้องถูกลูกของตัวเองโค่นล้มเช่นกัน
โครนอสเจอแบบนี้ก็เลยกลัวครับ และพอดีโครนอสก็มีชายานางหนึ่งชื่อเรอา ทุกครั้งที่เรอาให้กำเนิดบุตรโครนอสก็จะรีบกลืนลูกเข้าไป ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ 5 ครั้ง ก็คือกินลูกตัวเองไปแล้ว 5 คน นั่นแหละ ทีนี้อยู่ๆเรอาก็ท้องครั้งที่ 6 ครับ ทีนี้ก็กลัว ไม่อยากจะเสียลูกคนนี้ไป ตอนคลอดเสร็จก็เลยแกล้งเอาลูกคนที่ 6 เนี่ยไปซ่อน แล้วส่งก้อนหินให้โครนอสกลืนแทนทำให้ลูกคนที่ 6 รอดครับ ก่อนจะเติบโตมาเป็นซูสนั่นเอง
พอซูสโตขึ้นใช่ไหมครับก็เลยไปร่วมมือกับย่าก็คือพระแม่ธรณีหลอกให้โครนอสกินยาเพื่อคายพี่อีก 5 คน ที่โครนอสกลืนไปก่อนหน้านี้ออกมา ซึ่งพี่น้องทั้ง 5 ของซูสด้วยความเป็นเทพก็เลยไม่ตายครับ ทั้ง 5 คน ได้แก่ 1.เทพเฮเดส 2.เทพโพไซดอน 3.เทพีดิมิเทอร์ 4.เทพีเฮรา ซึ่งต่อมาเทพี 2 คนหลังจะกลายเป็นชายาและมเหสีของซูส
จะเห็นว่าถ้ายึดตามตำนานนี้แท้จริงแล้วซูสจะเป็นน้องคนเล็กนะครับ ขัดกับหนังหรือภาพยนตร์ที่เราเคยดูที่ว่าซูสเป็นพี่ใหญ่แล้วโพไซดอนกับเฮเดสเป็นน้อง
ทีนี้พอพี่อีก 5 คนของซูสออกมาได้แล้ว ก็ร่วมมือกันปราบโครนอสและทำการกักขังโครนอสกับเทพรุ่นแรกอีกหลายองค์เอาไว้ใต้พิภพลึก ลึกแค่ไหนนี่ว่ากันว่าถ้าถือทองแดงแล้วปล่อยให้ตกลงไปจะใช้เวลาถึง 18 วัน 18 คืน จะถึงจุดที่กักขังบรรดาเทพรุ่นแรก ส่วนเทพรุ่นแรกที่รอดไม่โดนกักขังก็ถูกลดชั้นไม่มีบทบาทต่อไปอีก เช่น แอตลาส ที่เราพอจะได้คุ้นหูจากการเรียนภูมิศาสตร์ เทพองค์นี้ก็โดนลงโทษให้แบกโลกใบนี้เอาไว้ชั่วกัปชั่วกัลป์
ส่วนซูสก็ถือโอกาสนี้ขึ้นบัลลังก์ปกครองทวยเทพและสรรพสิ่งแทนโครนอสนั่นเอง แต่บัลลังก์ของซูสก็ใช่ว่าจะมั่นคงนะครับ ตามตำนานหลายต่อหลายตำนานก็พบว่าถูกเทพก่อกบฏ ถูกอสูรกายท้าทายอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็สามารถปราบได้ในที่สุด
ภายหลังซูสกับพี่ชายอีกสองคนก็เลยมาตกลงแบ่งเขตจักรวาลกับปกครองครับ บ้างก็ว่าใช้วิธีการจับฉลาก แต่อย่างไรก็ตามผลสรุปก็คือซูสได้ปกครองสวรรค์และทวยเทพแห่งเทือกเขาโอลิมปัส โพไซดอนได้ปกครองท้องทะเล และเฮเดสได้ปกครองยมโลก ซึ่งหลายๆตำนานก็กล่าวตรงกันว่าเฮเดสเองก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ตัวเองต้องถูกส่งไปปกครองเหล่าภูตผีปีศาจในนรกแบบนี้ ทีนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวของเทพทั้ง 3 คน หลังจากแบ่งเขตการปกครองแล้วกันครับ
คนแรกก็คือซูส ซูสขึ้นเป็นเทพแห่งสรวงสรรค์และได้แต่งตั้งเฮราเป็นราชินีแห่งสรวงสวรรค์ ตอนที่ซูสจะไปต่อสู้โค่นล้มโครนอสผู้พ่อเนี่ย ก็ต้องการกองทัพมาช่วยรบกับบรรดาเทพรุ่นแรกใช่ไหมครับ ก็เลยไปปลดปล่อยไซคลอปต์ก็คือพวกยักษ์ตาเดียวออกมาจากการกักขังจากขุมนรก
พวกไซคลอปต์ก็แสดงความขอบคุณโดยการมอบสายฟ้าให้แก่ซูสครับ ไม่รู้เหมือนกันครับว่าพวกไซคลอปต์เขาเอาสายฟ้ามาจากไหน แต่อย่างไรก็ตามครับ สายฟ้าก็กลายเป็นอาวุธคู่ใจของซูสตั้งแต่นั้นมา โดยชาวกรีกเชื่อว่าเหตุการณ์ฟ้าแลบฟ้าร้องต่างๆเนี่ยก็เกิดมาจากฝีมือของซูสนี่เอง
ซูสนี่เป็นเทพเจ้าสำราญครับ นับว่าเป็นเทพที่ไม่มีศีลธรรม มีเมียเยอะ มีลูกเยอะมาก และพี่แกไม่สนว่าเมียใครลูกใครทั้งนั้นครับ ถ้าแกอยากได้รอดยากครับ เรื่องที่โด่งดังก็เช่นเรื่องของหญิงสาวนางหนึ่งชื่อยูโรปา ซึ่งชื่อของนางก็เป็นที่มาของชื่อทวีปยุโรป
เรื่องราวมีอยู่ว่าซูสหลงไหลในตัวนางถึงขนาดแปลงร่างเป็นวัวไปหลอกให้นางขี่ก่อนจะพานางออกมามีความสัมพันธ์จนกำเนิดบุตรในภายหลัง หรือแม้กระทั่งไปเห็นมนุษย์สาวคนหนึ่งมีสามีแล้วก็ดันชอบ แอบไปมีความสัมพันธ์กับนางจนกำเนิดฮีโร่ในตำนานชื่อดังอย่างเฮอร์คิวลิส ซึ่งแม้เฮอร์คิวลิสจะถูกยกย่องเป็นฮีโร่ลูกครึ่งเทพจอมพลัง มีการทำภาพยนตร์และการ์ตูนยกย่องมากมายแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตามตำนานแล้วเฮอร์คิวลิสถือกำเนิดมาจากการทำผิดศีลธรรมของพ่อกับแม่
อีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกสงสารเป็นพิเศษก็คือเรื่องของไอโอ บางตำนานก็ว่าไอโอเป็นบุตรสาวเจ้าเมืองเมืองหนึ่ง บางก็ว่าไอโอเป็นแม่ชี วันหนึ่งครับไอโอได้ทำพิธีบรวงสรวงเทพีเฮรามเหสีของซูส ทำให้ซูสได้มีโอกาสยลโฉมของนางแล้วก็ตกหลุมรักครับ ก็เลยพยายามเข้าฝันเพื่อไปจีบ แต่ด้วยความที่นางตั้งใจจะถือพรหมจรรย์ครับก็เลยไม่ยอมง่ายๆ
ซูสก็เลยไปเข้าฝันนางทุกคืนเลยครับ นางก็คงทนไม่ไหวมั้งครับ ไม่ได้ฝันเป็นอย่างอื่นเลยสุดท้ายก็เลยยอมตกเป็นของซูสครับ ขณะที่บางตำนานก็เล่าว่าไอโอไม่ได้ยินยอมแต่โดนขืนใจ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามซูสก็ยังมีความละอายอยู่บ้างคือกลัวเฮราจะรู้ใช่ไหมครับ ซูสก็เลยสร้างเมฆมาบังเมืองนี้เอาไว้
แต่สุดท้ายเฮราก็เห็นว่าเมฆมันหนาผิดสังเกตก็เลยแหวกดูถึงได้รู้ครับ แทนที่จะไปลงกับสามีเธอกลับไปลงกับไอโอแทน โดนสาปไอโอให้กลายเป็นวัว แค่เป็นวัวก็แย่แล้วนะครับยังส่งตัวเหลือบไรไปจิกกัดไอโอทั่วร่างกายจนทำให้นางต้องหนีเงื้อมมือของเฮราข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอียิปต์
เทพคนต่อมาที่ผมจะมาเล่าสู่กันฟังก็คือโพไซดอนครับ บางตำนานก็เล่าว่าโพไซดอนเป็นพี่ซูส บางตำนานรวมทั้งในภาพยนตร์และนิทานต่าง ๆ เราจะเห็นบทบาทของโพไซดอนในฐานะน้องครับ แต่ที่แน่ ๆ คือทุกตำนานตรงกันอยู่ตรงที่ว่าโพไซดอนเป็นลูกชายคนกลางของโครนอส
ว่ากันว่าโพไซดอนเนี่ยเป็นเทพที่มีฤทธิ์มากเป็นรองแค่ซูสเท่านั้น มีบทบาทในการปกครองท้องทะเล มหาสมุทร รวมทั้งภูตปีศาจในท้องทะเล นักเดินเรือและชาวประมงต้องทำการเคารพสักการะโพไซดอนก่อนออกเรือเพื่อป้องกันคลื่นลมและพายุ เวลาที่ท้องทะเลปั่นป่วนก็จะเชื่อกันว่าเกิดจากเทพโพไซดอนพิโรธนั่นเอง และยังเชื่อกันว่าโพไซดอนเป็นคนมอบม้าตัวแรกให้กับมนุษย์
โพไซดอนมีวังใต้มหาสมุทรที่วิจิตรงดงาม แต่กลับไม่ชอบอยู่วังตัวเองครับ ชอบอาศัยอยู่ที่โอลิมปัสกับเทพองค์อื่น ๆ มากกว่า อาวุธประจำกายคือตรีศูลหรือสามง่าม
ก่อนหน้าที่โพไซดอนจะถือกำเนิดขึ้นใช่ไหมครับ ได้มีเทพรุ่นแรกคนหนึ่งดูแลน่านน้ำอยู่แล้วนามว่า โอเซียนัส เดาว่าชื่อนี้ภายหลังถูกเอามาตั้งเรียก ocean ที่แปลว่ามหาสมุทรครับ ทีนี้พอโพไซดอนกับพี่น้องร่วมกันโค่นอำนาจของพ่ออย่างโครนอสและเทพรุ่นแรกลงสำเร็จ เทพโอเซียนัสก็เลยตกกระป๋องครับ
แต่เป็นการตกกระป๋องที่น่าสนใจ ก็คือเทพโพไซดอนไปปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งชาวกรีกตอนนั้นเขายกให้เป็นมหาสมุทรเลยครับ เพราะมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตชาวกรีกมาก ส่วนโอเซียนัสต้องระเห็จไปปกครองห้วงสมุทรซึ่งเป็นน้ำไหลวนรอบโลกที่ไม่มีบทบาทอะไรแทน ที่บอกว่าน่าสนใจก็เพราะไอห้วงสมุทรที่ว่าเนี่ยมันมีอาณาเขตกว้างใหญ่กว่าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ชาวกรีกรู้จักนั่นเอง
โพไซดอนมีมเหสีชื่อแอมฟิไทรทิ ซึ่งกว่าจะได้แอมฟิไทรทิมาก็ไม่ง่ายเลยครับเนื่องจากแอมฟิไทรทิเป็นลูกสาวของเทพโอเซียนัสเทพรุ่นแรกที่โดนลดชั้นนั่นเอง ทำให้แอมฟิไทรทิไม่ได้ยินดีจะเป็นมเหสีนักในตอนแรกถึงกับต้องหนีข้ามมหาสมุทรเป็นหนังอินเดียเลยครับ แต่สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือของสัตว์น้ำทั้งหลายก็เลยได้คู่กันในที่สุดและมีบุตรด้วยกันอีกหลายคน
วีรกรรมความเจ้าสำราญของโพไซดอนนี่ไม่ได้น้อยหน้ากว่าซูสเลยครับ มีเรื่องเล่ามากมายที่เกี่ยวข้องกับการผิดศีลธรรมของโพไซดอน เรื่องเด่นๆก็ได้แก่ โพไซดอนไปติดพันนางไม้นางหนึ่งชื่อซิลลาครับ ปกติแล้วมเหสีอย่างแอมฟิไทรทิมักจะไม่ค่อยหึงหวงเท่าไหร่ถ้าเทียบกับที่เฮรามเหสีของซูส แต่ไม่รู้เกิดไรขึ้นครับกรณีนี้ แอมฟิไทรทิกลับยอมไม่ได้
เมื่อสบโอกาสก็แอบใส่ยาพิษลงในสระน้ำที่นางไม้ชอบมาอาบ พอซิลลามาอาบน้ำสระผมที่นี่ก็ทำให้ร่างของเธอกลายร่างเป็นปีศาจที่น่ากลัวจนตัวเองรับสภาพตัวเองไม่ได้ต้องหนีไปยังเกาะที่ห่างไกลผู้คนแล้วดำรงชีวิตโดยการจับคนที่เดินเรือผ่านไปผ่านมากินเป็นอาหารแทน
อีกวีรกรรมที่โด่งดังจนผู้คนรู้จักเป็นอย่างดีก็คือเรื่องราวของเมดูซ่า พอพูดชื่อนี้ท่านผู้ฟังคงร้องอ๋อ นึกถึงปีศาจสาวที่มีผมเป็นงูใครจ้องตาจะกลายเป็นหิน ท่านผู้ฟังเชื่อไหมครับว่าเรื่องราวของเมดูซ่าน่าสงสารมาก เรื่องมีอยู่ว่าเดิมทีนางเป็นเทพีนางหนึ่งในสังกัดของเทพีอธีน่าขึ้นชื่อเรื่องความงามมากโดยเฉพาะเส้นผม เมดูซ่าปฏิญาณตนว่าจะครองพรหมจรรย์ไปตลอดชีวิต แต่ทว่าความงามของนางดันไปเตะตาของโพไซดอนเข้า
วันดีคืนร้ายโพไซดอนได้แอบเข้าไปในวิหารพาเทนอล ที่เป็นวิหารสำหรับบูชาเทพอธีน่า และทำการขืนใจนางเมดูซ่าเป็นผลสำเร็จ เทพีอธีน่ารู้เรื่องเข้าก็โกรธครับ แต่แทนที่จะไปเอาเรื่องกับโพไซดอนที่มีฤทธิ์มากกลับไปลงโทษกับเมดูซ่าที่ไม่มีทางสู้เฉย โดยสาปให้นางเป็นปีศาจผมเป็นงูและหากใครจ้องตาต้องกลายเป็นหินแบบที่เรารู้จักกันนั่นเอง ซึ่งนางก็ต้องมาตายด้วยมือของเพอร์ซีอุสบุตรของซูส
เทพองค์สุดท้ายที่ผมจะมาเล่าถึงก็คือเฮเดส ซึ่งน่าจะคุ้นหูชาวไทยอย่างพวกเราน้อยที่สุด บางตำนานก็ว่าเป็นพี่คนโตของซูส บ้างก็ว่าเป็นน้องชายคนเล็ก เฮเดสเป็นราชาแห่งโลกหลังความตายครับ หรือนรกนั่นเอง จะปกครองเหล่าวิญญาณและปีศาจต่างๆ คำว่าเดสในชื่อของเฮเดสพ้องเสียงกับคำว่าดิสในภาษาละตินที่แปลว่าร่ำรวย ทำให้เฮเดสกลายเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งไปด้วยในเวลาเดียวกันครับ โดยอาวุธประจำกายของเฮเดสก็คือคฑาสองง่าม
ดินแดนที่เฮเดสปกครองนั้นชาวกรีกเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะได้เข้าไปหลังจากเสียชีวิต แต่ในภาพยนตร์ นิทาน หรือวรรณกรรมต่างๆเราจะพบเห็นทางไปยังปรโลกแปลกๆที่คนยังไม่ต้องตายก็ไปได้เฉย ซึ่งเมื่อมาถึงดินแดนนี้แล้วยมทูตจะมารับวิญญาณแล้วพามาพบกับแม่น้ำสติกซ์ วิญญาณทุกดวงจำเป็นต้องข้ามแม่น้ำสายนี้เพราะบังลังก์ของเฮเดสอยู่อีกฟากหนึ่ง
ซึ่งการที่วิญญาณจะข้ามแม่น้ำนี้ต้องใช้บริการของเรือแจวที่คิดค่าบริการ 1 เหรียญเป็นค่าโดยสาร ความเชื่อนี้นำไปสู่การวางเหรียญไว้บนศพของชาวกรีกเพื่อใช้ไปเป็นค่าโดยสารนั่นเอง ทีนี้ก็จะมีอีก 2-3 ด่านครับก็จะได้ไปพบเทพเฮเดส เมื่อมาถึงบัลลังก์ของเฮเดสก็จะถูกพิพากษาตัดสินความดี วิญญาณที่ทำความดีก็จะได้ขึ้นสวรรค์แต่จะเป็นคนละสวรรค์กับที่สถิตของบรรดาเทพเจ้านะครับ ส่วนคนชั่วก็จะถูกส่งลงขุมนรกชื่อว่า ทาทารัสและรับการลงทัณฑ์อย่างทรมาน
เฮเดสนั้นเรื่องความรักจะอาภัพกว่าเหล่าพี่ชายน้องชายอย่างซูสและไพไซดอนครับ เพราะทั้งสองคนนี้มีหญิงสาวมาติดพันมากมายเต็มไปหมด แต่เฮเดสที่อาจจะมีภาพลักษณ์ที่ดูร้ายกาจที่สุดกลับไม่มีสตรีเคียงข้างเลย วันหนึ่งเฮเดสทนต่อความเหงาไม่ไหวครับเลยฝากงานให้เทพตุลาการกับเทพีแห่งชะตาทำหน้าที่แทนก่อนจะควบรถม้าเหาะขึ้นไปผจญภัยในพื้นพิภพและได้บังเอิญผ่านทุ่งดอกไม้แห่งหนึ่งที่เทพีเพอร์ซิโฟนีซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของตัวเอง กำลังเล่นสนุกสนานกับนางกำนัลก็เกิดหลงรัก
เฮเดสไม่ได้มีชั้นเชิงการจีบหญิงแบบซูสหรือโพไซดอนที่จะต้องมานั่งแปลงกาย ต้องมาเข้าฝันใดๆทั้งนั้นเลยครับ อาศัยความดิบควบรถค้าไปฉุดขึ้นรถแล้วควบรถม้าหนีไปเอาดื้อๆเสียอย่างนั้นเลย
แม่ของเทพีเพอร์ซิโฟนีก็คือเทพีดิมิเตอร์ซึ่งเป็นเทพแห่งความเจริญงอกงาม ความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์พืช พอลูกสาวหายไปก็โศกเศร้านำพาความแห้งแล้งมาสู่โลก นางก็สืบไปเรื่อยๆว่าลูกสาวหายไปไหนจนสืบรู้ว่าเฮเดสเป็นคนลักพาตัวไป ก็เลยไปฟ้องเทพซูสครับ เทพซูสก็เห็นว่าการที่เทพีดิมิเตอร์โศกเศร้าจนลืมบันดาลให้ธัญพืชงอกงามนั้นได้สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งโลก จึงได้ส่งเทพเฮอร์เมสไปเจรจาขอตัวเทพีเพอร์ซิโฟนีคืน แต่เฮเดสไม่ยอมคืนง่าย ๆ ครับ
เฮอร์มิสเลยอ้างว่าที่ปรโลกแห่งนี้เป็นที่ของคนตายจึงไม่ใช่ที่ของเทพีเฟอร์ซิโฟนี หากอยู่ต่อไปจะถือเป็นการผิดกฎธรรมชาติ แต่เฮเดสนั้นก็ไม่ได้ด้อยปัญญาเสียทีเดียวครับสามารถตอบโต้กลับได้ว่าเทพีเพอร์ซิโฟนีได้กินทับทิมไปแล้ว 4 เม็ด จึงถือว่านางเป็นคนของปรโลกแล้ว
เทพซูสก็ไม่รู้จะทำยังไงครับ กลัวว่าจะเกิดความบาดหมางกันก็เลยออกคำตัดสินว่าในแต่ละปีให้เทพีเพอร์ซิโฟนีเป็นราชินีแห่งปรโลกเป็นเวลา 4 เดือน และสามารถกลับมาอยู่กับแม่ได้อีก 8 เดือน สลับกันไป ช่วงเวลาที่เทพีเพอร์ซิโฟนีได้อยู่กับแม่บนพื้นโลกเลยกลายเป็นช่วงเวลาที่พืชพรรณเจริญงอกงาม ส่วนช่วงเวลาที่นางต้องลงไปอยู่ปรโลกจึงกลายเป็นฤดูกาลแห่งความแห้งแล้งไป
เรื่องความเจ้าชู้ของเฮเดสนั้นอาจจะสู้พี่น้องของเขาไม่ได้ แต่ก็นับว่ามีบ้างครับ แต่ผู้หญิงที่เฮเดสไปเกี่ยวข้องด้วยก็มักจะเจอแม่ยายอย่างเทพีดิมิเตอร์และมเหสีอย่างโพซิโฟนีจัดการไปเสียหมด
#ซูส #โพไซดอน #เฮเดส #zeus #poseidon #hades #history #ที่นี่มีเรื่องเล่า #ประวัติศาสตร์ #gstory
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
