27 เม.ย. เวลา 05:00 • ไลฟ์สไตล์

ตกงาน หางานยาก อย่าเพิ่งยอมแพ้! เช็ก 5 เคล็ดลับเพิ่มโอกาสได้งานไว

ลองนึกภาพว่าคุณทำงานที่เดิมมาหลายปี แต่จู่ๆ ก็ถูกเลิกจ้างและต้องกลับไปเริ่มต้นหางานใหม่อีกครั้ง ในช่วงอายุที่อาจหางานได้ยากกว่าเดิม แม้คุณจะมีประสบการณ์แน่นและผลงานดี แต่กลับพบว่าการหางานใหม่ไม่ง่ายอย่างที่คิด บางคนสมัครงานไปแล้วหลายที่แต่แทบไม่ได้รับการตอบกลับจากบริษัทเลย
ใครกำลังเจอสถานการณ์นี้รู้ไว้ว่าคุณไม่ได้เผชิญปัญหานี้อยู่ลำพัง เพราะปัจจุบันตลาดแรงงานทั่วโลกต่างก็ซบเซาไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ ขณะเดียวกัน ตามรายงานผลสำรวจล่าสุดของ Jobscan (เว็บไซต์ช่วยวิเคราะห์เรซูเม่ของผู้สมัครว่าเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัครไปหรือไม่) ระบุว่า
มีเพียง 16% ของผู้สมัครงานเท่านั้น ที่มั่นใจว่าจะหางานที่เหมาะสมได้ ในขณะที่ 44% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ชี้ว่า พวกเขาไม่ได้รับการติดต่อสัมภาษณ์งานเลยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
1
สาเหตุที่ทำให้วัยทำงานหางานยากในช่วงปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดแรงงานเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะนายจ้างในยุคนี้มีการใช้เทคโนโลยีคัดเลือกผู้สมัครให้ได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น ดังนั้น หากผู้สมัครงานเข้าใจความท้าทายเหล่านี้ ก็จะช่วยให้สามารถปรับตัวและหาทางแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แคโรไลน์ คาสทริลลอน (Caroline Castrillon) นักเขียนอาวุโส และโค้ชด้านอาชีพ การเป็นผู้ประกอบการ และความก้าวหน้าในอาชีพการงาน พูดถึงประเด็นนี้ผ่าน Forbes ว่า โดยส่วนใหญ่ผู้สมัครงานมักจะเผชิญ 5 ปัญหาหลักๆ ระหว่างการหางานใหม่ และเธอมีคำแนะนำ 5 ประการ เกี่ยวกับแนวทางรับมือปัญหาเหล่านั้น เพื่อเพิ่มโอกาสได้งานที่ต้องการมากขึ้น
📌 ปัญหา 1: ใช้เวลาหางานนานกว่าที่คิด
การหางานในยุคนี้ใช้เวลานานขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา จากรายงานของ Jobscan ระบุว่า 32% ของผู้หางานต้องใช้เวลากว่า 6 เดือนกว่าจะได้งานใหม่ ความล่าช้านี้ทำให้เกิดความเครียด ความมั่นใจลดลง และส่งผลกระทบต่อการเงินของผู้สมัคร งานจำนวนมากมีผู้แข่งขันสูงและกระบวนการคัดเลือกก็ซับซ้อนขึ้น ต้องผ่านการสัมภาษณ์หลายรอบ และการทดสอบต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน ส่งผลให้กระบวนการจ้างงานกินเวลายืดเยื้อออกไป
วิธีแก้ปัญหานี้: เพื่อให้การหางานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้สมัครควรหมั่นปรับปรุงวิธีสมัครงานของตนเองอยู่เสมอ อาจต้องแก้ไขเรซูเม่หรือพัฒนาแนวทางการสัมภาษณ์ให้ดีขึ้น และควรตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น การสมัครงานเพิ่มขึ้นในแต่ละสัปดาห์
อีกทั้งคุณควรลองเข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายในสายงาน เพื่อรักษาแรงจูงใจและเพิ่มโอกาสในการได้งาน รวมถึงควรใช้เวลาว่างไปกับการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือเข้าคอร์สเรียนออนไลน์อาจช่วยให้คุณโดดเด่นขึ้นในสายตานายจ้าง
📌 ปัญหา 2: หางานที่ตรงกับความสามารถยาก
ผู้หางานจำนวนมากพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะหางานที่ตรงกับทักษะและประสบการณ์ของตนเอง ข้อมูลจาก Jobscan ระบุว่า 30% ของผู้สมัครมีปัญหาในการหาตำแหน่งที่เหมาะสม ปัญหานี้เกิดจากตลาดแรงงานที่มีความเฉพาะทางมากขึ้น นายจ้างต้องการทักษะเฉพาะด้านมากกว่าทักษะทั่วไป นอกจากนี้ การทำงานทางไกลที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้มีผู้สมัครจากทั่วโลกแข่งขันกันในตำแหน่งเดียวกัน
วิธีแก้ปัญหานี้: หากต้องการเพิ่มโอกาสให้ได้งานเร็วขึ้น ผู้สมัครควรขยายช่องทางการหางานออกไปนอกเหนือจากเว็บไซต์หางานทั่วไป เช่น ใช้ LinkedIn หรือแพลตฟอร์มเฉพาะทางของสายงานที่สนใจ การสร้างเครือข่ายก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ 60% ของนายจ้างพิจารณาผู้สมัครจากการแนะนำของพนักงานที่มีอยู่เดิมในองค์กร นอกจากนี้ การเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน เช่น ทักษะด้านเทคโนโลยี อาจช่วยให้คุณได้งานง่ายขึ้น
📌 ปัญหา 3: เรซูเม่แบบเดียวกันไม่ได้เหมากับการสมัครในทุกสายงาน ต้องปรับแต่งใหม่
การสมัครงานแต่ละครั้งจำเป็นต้องปรับแต่งเรซูเม่ให้เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ๆ ซึ่งเป็นงานที่ใช้เวลามาก Jobscan พบว่า 26% ของผู้หางานรู้สึกว่า การต้องปรับแต่งเรซูเม่แต่ละครั้งเป็นอุปสรรคสำคัญ เพราะนายจ้างมักมองหาเรซูเม่ที่สอดคล้องกับใบประกาศรับสมัครงาน โดยเฉพาะการใช้คำสำคัญที่ตรงกับตำแหน่งที่สมัคร
วิธีแก้ปัญหานี้: คุณต้องสร้างแพทเทิร์นใบสมัครงานหลักเอาไว้ก่อน แล้วค่อยปรับแต่งให้เหมาะสมกับการสมัครงานของแต่ละบริษัท การทำเรซูเม่ที่เหมาะสมนั้น จะช่วยเพิ่มโอกาสได้สัมภาษณ์ถึง 10.6 เท่า เพื่อให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น โดยเรซูเม่หลักนั้นจะต้องมีรายละเอียดที่ครอบคลุมประสบการณ์ทั้งหมด แล้วเลือกเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการสมัครแต่ละตำแหน่งงาน นอกจากนี้ ควรเน้นผลสำเร็จในงานที่คุณเคยทำได้ เช่น “เพิ่มยอดขายขึ้น 20% ภายใน 6 เดือน” แทนที่จะบรรยายหน้าที่งานอย่างกว้าง ๆ
📌 ปัญหา 4: ระบบคัดกรองอัตโนมัติ (ATS) ทำให้เรซูเม่คุณถูกคัดออก
ปัจจุบัน 98% ของบริษัทใหญ่ใช้ระบบ ATS ในการคัดกรองใบสมัคร และผู้สมัครจำนวนมากไม่สามารถผ่านการคัดกรองนี้ ระบบ ATS ถูกนำมาใช้วิเคราะห์คำสำคัญและโครงสร้างของเรซูเม่ เพื่อตัดสินว่าผู้สมัครเหมาะสมหรือไม่ หากเรซูเม่ไม่มีคำที่ตรงกับประกาศงาน หรือใช้รูปแบบที่อ่านยาก อาจถูกคัดออกทันทีโดยไม่มีโอกาสเข้าถึงฝ่ายบุคคล
วิธีแก้ปัญหานี้: ต้องอย่าลืมใส่คำสำคัญจากประกาศงานลงไปในเรซูเม่ทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้กราฟิกยากๆ หรือฟอนต์ที่อ่านยากๆ และใช้ไฟล์ในรูปแบบมาตรฐานอย่าง PDF หรือ Word เพื่อให้ ATS อ่านข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
📌 ปัญหา 5: พยายามเขียนเรซูเม่ให้กระชับ จนบางครั้งใส่ข้อมูลไม่ครบถ้วน
อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้สมัครงานพบกันมาก คือ การต้องเขียนเรซูเม่ให้กระชับแต่ยังคงข้อมูลที่จำเป็น ตามรายงานของ Jobscan พบว่า 22% ของผู้หางานประสบปัญหานี้ การเขียนเรซูเม่ที่ยาวเกินไป อาจทำให้นายจ้างมองข้ามประเด็นสำคัญ ในขณะที่ หากเขียนเรซูเม่สั้นเกินไปก็อาจไม่สามารถแสดงศักยภาพของผู้สมัครได้อย่างเต็มที่
วิธีแก้ปัญหานี้: แนวทางที่ดีที่สุดคือการโฟกัสไปที่ประสบการณ์การทำงานล่าสุดของคุณ และความสำเร็จที่วัดผลได้ และควรใช้ Bullet Points เพื่อให้อ่านง่าย และเขียนจดหมายสมัครงานที่เสริมข้อมูลเพิ่มเติม โดยไม่ทำให้เรซูเม่ยาวเกินไป
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในการหางานทั้ง 5 ข้อข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำบางส่วนเท่านั้น ยังมีเคล็ดลับและเทคนิคการหางานอีกมากมายที่วัยทำงานควรหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติม และอย่าลืมว่า.. การหางานในยุคปัจจุบันต้องใช้ความอดทนและการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง อย่าหมดกำลังใจแม้ว่าจะใช้เวลานาน พยายามพัฒนาทักษะใหม่ต่อไปเรื่อยๆ และขยายเครือข่ายของตนเอง ความพยายามอย่างเต็มที่ จะช่วยให้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูงได้มากกว่าคนอื่นแน่นอน!
โฆษณา