26 เม.ย. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Vaseline” (วาสลีน) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในตำนานที่มีอายุมานานกว่า

154 ปี
Vaseline (วาสลีน) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 154 ปี โดดเด่นด้วยคุณสมบัติในการบำรุง และปกป้องผิว ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1870 โดย โรเบิร์ต เชสโบรห์ (Robert Chesebrough) นักเคมีชาวนิวยอร์ก
.
เรื่องราวของ Vaseline เริ่มต้นจากการค้นพบสารชนิดหนึ่งจากก้นบ่อของแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยปี ค.ศ. 1859 Robert ในวัย 22 ปีได้เดินทางไปเยี่ยมชมแหล่งน้ำมันในเมืองไททัสวิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย และเขาได้บังเอิญไปเห็นคนงานในอุตสาหกรรมใช้สารเหนียว ๆ ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เพื่อรักษาบาดแผล และผิวแห้งกร้าน
.
Robert เกิดความสงสัยจึงถามคนงานว่าสารชนิดนี้คืออะไร จนได้คำตอบว่าสารชนิดนี้คือ “Rod wax” เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งจะต้องกำจัดออกจากปั๊มแท่นขุดเจาะน้ำมันเป็นระยะ ๆ เพราะสารชนิดนี้จะทำให้เครื่องจักรทำงานผิดปกติ แต่ทั้งนี้คนงานในอุตสาหกรรมน้ำมันกลับสังเกตเห็นว่าสารชนิดนี้มีคุณสมบัติในการรักษาบาดแผล และผิวแห้งกร้าน จึงเริ่มนำสารชนิดนี้มาทาลงบนผิว
.
เมื่อได้ยินเช่นนั้น Robert ก็เกิดความสนใจเป็นอย่างมาก เขามองเห็นศักยภาพของสารชนิดนี้ จึงนำตัวอย่างกลับไปที่ห้องทดลองของเขาในบรู๊คลิน นิวยอร์ก และเริ่มทดลองโดยใช้เวลานานถึง 6 ปี จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการสกัดสารดังกล่าวให้มีความบริสุทธิ์เป็นเจลลี่ใส และตั้งชื่อว่า “Petroleum jelly” (ปิโตรเลียมเจลลี่)
.
ในปี ค.ศ. 1865 Robert ได้จดสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์นี้ภายใต้ชื่อ “Vaseline” และก่อตั้งบริษัท Chesebrough Manufacturing Company ขึ้นมา เพื่อผลิต และจำหน่าย Vaseline ออกสู่ตลาด (ชื่อ Vaseline มาจากคำว่า Wasser ในภาษาเยอรมันแปลว่า “น้ำ” และคำว่า “έλαιον” ( Elaion ) ในภาษากรีกแปลว่า “น้ำมัน”)
ในปี ค.ศ. 1870 ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ Vaseline ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และในปีเดียวกันนี้ Robert ก็ได้เปิดโรงงานในบรู๊คลิน นิวยอร์ก แล้วเริ่มโฆษณาสินค้าของเขา โดยใช้รถม้าขับไปทั่วเมืองเพื่อโปรโมท
.
นอกจากจะเชี่ยวชาญด้านเคมีแล้ว Robert ยังมีความคิดด้านการตลาดที่เป็นเลิศอีกด้วย เขาเดินทางไปโปรโมทผลิตภัณฑ์ของเขาด้วยตัวเอง และทดลองให้ผู้บริโภคเห็น โดยทำให้ผิวหนังแห้งด้วยกรด หรือเปลวไฟ จากนั้นก็ทา Vaseline ลงบนผิว ซึ่งการสาธิตที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ ทำควบคู่ไปกับการแจกตัวอย่างฟรีด้วย สิ่งนี้ช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภคได้อย่างล้นหลาม
.
ในช่วงแรก Vaseline ถูกวางตลาดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ แต่ไม่นานก็เริ่มขยายการใช้งานให้กว้างขวางขึ้น ผู้บริโภคค้นพบว่า Vaseline มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ไปจนถึงการรักษาบาดแผล ผดผื่น และรอยไหม้เล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ Vaseline จึงกลายเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้าน
.
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกไฟไหม้ ดังนั้นบริษัท Chesebrough Manufacturing Company จึงได้รับมอบหมายจากนายพลศัลยแพทย์ให้ผลิตผ้าพันแผลฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมเจลลีส่งไปใช้ในช่วงสงคราม เนื่องจาก Vaseline มีคุณสมบัติในการรักษาบาดแผลเล็กน้อย และป้องกันการติดเชื้อ
.
หลังจากสงครามจบลง ความนิยมของ Vaseline ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนได้รับฉายาว่าเป็น “ยาครอบจักรวาล” ที่รักษาได้ทุกอย่าง
นอกจาก Vaseline จะช่วยรักษาบาดแผล และผิวหนังที่แตกแห้งได้แล้ว ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังเริ่มใช้ Vaseline ในประโยชน์ด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ป้องกันผื่นผ้าอ้อมในทารก ถนอมหนังสัตว์เก่า ขัดรองเท้า หรือแม้กระทั่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เช่น ใช้เป็นลิปบาล์ม และจัดแต่งทรงผม
.
ในปี ค.ศ. 1955 บริษัท Chesebrough Manufacturing ได้รวมกิจการกับ Pond's Extract Company แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม และสุขภาพของอเมริกา และก่อตั้งเป็น Chesebrough-Pond's Inc. ซึ่งการควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายธุรกิจของ Vaseline ไปสู่สายผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมถึงโลชั่น ครีม และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่น ๆ
.
ในปี ค.ศ. 1987 บริษัท Chesebrough-Pond's Inc. ถูกซื้อกิจการโดย Unilever ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคข้ามชาติ ภายใต้การเป็นเจ้าของของ Unilever บริษัทยังคงคิดค้นนวัตกรรม และขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์ไปเรื่อย ๆ เช่น โลชั่นบำรุงผิวสูตรใหม่ ๆ , ครีมบำรุงมือ, ลิปบาล์ม, ครีมอาบน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปัจจุบัน Vaseline เป็นหนึ่งในแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชั้นนำของโลก มีจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก และยังคงเป็นที่ไว้วางใจของผู้บริโภคจำนวนมากมาโดยตลอด ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น และราคาที่จับต้องได้
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Vaseline ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ
โฆษณา