ทำความเข้าใจฉลาก “Old World Wines ” (ไวน์โลกเก่า) และ “New World Wines” (ไวน์โลกใหม่)
การอ่านฉลากไวน์อาจดูเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับมือใหม่ แต่เมื่อเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้ว เราจะสามารถเลือกไวน์ที่ตรงกับรสนิยมได้ง่ายขึ้น โดยฉลากไวน์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ Old World Wines (ไวน์โลกเก่า) และ New World Wines (ไวน์โลกใหม่)
.
ไวน์โลกเก่า และไวน์โลกใหม่ เป็นคำที่ใช้เรียกไวน์ตามแหล่งกำเนิด โดยไวน์โลกเก่าจะใช้เรียกไวน์ที่มาจากยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมนี โปรตุเกส ออสเตรีย และฮังการี ส่วนไวน์โลกใหม่จะใช้เรียกไวน์ที่ผลิตนอกเหนือทวีปยุโรป เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลีและแอฟริกาใต้
.
ไวน์โลกเก่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตมาอย่างยาวนานในทวีปยุโรป ซึ่งฉลากไวน์โลกเก่าจะมีความซับซ้อนกว่าไวน์โลกใหม่ โดยจะเน้นไปที่ที่มาของไวน์ มากกว่าสายพันธุ์องุ่น เนื่องจากในยุโรปเชื่อกันว่าดิน และสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่จะส่งผลต่อรสชาติของไวน์มากกว่าสายพันธุ์องุ่น มักออกแบบโดยรักษารูปลักษณ์ที่คลาสสิก
.
สิ่งที่มักปรากฏบนฉลากไวน์โลกเก่าได้แก่
Appellation : ชื่อพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ปลูกองุ่นในแต่ละประเทศ เช่น Bordeaux ฝรั่งเศส, Chianti อิตาลี และ Rioja สเปน
.
Classification : การจำแนกประเภท ซึ่งแต่ละประเทศมักจะมีระบบจำแนกคุณภาพไวน์เป็นของตัวเอง ตัวอย่างเช่น ในฝรั่งเศสจะจำแนกตามระบบ “AOC” (Appellation d'Origine Contrôlée) หรือ Grand Cru และในอิตาลีจะจำแนกตามระบบ “DOC” (Denominazione di Origine Controllata) หรือ “DOCG” (Denominazione di Origine Controllata e Garantita) เพื่อบ่งบอกว่าไวน์ชนิดนั้นเป็นไวน์คุณภาพสูง
.
Vintage : คือปีที่เก็บเกี่ยวองุ่น เนื่องจากในแต่ละปีสภาพอากาศจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงส่งผลต่อรสชาติ และคุณภาพของไวน์ด้วย
.
Grape Varieties : พันธุ์องุ่นส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้รับการเน้นย้ำมากนัก เช่น ไวน์ Bordeaux จะติดฉลากว่า Bordeaux โดยไม่ระบุว่าเป็นองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon หรือ Merlot เพราะคนดื่มไวน์จะรู้อยู่แล้วว่าไวน์ Bordeaux ผลิตจากองุ่น 2 สายพันธุ์นี้เป็นหลัก
.
Producer’s Name : ชื่อผู้ผลิตหรือชื่อไร่ไวน์มักจะระบุไว้บนฉลากในบางกรณี โดยเฉพาะไวน์ชั้นนำ เนื่องจากชื่อเสียงของผู้ผลิตสามารถบอกคุณภาพของไวน์ได้
Bottling Information : ข้อมูลที่บอกว่าไวน์ขวดนี้บรรจุที่ไหน
Alcohol Content : ปริมาณแอลกอฮอล์ตามปริมาตร (ABV) มักจะระบุไว้บนฉลากไวน์แบบโลกเก่า
.
ตัวอย่างฉลากไวน์โลกเก่า
Appellation : Bordeaux AOC
Producer : Château Margaux
Vintage : 2016
Additional Information : Premier Grand Cru Classé
.
ไวน์โลกใหม่เป็นไวน์ที่มีการผลิตทีหลังไวน์โลกเก่า แต่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยฉลากของไวน์โลกใหม่มักจะตรงไปตรงมามากกว่า โดยจะเน้นไปที่พันธุ์องุ่น และสไตล์ของผู้ผลิตไวน์ ซึ่งผู้ที่เริ่มดื่มไวน์สามารถอ่านฉลากแล้วเข้าใจได้ง่ายกว่าไวน์โลกเก่า มักออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สีสันสวยงาม
.
สิ่งที่มักปรากฏบนฉลากไวน์โลกใหม่ ได้แก่
Grape Variety : สายพันธุ์องุ่นจะระบุเอาไว้อย่างชัดเจน เช่น Cabernet Sauvignon, Chardonnay หรือ Pinot Noir เนื่องจากผู้ผลิตไวน์โลกใหม่เชื่อว่าพันธุ์องุ่นเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดรสชาติของไวน์
.
Regions : ไวน์โลกใหม่ก็มีการระบุภูมิภาคที่ผลิตด้วยเช่นกัน แต่จะระบุเฉพาะภูมิภาคที่โด่งดังเท่านั้น เช่น ไวน์จากหุบเขา Napa ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ก็จะเจาะจงเอาไว้ว่า Napa Valley
.
Brand หรือ Winery Name : ไวน์โลกใหม่มักให้ความสำคัญกับแบรนด์ และไร่ไวน์เป็นอย่างมาก เช่น ระบุว่า Robert Mondavi Winery ก็รู้จะทันทีเลยว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ของใคร และผลิตที่ไหน
.
Vintage : เช่นเดียวกับไวน์โลกเก่าฉลากไวน์โลกใหม่ก็มักจะระบุปีที่ผลิตไว้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามไวน์โลกใหม่บางชนิด ก็อาจจะไม่เน้นปีที่ผลิต
.
นอกจากข้อมูลดังกล่าวแล้วไวน์โลกใหม่ยังมีการระบุข้อมูลอื่น ๆ ลงในฉลากด้วย เช่น รสชาติไวน์ การจับคู่กับอาหาร และเทคนิคการผลิตไวน์
ตัวอย่างฉลากไวน์โลกใหม่
Grape Variety : Cabernet Sauvignon
Producer : Robert Mondavi Winery
Vintage : 2018
Region : Napa Valley
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
