2 เม.ย. เวลา 10:33 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 230 อภิชาตบุตร

เต้าจวินฮ่องเต้ 道君皇帝 รับรายงานข่าวชัยชนะจับเถียนหู่ได้ ทรงพอพระทัยยิ่งนัก มีพระราชโองการให้ซ่งเจียงยกทัพกลับมาเมืองหลวงเพื่อพระราชทานรางวัลและอวยยศ ไต้จงทราบข่าวนี้จากซู่ไท่เว่ยแล้วรีบใช้เวทเดินหนกลับไปรายงานซ่งเจียง
วันรุ่งขึ้น เต้าจวินฮ่องเต้มีหมายกำหนดการเสด็จโรงเรียนยุทธศาสตร์หลวง 武学 พวกขุนนางจึงมาชุมนุมรอรับเสด็จกันล่วงหน้า ระหว่างรอราชครูไฉ้จิงถือโอกาสนั่งที่ประธาน สาธยายความรู้ทางการทหารตามตำรา 坐上谈兵 เหล่าขุนนางนอบน้อมรับฟัง ยกเว้นอยู่คนหนึ่งที่เงยหน้ามองบนไม่สนใจ
คนผู้นี้แซ่หลอ 罗 ชื่อเจี่ยน 戬 เป็นชาวเมืองหยุนหนาน มณฑลต๋าโจว 云南军达州 ปัจจุบันเป็นครูสอนยุทธศาสตร์ 武学谕
ไฉ้จิงเห็นอาการเพิกเฉยต่อตนเช่นนั้นก็โกรธจัดกำลังจะระเบิดออกมา องค์โอรสสวรรค์ทรงเสด็จมาพอดี ไฉ้จิงจึงข่มโทสะ นำเหล่าขุนนางรับเสด็จ
ฮ่องเต้ทรงประทับอรรถาธิบายพิชัยสงครามจนจบลง หลอเจี่ยนครูสอนยุทธศาสตร์ ไม่เปิดโอกาสให้ไฉ้จิงได้เอ่ยสิ่งใด ชิงหมอบกราบแล้วทูลฮ่องเต้ว่า
“กระหม่อมครูสอนยุทธศาสตร์หลอเจี่ยน ขอบังอาจกราบบังคมทูลสถานการณ์ขบถของขุนโจรหวางชิ่ง 王庆 ที่ไหวยซี 淮西
หวางชิ่งก่อความไม่สงบที่ไหวยซี เข้าปีที่ห้าแล้ว ทหารหลวงไม่อาจทำอันใดได้ ถงก้วน 童贯 ไฉ้อิว 蔡攸 รับพระราชโองการให้ไปปราบไหวยซี พ่ายทัพยับเยิน แต่ด้วยเกรงพระราชอาญา จึงปิดบังเบื้องสูงกราบทูลว่า ทหารไม่คุ้นชินดินฟ้าอากาศ จึงถอยทัพชั่วคราว ส่งผลให้เหตุการณ์บานปลายกลายเป็นเภทภัยใหญ่หลวง
หวางชิ่งยิ่งได้ใจกำเริบเสิบสาน เมื่อเดือนที่แล้วตีได้เมืองหยุนอัน 云安军 อันเป็นบ้านเกิดของกระม่อม เที่ยวปล้นทรัพย์ข่มขืนเข่นฆ่าทารุณกรรมเหลือจะกล่าว ถึงบัดนี้รวมแล้วยึดไปได้แปดหัวเมือง แปดสิบหกอำเภอ
ไฉ้จิงทำตัวเป็นประมุข ผู้บุตรไฉ้อิว เสียขุนพลถอยทัพ สร้างความอัปยศอดสูสู่บ้านเมือง วันนี้ ก่อนที่ฝ่าบาทจะเสด็จมาถึง ไฉ้จิงก็ขึ้นนั่งสาธยายการทหารแทนโดยปราศจากความละอาย เลอะเลือนสับสนดังวิกลจริต ขอทรงโปรดลงโทษประหารไฉ้จิงและพวก แล้วทรงสรรหาขุนพลกล้านำทัพปราบขบถ เพื่อขจัดภัยให้ไพร่ฟ้า ปกปักรักษาบ้านเมือง คืนความสงบสุขแก่ใต้หล้า”
เต้าจวินฮ่องเต้ทรงพิโรธยิ่ง ตรัสตำหนิโทษพวกไฉ้จิงที่หลอกลวงเบื้องสูง ไฉ้จิงใช้วาจาตลบแตลงเพ็ดทูลโอรสสวรรค์ จนยังไม่ถูกลงโทษ แล้วทรงเสด็จกลับ
วันรุ่งขึ้น โหวเหมิง 侯蒙 เจ้าเมืองป๋อโจว 亳州 เข้ามาราชการยังเมืองหลวง ถวายฎีกากล่าวโทษถงก้วน ไฉ้อิวสร้างความอัปยศอดสูสู่บ้านเมือง และทูลเสนอว่า
“พวกซ่งเจียงมีความสามารถเป็นที่ประจักษ์ สร้างผลงานให้เห็น ปราบแดนเหลียว สยบเหอเป่ย ได้ชัยกลับมา บัดนี้ หวางชิ่งกำเริบเสิบสานนัก ขอทรงโปรดมีพระบัญชาให้พวกซ่งเจียงยกทัพไปปราบไหวยซี การคงสำเร็จผล”
ฮุยจงฮ่องเต้ทรงอนุมัติ มีพระบัญชาให้สำนักเสิ่งย่วน 省院 เสนอตำแหน่งที่เหมาะสมจะแต่งตั้งพวกซ่งเจียง
ข้าหลวงสำนักเสิ่งย่วนสมคบกับพวกไฉ้จิงอยู่แล้ว จึงปรึกษากันแล้วทูลตอบว่า
“หวางชิ่งตีเมืองหว่านโจว 宛州 แตก เมื่อวานจึงมีรายงานด่วนมาจากหวี่โจว 禹州 ไจ้โจว 载州 ไหลเสี้ยน 莱县 ทั้งสามแห่งนี้ล้วนขึ้นกับตงจิง นับเป็นภัยใกล้เมืองกรุงยิ่งนัก
ขอทรงมีพระบัญชาให้ เฉินกวน 陈观 ซ่งเจียงอย่าเพิ่งแวะกลับกรุง ให้รีบนำทัพไปแก้เมืองหวี่โจวโดยด่วน พวกกระหม่อมขอเสนอให้แต่งตั้งโหวเหมิงไปเป็นเสนาธิการ หลอเจี่ยน 罗戬 ก็เป็นผู้ช่ำชองพิชัยสงครามเทาเลวี่ย 韬略 ขอให้ทรงแต่งตั้งไปพร้อมโหวเหมิงไปช่วยราชการเฉินกวน
สำหรับเรื่องการอวยยศพวกซ่งเจียงนั้น เนื่องจากยังอยู่ระหว่างราชการศึก ควรรอจนปราบขบถที่ไหวยซี ได้ชัยกลับมาแล้วค่อยพิจารณา”
(เป็นความเลวของพวกไฉ้จิง ที่หวังจะกำจัดโหวเหมิง หลอเจี่ยนเสียทีเดียวจึงส่งไปยังแนวหน้า)
เต้าจวินฮ่องเต้จึงให้โหวเหมิง หลอเจี่ยนเป็นผู้อัญเชิญพระราชโองการ และนำสิ่งของพระราชทานมีเงินทองแพรพรรณ ชุดคลุม ชุดเกราะ ม้าศึก สุราพระราชทานไปยังเหอเป่ยมอบแก่พวกซ่งเจียง และให้ยกทัพกลับ ทรงแต่งตั้งเจ้าเมืองและขุนนางในตำแหน่งที่ขาดให้เร่งขึ้นไปรับหน้าที่
โหวเหมิง หลอเจี่ยนอัญเชิญพระราชโองการและสิ่งของพระราชทานสามสิบห้าคันรถมาถึงเวยเสิ้งโดยสวัสดิภาพ เปิดอ่านพระราชโองการแต่งตั้งซ่งเจียงเป็นแม่ทัพหน้าปราบตะวันตก หลูจวิ้นอี้เป็นรองแม่ทัพหน้าปราบตะวันตก แล้วให้เร่งเดินทัพไปกู้เมืองหว่านโจวและปราบหวางชิ่ง
หลังจากแจกจ่ายสิ่งของพระราชทานเสร็จแล้ว ซ่งเจียงสั่งการให้จางชิง ฉยงอิง เย่ชิงนำทัพกุมตัวเถียนหู่ เถียนเป้า เถียนเปียวมาส่งยังเมืองหลวง
กงซุนเสิ้งมาขออนุญาตนำช่างไปบูรณะรูปมังกรทั้งห้าที่ศาลเจ้าเขาห้ามังกร
ซ่งเจียงให้ ไต้จง หม่าหลิง ใช้เวทเดินหนตระเวนแจ้งเหล่าขุนพลรักษาการตามเมืองต่างๆ ว่า เมื่อส่งมอบหน้าที่ให้พวกเจ้าเมืองที่เดินทางมาถึงแล้วให้รีบมาสมทบทัพเพื่อไปปราบหวางชิ่ง
จางชิง ฉยงอิงเมื่อกุมตัวพวกเถียนหู่มาถึงกรุง พวกเถียนหู่ทั้งสามถูกลงโทษหลิงฉือ ประหารโดยแล่เนื้อจนตาย ฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องราวของฉยงอิงและมารดาที่ยอมตายก็ไม่ยอมเถียนกู่ จึงสดุดีมารดาฉยงอิงเป็นผู้รักษาพรหมจรรย์แห่งเจี้ยซิว 介休贞节县君 ให้ขุนนางท้องที่ตั้งศาลบูชา ตั้งซุ้มประตูพรหมจรรย์ และทำพิธีบูชาทุกฤดูวสันต์และสารท ส่วนฉยงอิงมีความกตัญญู แต่งตั้งเป็น เจินเสี้ยวอี๋เหยิน 贞孝宜人 บุคคลตัวอย่างแห่งความกตัญญู
กล่าวถึงความเป็นมาของหวางชิ่ง 王庆 หวางชิ่งเดิมรับราชการทหารอยู่ที่ตงจิงเมืองไคเฟิง บิดาชื่อหวางฮวา 王砉 เป็นคหบดีเมืองตงจิง ร่ำรวยจากการรับวิ่งเต้นติดสินบนเจ้าหน้าที่ ปลุกปั่นข่มขู่ ยัดข้อหาค้าความ จึงเป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไปอยู่
หวางฮวาถูกใจที่ดินสุสานเข้าแปลงหนึ่ง หมอดูฮวงจุ้ยทำนายว่าเป็นทำเลที่จะให้กำเนิดอภิชาตบุตร ที่แปลงนี้มีญาติใช้เป็นสุสานอยู่ หวางฮวาจึงสมคบกับหมอดูฮวงจุ้ยหาเหตุใส่ความให้เป็นคดีความฟ้องร้อง ต้องใช้เงินวิ่งเต้นคดีนับปีจนเงินหมด แพ้ความหวางฮวา จำต้องระเห็จจากตงจิงไปอยู่แดนไกล แต่นับเป็นโชคมหาศาลด้วยว่า หลังจากหวางชิ่งก่อขบถ ถูกลงโทษประหารสามชั่วโคตร ญาติครอบครัวแดนไกลนี้รอดได้ด้วยเคยมีคดีพิพาทกับหวางฮวา
หวางฮวาได้ที่สุสานแปลงนี้มาฝังศพบิดามารดาเสร็จ ภรรยาก็ตั้งครรภ์ พอจะครบกำหนดคลอด หวางฮวาฝันเห็นเสือเข้ามาในบ้าน ไปหมอบอยู่หน้าหอตะวันตก สัตว์ร้ายจะกล้ำกรายเข้ามาถูกเสือนี้ขับไล่ไปสิ้น พอหวางฮวาตื่นขึ้นมา ภรรยาก็คลอดหวางชิ่ง
หวางชิ่งใช้ชีวิตเสเพลมาแต่น้อย อายุสิบห้าสิบหกก็มีร่างกายบึกบึนพลกำลังมาก ไม่รักเรียนเขียนอ่าน ชอบตีไก่แข่งม้า ช่ำชองเพลงอาวุธ หวางฮวาสามีภรรยาพะเน้าพะนอเอาใจมาแต่เล็ก พอเติบใหญ่ก็สั่งสอนไม่ท้นเสียแล้ว หวางชิ่งวันวันเข้าบ่อน นอนซ่องคณิกา ดื่มสุราเป็นอาจินต์ พอพ่อแม่ต่อว่าก็พาลอาละวาด ผลาญเงินไปหกเจ็ดปีก็หมดลง จึงไปเป็นทหารยาม ได้เงินมาบ้างก็กินดื่มกับเพื่อนฝูง พอเมาแล้วเกิดเรื่องไม่พอใจก็พาลชกต่อยเป็นประจำ
วันหนึ่งกลางวสันต์ รัชสมัยพระเจ้าซ่งฮุยจงปีที่หก หวางชิ่งออกจากเข้าเวรมาเดินเล่นที่สวนวี่จินผู่ 玉津圃 (สวนขึ้นชื่อสมัยซ่ง) ทางใต้ของเมือง ผู้คนคับคั่งดังมด
上苑花开堤柳眠,游人队里杂婵娟。
金勒马嘶芳草地,玉楼人醉杏花天。
หลิ่วหลับกับเขื่อน ผกาเกลื่อน บานทั่วสวน
นงรามชวนชมบุปผามาเป็นกลุ่ม
ม้าอานทองร้องทั่วทุ่งหญ้าหอมนุ่ม
บนหอหยก หนุ่มเมามายใต้ ฟ้าซิ่งฮวา
หวางชิ่งเดินเล่นตามลำพังอยู่รอบหนึ่ง จึงมานั่งพิงหลิ่วเอนริมบึงรอเพื่อนฝูงมาร่วมดื่มสักสามจอกก่อนเข้าเมือง
สักพัก ทางฝั่งบึงข้างเหนือมีขบวนพวกกั้นปั้น 干办 หวีโห้ว 虞候 คนใช้ และแม่นมเดินล้อมเกี้ยวหลังหนึ่ง ในเกี้ยวมีสาวน้อยชดช้อยดังบุปผา นั่งเปิดม่านไม้ไผ่ชมทิวท้ศน์ หวางชิ่งนั้นเป็นเสือผู้หญิง จึงถูกกระชากวิญญานจากร่างไปแต่แรกเห็น หวางชิ่งจำพวกกั้นปั้น หวีโห้วได้ว่าเป็นคนในจวนของซูมี่ถงก้วน 枢密童贯
หวางชิ่งตามขบวนเกี้ยวมาห่างๆ จนมาถึงเขาเกิ้นเยว่ 艮岳 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือในเมืองไคเฟิง ฮุยจงฮ่องเต้ทรงให้สร้างเป็นสวนมีหินและไม้แปลกประดับ เลี้ยงนกพันธุ์หายาก สร้างหมู่ตึกศาลาริมบึง ล้อมบริเวณด้วยกำแพงแดง มีองครักษ์รักษาประตู คนภายนอกมิอาจย่างกราย
ขบวนเกี้ยวหยุดที่หน้าประตู แม่นมพยุงสาวน้อยลงจากเกี้ยวแล้วนวยนาดเข้าไปในเกิ้นเยว่ สาวน้อยผู้นี้เป็นบุตรีของถงสื้อ 童贳 น้องชายถงก้วน เป็นหลานสาวหยางเจี่ยน 杨戬 ถงก้วนเลี้ยงดูดังบุตรีตน หมั้นหมายไว้กับบุตรของไฉ้อิว 蔡攸 จึงนับเป็นว่าที่หลานสะใภ้ของไฉ้จิง มีชื่อเล่นว่า เจียวสิ้ว 娇秀 อายุสิบหก อาศัยจังหวะที่ฮ่องเต้เสด็จประทับที่เรือนหลี่ซือซือสองวัน ขอต่อถงก้วนมาเที่ยวเกิ้นเยว่ ถงก้วนจึงกำชับทหารยามไว้
เจียวสิ้วเข้าไปถึงสองชั่วโมงไม่เห็นออกมา หวางชิ่งก็หงอยเหงาเฝ้ารออยู่ด้านนอกจนท้องหิว จึงเดินไปหากินรองท้องที่ร้านริมทางสายตะวันออก รีบขยอกไปหกเจ็ดจอกแล้วรีบออกมารอสาวต่อกลัวหนีหาย ล้วงก้อนเงินหนักสองเฉียนโยนให้เสี่ยวเอ้อแล้วว่า “เดี๋ยวค่อยมาคิดเงิน”
หวางชิ่งกลับมาถึงหน้าเกิ้นเยว่ได้สักพัก เจียวสิ้วก็เดินออกมาพร้อมแม่นมแต่ไม่ไปขึ้นเกี้ยว เดินไปชมทิวทัศน์ด้านนอกของเกิ้นเยว่ หวางชิ่งเดินตามไปชมโฉมนาง
丰资毓秀,那里个金屋堪收?
点樱桃小口,横秋水双眸。
若不是昨夜晴开新月皎,
怎能得今朝肠断小梁州。
芳芬绰约蕙兰俦,香飘雅丽芙蓉袖,
两下里心猿都被月引花钩。
ถนอมมาเลอค่าล้ำ
เรือนคำใดจึงควรคู่
อิงเถาโอษฐ์น้อยพธู
นิลเนตรคู่จู่ใจเหงา
1
คงด้วยนวลเสี้ยวจันทราเมื่อราตรี
บทกวีเช้านี้จึงบาดใจเศร้า
กรุ่นกลิ่นเอื้องหุ้ยหลาน พุดตานเย้า
ใจโลดเร่าบุปผาพรรณจันทร์เจ้าเกี่ยว
(เสี่ยวเหลียงโจว 小梁州 ชื่อบทกวีเศร้า)
หวางชิ่งเห็นแต่ความงาม ใจเต้นตูมตามกวางน้อยพุ่งชนจนกระดูกเส้นเอ็นอ่อน เหมือนสิงห์หิมะถูกไฟลน เพียงพริบตาชาไปครึ่งตัว เจียวสิ้วชม้ายตามาเห็นหวางชิ่งท่ามกลางฝูงชน
凤眼浓眉如画,微须白面红颜。
顶平额阔满天仓,七尺身材壮健。
善会偷香窃玉,惯的卖俏行奸。
凝眸呆想立人前,俊俏风流无限。
คิ้วเข้มปานวาดพาดนัยน์ตาหงส์
หนวดเคราบางปรางแดงวงหน้าขาว
กระหม่อมบางหน้าผากกว้างนภาพราว
ร่างสูงราวเจ็ดฉื่อกายกำยำ
ฉลาดลวงล่อหยกฉกสุคนธ์
ถนัดล้นล่วงชำเราเกี้ยวงามขำ
ยืนหน้าหมู่ดูบ้าใบ้ไร้น้ำคำ
เสน่ห์ล้ำหล่อเหลาเฝ้าพึงใจ
เจียวสิ้วชำเลืองเห็นหวางชิ่งทรงเสน่ห์ก็พึงใจ
พวกกั้นปั้น หวีโห้วตวาดเปิดทาง แม่นมพยุงเจียวสิ้วขึ้นเกี้ยว ขบวนเกี้ยวเลี้ยวออกตกจนมาถึงศาลเจ้าเยว่ 岳庙 นอกประตูซวนเจ่า 酸枣门 หวางชิ่งก็ตามมาจนถึงศาลเจ้า ผู้คนหนาแน่นนักยากจะเบียดเข้าไปได้ แต่พอเห็นพวกหวีโห้ว กั้นปั้นก็ต้องเปิดทางให้ เจียวสิ้วลงจากเกี้ยวเพื่อเข้าไปจุดธูปบูขา
หวางชิ่งเบียดเข้าไปไม่ได้ และก็ไม่อยากโดนตะคอกไล่ด้วย จึงไปตีสนิทกับคนดูแลศาล ช่วยจุดธูปเทียน แต่สองตาแอบมองเจียวสิ้วไม่วางตา เจียวสิ้วก็ลอบชำเลืองมองอยู่
เจียวสิ้วเคยได้ฟังคนบอกเล่าว่าบุตรของไฉ้อิวคู่หมายของตนนั้นเป็นคนปัญญาอ่อนก็นึกรังเกียจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ครั้นได้มาเห็นหวางชิ่งหน้าตาดีมีเสน่ห์ ใจดวงน้อยก็พลอยหวั่นไหว
ต่งหวีโห้ว 董虞候 หนึ่งในคนจวนถงรู้จักหน้าทหารยามหวางชิ่ง เฝ้าจับตาอยู่ เดินเข้ามาตบหน้าหวางชิ่งแล้วตะคอกว่า
“นี่ลูกท่านหลานใคร เป็นแค่ทหารยามเมืองไคเฟิง บังอาจมาเบียดเสียดแถวนี้ ข้าจะรายงานนายท่าน หัวของเจ้าคงไม่อยู่ดีบนบ่าแน่”
หวางชิ่งไม่กล้าโต้เถียง ซมซานออกจากศาลมา ถ่มน้ำลายแล้วตะโกนว่า
“ถุย ข้ามันบ้า เป็นคางคกหมายเนื้อหงส์ฟ้า”
คืนนั้นก็กลับบ้านอย่างชอกช้ำใจ
ใครไปรู้ได้ว่าเจียวสิ้วกลับถึงจวนได้แต่เฝ้าคิดถึง จึงติดสินบนสาวใช้ ให้ไปถามต่งหวีโห้วจนได้รายละเอียดของหวางชิ่ง สาวใช้ยังติดต่อยายเฒ่าเซวีย 薛婆子 คนรู้จัก ให้มาเป็นหม่าป๋อลิ่ว 马泊六 แม่สื่อสานสายใยให้ชู้รัก ลอบพาหวางชิ่งเข้าจวนทางประตูหลัง ลักลอบเล่นชู้รู้กันเพียงผีสาง หวางชิ่งจึงเข้านอกออกในมาร่ำสุราเสพสุขอยู่ทุกวัน
เวลาผ่านไปสามเดือนอย่างว่องไว นับได้ว่าสุขนักมักเกิดทุกข์ วันหนึ่งหวางชิ่งเมาจนไปมีเรื่องกับจางปิน 张斌 ทหารจวนถง ความจึงแตกไปเข้าหูถงก้วน ถงก้วนโกรธ จะเล่นงานหวางชิ่ง
ตอนก่อนหน้า : อวสานเถียนหู่
ตอนถัดไป : หมอดูทำนาย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา