Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
All about เรื่องมันส์มันส์
•
ติดตาม
3 เม.ย. เวลา 17:29 • บันเทิง
Jim Thompson ชายหลายหน้า ผู้สาบสูญ (3)
วันที่ไปแล้ว ไม่ (ไ ด้ ) กลับ
The Moonlight Cottage - the Last Known Point (LKP.)
ที่พักแห่งสุดท้าย ที่จิมพักอาศัย จนถึงบ่าย วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 1967 และหลังจากนั้น ไม่มีใครได้พบเห็นจิม ทอมป์สัน ราชาไหมไทยอีกต่อไป เรียกว่า Last Known Point ( LKP. )
ปัจจุบัน รีสอร์ท ที่ตั้งบ้านตากอากาศแห่งนี้ ประกอบด้วย บ้านบังกาโล 3 หลังขนาดใหญ่ ( ตามพจนานุกรม แปลบ้านบังกาโลว่า บ้านพักตากอากาศ ) ที่ทุกวันนี้ ยังเปิดเป็นกิจการให้เช่ารายวันกันอยู่ ซึ่งมีดังนี้
1. the Sunlight Bungalow
ตั้งอยู่ด้านหน้าสุด เมื่อรถขึ้นเนินมาถึง ณ. อาณาเขตของรีสอร์ท มีขนาดหลังค่อนข้างใหญ่ ภายในตัวบ้าน แบ่งซอยเป็นห้องย่อยได้อีก 5 -10 ห้อง พักได้ประมาณตั้งแต่ 18 - 29 คน สนนราคาค่าเช่า 1,900 - 2,800 ริงกิต ต่อคืน แล้วแต่ช่วงเวลาหน้าโลว์หรือไฮ ซีซั่น
( ขณะที่เขียน เมย.ปี 2025 หนึ่งริงกิต ประมาณ 7.5 บาท )
ป้ายช่วงใกล้ถึงรีสอร์ท
2. Moonlight Bungalow *** หลังที่จิมและเพื่อน 3 คนพัก
ตามท้องเรื่อง ช่วงปี 1967 เป็นของ Dr. T.G.Ling เพื่อนนักธุรกิจชาวจีนสิงคโปร์ผู้มั่งคั่ง ของจิม
ปัจจุบัน บริหารโดย บ. Sunlight Suite มาเลเซีย
ขนาดและพื้นที่บ้าน ไล่เรี่ยกับ ซันไลท์ บังกาโล
3. Starlight Bungalow
ขนาด หลังเล็กสุด ตามชื่อ เหมือนบ้านบริวารของ ทั้งสองหลัง
ใครต้องการไปพัก เพื่อตามรอย จิม ทอมป์สัน ติดต่อได้เลยที่
ในข้อมูลที่ผมค้นมา ไม่ได้กล่าวถึงว่า ปีที่จิมไปพักนั้น รีสอร์ท มีบ้านตากอากาศเพียงแค่ มูนไล้ท์ หลังเดียว หรือมีหลังอื่นๆร่วมด้วยจำนวนกี่หลังในอาณาเขตแห่งนี้
เอาละครับ ! เราจะมา นั่ง time machine กลับไปย้อนรอยจิม ทอมป์สันด้วยกันเลย ย้อนกลับไปเมื่อ 58 ปีที่แล้ว !
ภาพแฟลช แบ้คกลับไป......
พฤหัส ที่ 23 มีนาคม 1967
จิมกับคอนนี่ นั่งเครื่องบิน จากดอนเมือง มาลงที่ปีนัง เกาะหมาก ประเทศมาเลเซีย
พักที่ปีนังหนึ่งคืน รุ่งขึ้น ศุกร์ที่ 24 มีค. ว่าจ้างรถยนต์ พร้อมโชเฟอร์ เดินทางไป Cameron Highlands สถานที่ตากอากาศ ในรัฐปาหัง ห่างจากปีนัง สองร้อยกิโลเมตรเศษ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง
แผนที่ระยะทางจากเกาะปีนัง ( มุมบนซ้าย ) ถึง Cameron 227 km. แล้วลงใต้ต่อมาชั่วโมงเศษ จะถึง Genting Highland ซึ่งใกล้กับกรุงกัวลา ลัมเปอร์
วางแผนกันว่า จิมกับ คอนนี่จะพักที่ Moonlight cottage กับ Dr. Ling เจ้าของบ้านและภริยา รวมสี่คน ในคืนวัน ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ที่ 24- 25 -26 มีนาคม
เช้าวันจันทร์ ที่ 27 มีค. ทั้งหมด วางแผนจะออกจากที่พัก คาเมรอน เดินทางโดยรถยนต์ไปพบเพื่อนนักธุรกิจชื่อ Edward Pollitz ที่ ประเทศสิงคโปร์ ( ถึงที่นั่นตามระยะทาง น่าจะช่วงเที่ยง )
ตกค่ำ มีนัดหมาย ทานดินเน่อร์กับ ฑูตสหรัฐ ประจำประเทศ สิงคโปร์ แล้วพักที่สิงคโปร์ หนึ่งคืน
รุ่งขึ้น ทั้ง4 จะนั่งรถกลับมาเลเซีย จากนั้นกลับไปพักที่ปีนัง 2-3 วัน แล้วจึงจับเครื่องบินกลับ กท.สองคนกับคอนนี่
( ภายหลัง การหายตัวไปของจิมใน ปลายเดือน มีนาคม
นาย Edward Pollitz คนนี้ อ้างว่า เขาเห็น จิม กับสตรีคนหนึ่ง ในวันที่ 27 พค. 1967 สองเดือนพอดีหลังการหายตัวของจิม โดยเห็นจิม ที่เกาะ ตาฮิติ !
Pollitz อ้างว่า เขาเรียกจิม ว่า จิม ! จิม !
แต่ชายผู้นั้น กับหญิงสาวที่หันหลังให้ ไม่ได้ตอบสนองต่อคำเรียกของเขา ทั้ง 2 ขึ้นรถยนต์ และแล่นรถหายไป )
จากคำบอกของ Pollitz มีการส่งคนไปที่เกาะ ตาฮิติ เพื่อตามหาจิม แต่คว้าน้ำเหลวกลับไป
Pollitz เพื่อนของจิมที่สิงคโปร์บอกว่า เห็นจิมกับหญิงคนหนึ่งที่เกาะ ตาฮิติ หลังการหายตัวของเขา 2 เดือน
นั่นคือ โปรแกรมการเดินทาง ทริปต่างประเทศครั้งนี้ กับคอนนี่ ส่วนเหตุการณ์จริง ที่เกิดขึ้นก็คือ.....
เนื่องจากปีนังมีสภาพเป็นเกาะ ถือเป็นรัฐหนึ่งรัฐของ ประเทศมาเลเซีย เมืองหลวงของรัฐปีนัง คือ จอร์จ ทาวน์ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ ใกล้ท่าเรือเฟอร์รี่
จากที่พัก จอร์จทาวน์ จะไป คาเมรอน โดยทางรถยนต์ ต้องขับรถไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ ขนาดใหญ่ที่ท่าเรือ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากย่าน จอร์จทาวน์ เรือเฟอร์รี่ ข้ามเกาะใช้เวลาราว 20 นาที ก็ถึงท่าเรือฝั่งแผ่นดินใหญ่ ที่ บัตเต้อร์เวิร์ธ ( ซึ่งยังถือว่าเป็นเขตในปกครองของรัฐปีนัง )
เรือ Ferry ขนาดค่อนข้างใหญ่ ชั้นล่าง บรรทุกรถยนต์ได้ประมาณลำละ 4-50 คัน
ชั้นสองของเรือ บรรทุก มอเตอร์ไซค์ และคนโดยสารเดินเท้า ได้นับร้อยคน
เมื่อ ออกจากเกาะปีนัง โชเฟอร์ พาทั้งคู่ ไปถึง คาเมรอน ไฮแลนด์ ซึ่งโดยทั่วไปใช้เวลา ประมาณ 4 ชม. ( ระยะทาง 200 กม.เศษ ) รถเริ่มไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ( ยอดสุดของ คาเมรอน ประมาณ 1,500 เมตร เหนือระดับ น้ำทะเล รองจาก Genting Highlands ซึ่งสูง 1,800 เมตร เหนือน้ำทะเล )
จากระดับพื้นถนน ขึ้นไปถึง ชุมชนเล็กๆ กึ่งทางถึงรีสอร์ท ชื่อเมือง Tapah Rata ทางจะเริ่มชันมากขึ้น
มีเหตุ ที่ภายหลัง นสพ. นิวยอร์ค ไทม์ส์ วิเคราะห์ว่า อาจจะมีความพยายามลักพาตัว จิม อีกครั้งที่ ทาปาห์
ทั้งสอง เดินทางออกจากปีนังตอนเช้า และไปถึงรีสอร์ท ที่พักที่ คาเมรอน ในบ่ายวันศุกร์ ที่ 24 มีนาคม
ภาพนี้ถ่ายเมื่อ กลางกุมภา 2025 ฝีมือผมเอง
สนามหญ้าข้างตัวบ้าน ได้รับการดูแลอย่างดี ทุกวันนี้
ภายในห้องพัก Moonlight bungalow ( ภาพจากเว้ป )
มุมมองโลกภายนอก จากในห้องพักที่บ้านแสงจันทร์ ( ภาพจากเว้ป )
24 มีนาคม ถึงรีสอร์ท และรุ่งขึ้น เสาร์ที่ 25 มีนาไปสโมสรที่ สนามกอล์ฟ โดยจิมและ ดร.หลิงจะเดินไป
แต่จิมก็พา ดร.หลิงหลงทาง เสียเวลาไปพักใหญ่ 2 ชม.
( แสดงว่า จิมก็ไม่น่าจะชำนาญทางในป่าแถบรีสอร์ทนีที ) แถม ดร.หลิงสะดุดรากไม้ ขาแพลง แต่สุดท้าย จิมก็ประคอง ดร.หลิงไปถึงสนามกอล์ฟ ด้วยความหงุดหงิดของ ดร.หลิง ( ที่ไม่ยอมนั่งรถไปตั้งแต่แรก )
วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 1967 พอดีเป็น วันอีสเตอร์ -- วันที่ตระกูล ทอมป์สัน จะต้องจารึกไว้ในความทรงจำ ที่ไม่มีทางลบเลือนตลอดไป
ที่ว่า จิมอยากกลับที่พักเร็วๆ เพราะ ตอนเช้าที่ไปทำพิธีทางศาสนาที่โบสถ์ เฮเลนสังเกตว่า จิมที่ขอเดินไปโบสถ์คนเดียว ไปถึงโบสถ์ ในสภาพค่อนข้างเหนื่อย
ช่วงเวลา บ่ายสองครึ่งถึงบ่ายสาม คือ ช่วงเวลาสุดท้าย ที่เพื่อนทั้งสามคนของจิม ในบ้านหลังนั้น สัมผัสถึงการมีอยู่ของจิม ภาษาทางการสืบสวนเรียกว่า
Last Known Point - LKP.
หลังจากเวลานั้น จนถึงทุกวันนี้
ไม่มีใครพบ จิม ทอมป์สัน ราชาไหมไทยคนนี้อีกเลย !
อย่าลืมว่า จิมสูบบุหรี่ ค่อนข้างจัด และมีประวัติปวดท้องจากนิ่วในไตบ่อยๆ ต้องพกยาทานแก้ปวดติดตัว
ถ้าเขาคิดจะออกไปนานๆหลายชั่วโมง จิมก็น่าจะนำยาแก้ปวด หรือ บุหรี่และไฟแช้ก ติดตัวไปด้วย
อีกอย่าง ที่ทำให้คิดว่า จิมจะไปไม่นาน คือ
จิมไปในชุด กางเกงขาสั้น และรองเท้าหนังเท่านั้น
แถมยังทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้าน ไม่ได้นำติดตัวไป
คืนนั้นเริ่มค้นกันตอน หลังทุ่มครึ่ง ไปจนถึงตี 2 ! ใช้คน 8 คน ช่วยกันตามหาจิม แน่ละว่า
หาไม่พบ !
วันถัดๆมา เมื่อแน่ใจกันแล้วว่า จิมหายตัวไปจริงๆ จึงมีการระดมคนนับร้อย ปูพรมค้นตั้งแต่บริเวณรอบๆรีสอร์ท แผ่ขยายออกไปมากขึ้นๆ แต่ก็ยังไม่พบตัวจิม
ทางการมาเลย์ ส่ง ฮ. มาใช้บินค้นหาตัวจิม ตอนแรกข่าวว่าบินมาจากไทย โดยคำสั่งของ พลจัตวา เอ็ดวิน แบล้ค นายทหารบัญชาการของหน่วย CIA ในไทย
นายพลแบล้ค ผู้นี้ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งร้อยเอกใน ปี 1941 เคยชวนพลทหารจิม ทอมป์สัน ให้เปลี่ยนสถานะจาก ทหารกองทัพบก มาเป็นสมาชิกหน่วย OSS นั่นเอง
ซึ่งนายพลแบล้ค ลงทุนบินมาที่ คาเมรอน มาเลเซียเพื่อร่วมวางแผนค้นหาจิม ในวันที่ 3 พค. และบินกลับ ไทยในวันรุ่งขึ้นที่ 4 พค.
ข้อมูลข้างบนไม่ถูกต้องในเรื่องที่ว่า แบล้คส่ง ฮ. จากไทยบินมาช่วยค้นหาจิม เพราะ พิสัยการบินของ ฮ. ไม่ไกลขนาดบินข้ามประเทศ และ ฮ.อาจจะถูกทางมาเลย์ยิงตก ด้วยความเข้าใจผิดได้
การค้นหา ใช้คนทั้งจากภาครัฐบาลของมาเลเซีย และจากการช่วยเหลือของ CIA ในไทย รวมถึง FBI
พท.ค้นในเส้นเหลือง กินอาณาบริเวณถึง 46 ตร.กม.
ตอนแรกๆ ใช้คนกว่า 400 คน ตามหาในพื้นที่ป่ารอบบ้าน
วันต่อๆมา ทางการต้องขอกำลังเพิ่มจากเหล่าลูกเสือ ด้วย ( ไม่รู้ว่า ยุคนั้น ถ้ามี เนตรนารี จะมาร่วมแจมด้วยไหม )
จนใช้คนช่วยกันตามหาทั้งสิ้น ว่ากันไปร่วม 1,500 คน !
นี่ถ้ามีโดรน ในยุคนั้น อาจบินกันทั่วเขาเป็นฝูงยุง !
เรียกได้ว่า ก้อนดินและหินแทบทุกก้อน ถูกพลิกหาดู กินอาณาเขตถึง 46 ตารางกิโลเมตร !!
ใช้เวลาพลิกแผ่นดินหาตัวจิม อย่างเป็นทางการรวมทั้งสิ้น 11 วัน ! ( แต่หลังจากนั้น ก็ยังค้นหาอย่างไม่เป็นทางการ ต่อมาอีกประมาณ 1 เดือน )
หวังว่า คุณๆท่านผู้อ่านคงไม่นำตัวเลขเหล่านี้ไปแทงหวยนะ เพราะเหตุการณ์ผ่านมาตั้ง 58 ปีแล้ว !!
Timeline การค้นหา และใช้สุนัขดมกลิ่น 3 ตัว
การทุ่มเททรัพยากรทั้งคนและค่าใช้จ่ายในการค้นหาตัวจิม อย่างมหาศาลตรงนี้ ทำให้คุณหญิงจำนงศรี ( รัตนิน ) หาญเจนลักษณ์ สมาชิกตระกูลหวั่งหลี ที่รู้จักกับจิมและเพื่อนๆของเขา ในฐานะเคยทำงานด้านสื่อข่าว เธอตั้งข้อสังเกต ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ถึง เรื่องราวคนที่ผ่านมาในชีวิตว่า
จิมอาจจะยังมีบทบาทเป็นคนของ CIA อย่างลับๆหรือกำความลับที่สำคัญของ CIA อยู่หรือไม่ ? และจิม มาทำภารกิจลับอะไรที่เมืองไทย ?
หาไม่แล้ว ทำไม ซีไอเอจึงทุ่มเทกำลังทั้งคนและทรัพยากรประดามี ตามหาตัว จิม ทอมป์สันมากมายเยี่ยงนี้ ??
แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า แม้ว่า ต่อให้จิมไม่ได้ข้องเกี่ยวกับ ซีไอเอโดยสิ้นเชิงก็ตาม
แต่มิตรภาพระหว่างจิมและเพื่อนๆ CIA ในภูมิภาคนี้ มีมาอย่างยาวนาน
รวมไปถึงการที่ นายพลจัตวา เอ็ดวิน แบล้ค ซึ่งเป็นผู้ชักชวนจิม ให้เปลี่ยนจากอาชีพทหารมาเป็น OSS นั้น เป็นถึง ผู้บัญชาการหน่วยสนับสนุนการรบของอเมริกาในประเทศไทย
นี่เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากพอจะอธิบายแก้ต่างให้ ซีไอเอได้ไหมว่า
ทำไมซีไอเอ จึงทุ่มทุนและทุ่มเทตามหาตัวจิม ทอมป์สันยิ่งนัก ?
ภาพประกอบภาพนี้ ใช้เพื่อจำลองให้เห็นภาพเหตุการณ์ค้นหาตัวจิม
สภาพที่รกชัฎของป่าในเขต คาเมรอน
ป่าของคาเมรอนในช่วงปี พศ 2510 ค่อนข้างรกทึบ ทำให้การค้นหาเต็มไปด้วยความยากลำบาก รวมถึงสัตว์ร้ายเสือสางที่นั่น ก็มีอยู่
มีเรื่องราว ที่น่าสนใจอีก ก็คือว่า
ในช่วงปี พศ 2510 และด้วยบริบทของความเป็นประเทศโลกที่สามในประเทศย่านนี้ ( ทั้งประเทศมาเลเซียและไทยลาว ตลอดจนอินโดเนเซีย )
ช่วงที่จิมหายตัวไป แม้จะมีการระดมคนค้นหา อย่างกว้างขวาง แต่ก็ไม่พบแม้เงาของจิม
ทำให้มีการพึ่งพาบริการสายมู ทั้งแบบไปขอให้ผู้เชี่ยวชาญสายมูช่วย และมีเหล่าสายมูจิตอาสา ( มาช่วยเอง ไม่คิดตังค์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะหน่วยบาทหรือริงกิต ) มากันมากมาย ร่วมด้วยช่วยกัน !
มีตัวเลขบอกว่า มูมาช่วยรวมได้ถึง 118 คน !
บางมู บอกให้ไปหาที่โน่น บางมู ไก๊ด์ว่า ให้หาที่นี่
บางมูบอก เห็นจิมเป็นกองกระดูก ( ตายไปแล้ว )
บ้างบอกว่า เห็นจิมในนิมิต อยู่ในเขมรกับใครบางคน และโยงไปถึงว่า สุดท้ายจิมไปต่อถึงจีนแผ่นดินใหญ่ ( คอมมูนิสต์ )
และก็มีคนเชื่อ ลองไปตามหาจิม ณ. ประเทศกัมพูชาจริงๆ !
ก่อนวันหายตัว
ตัวอย่างหน้าข่าว นสพ. ทั่วโลก
ภาพถ่ายสุดท้ายของ จิม ทอมป์สัน ที่คาเมรอน ในตอนปิคนิคช่วงบ่าย
มีการวิเคราะห์ และตั้งสมมติฐาน สาเหตุการหายตัวของจิมไปมากมาย
รวมๆมาได้ถึง 50 กว่าสมมติฐาน ( น่าจะมากที่สุดในโลก ในบรรดาคดีคนหาย ประดามีในโลกใบนี้ ! )
เช่น
- ลักพาตัว
-ฝ่ายตรงข้ามกับ CIA ลอบฆ่า
- คอมมิวนิสต์มลายาลักพาตัวไป และ +/- ฆ่า
- CIA ด้วยกันฆ่าปิดปาก/อาจเพราะเขาเอาใจออกห่าง
- หลงทางในป่า
- สัตว์ป่าทำร้าย
- อุบัติเหตุ เช่น ตกเขาหรือเหว
- คู่แข่งธุรกิจฆ่า
- คนของรัฐบาลไทยตอนนั้นตามมาฆ่า
- เดินไปตกหลุมดักสัตว์ ของชนพื้นเมือง ออรัง อัสรีย์ แล้วเสียชีวิต เลยถูกฝังในหลุม แต่เมื่อดูรายละเอียด หลุมดักสัตว์ของเขา เป็นหลุมขนาดเล็ก แบบดักแค่ตัวตุ่น
- ต้องมนต์ขลังของ สตรีเผ่าคนป่าพื้นเมือง อุรังอัสรีย์ (คล้ายเงาะซาไกของเรา ) กักขังตัวเอาไว้ !!
- ตัวจิมเอง สร้างเรื่องลวงโลกว่า หายตัวไป เพื่อเริ่มชีวิตใหม่ที่อื่น
และ
- จิมฆ่าตัวตาย !
เราลองมาดูประเด็นสำคัญๆที่อาจจะเป็นสาเหตุ การหายตัวของเขากันดู.....
โปรด ติดตาม ตอนต่อไป
ปริศนาสาเหตุ การหายตัว และ อนุสรณ์ที่ จิม ทอมป์สันเหลือไว้
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Jim Thompson ราชาไหมไทย- มนุษย์ปริศนา ?
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย