ทรัมป์ถูกฟ้องร้องกรณีใช้กฎหมายฉุกเฉินเพื่อกำหนดภาษีศุลกากร
ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ กำลังถูกองค์กรแห่งหนึ่งฟ้องร้อง เนื่องจากใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรต่อจีน
ซึ่งถือเป็นการท้าทายทางกฎหมายครั้งแรกต่อนโยบายภาษีศุลกากรของเขา
ในคดีฟ้องร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดาเมื่อวันที่ 3 เมษายน องค์กรนอกภาครัฐ New Civil Liberties Alliance (NCLA)
กล่าวว่าคำสั่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกเพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นั้น "ขัดรัฐธรรมนูญ"
NCLA ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงวอชิงตัน ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 เพื่อต่อต้านสิ่งที่มองว่าเป็นการละเมิดอำนาจบริหาร
องค์กรได้ยื่นฟ้องในนามของ Simplified ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กในฟลอริดาที่จำหน่ายสมุดบันทึกและซื้อสินค้าจากจีน
นายทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อจัดเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากจีน 10% ก่อนที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าในวันที่ 3 มีนาคม
คดีความของ NCLA ไม่ได้กล่าวถึงการประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันที่ 2 เมษายน เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบแทนกับคู่ค้ามากกว่า 180 ราย
รวมถึงจีน ซึ่งจะต้องเสียภาษีเพิ่มอีก 34%
คำสั่งฝ่ายบริหารที่ออกโดยเจ้าของทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์มีพื้นฐานมาจากพระราชบัญญัติอำนาจเศรษฐกิจ
ฉุกเฉินระหว่างประเทศ พ.ศ. 2520 (IEEPA) ซึ่งมอบอำนาจมากมายให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
IEEPA “อนุญาตให้ประธานาธิบดีมีอำนาจในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่กำหนดภาษีศุลกากรต่อประชาชนชาวอเมริกัน” คำฟ้องของ NCLA ระบุ
องค์กรดังกล่าวยังกล่าวเสริมอีกว่าในรอบเกือบ 50 ปี ที่ผ่านมา ไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนไหนก่อนหน้านายทรัมป์ที่ใช้ IEEPA
ในการจัดเก็บภาษีศุลกากรเลย “เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจ เพราะร่างกฎหมายไม่ได้กล่าวถึงภาษีศุลกากร
และไม่ได้ระบุอะไรเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่าประธานาธิบดีสามารถเก็บภาษีจากคนอเมริกันได้” NCLA กล่าวเน้นย้ำ
นี่เป็นการท้าทายทางกฎหมายครั้งแรกต่อนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์นับตั้งแต่เขากลับสู่ทำเนียบขาว ผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่แสดงความเห็นใดๆ ต่อคดีนี้
ตามคำสั่งของนายทรัมป์เมื่อวันที่ 2 เมษายน ระบุว่าสินค้าที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน
จะต้องเสียภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน เป็นต้นไป คู่ค้าทางการค้าจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่สูงขึ้นถึง 50%
การเคลื่อนไหวทางภาษีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กร ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการค้า
และสมาชิกพรรคเดโมแครต พวกเขาเชื่อว่านโยบายของทำเนียบขาวจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐสูงขึ้น
ส่งผลให้ผู้คนต้องจ่ายเงินมากขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ปัดข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรซึ่งกันและกัน
โดยยืนยันว่าทุกอย่าง "ยังคงดีอยู่" และสหรัฐฯ กำลังจะได้รับรายได้หลายล้านล้านดอลลาร์ เขายังเปิดโอกาสให้มีการเจรจากับพันธมิตรในเรื่องภาษีร่วมกันอีกด้วย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
