Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
kai..ka
•
ติดตาม
6 เม.ย. เวลา 14:28 • ปรัชญา
เวลาที่ฝรั่งพูดถึงพุทธศาสนา พวกเขาพูดถึงแค่ “ตัวเอง”
พูดถึงการทำสมาธิ พูดถึงการปล่อยวาง พูดถึงเส้นทางหลุดพ้นจากความทุกข์
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง เพราะนี่คือแก่นที่อยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแค่เท่านั้น
หลายครั้ง ชาวตะวันตกอ่านหนังสือของนักศาสนวิทยาที่เดินทางมาเรียนธรรม หรือจากนักเขียนที่สนใจพุทธ และเมื่อกลับไป พวกเขาจึงเล่าถึงพระพุทธเจ้าในฐานะนักปราชญ์ผู้สอนให้เรารู้จักใจตัวเอง
แต่พระพุทธเจ้ามิได้ทรงสอนเพียงเพื่อให้เรา “อยู่คนเดียวได้”
พระองค์ยังทรงสอนให้เรา “อยู่ร่วมกันอย่างไม่เบียดเบียน” อีกด้วย
คำสอนของพระองค์ไม่ได้อยู่แค่บนเบาะสมาธิ แต่ยังปรากฏอยู่ที่บ้าน ในตลาด ในท้องนา และในเรือนจำ
ในยุคพุทธกาล อินเดียยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ ที่เต็มไปด้วยพิธีกรรมอันยุ่งยาก มีลำดับวรรณะเคร่งครัด มีเทพเจ้า มีการบูชายัญ ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าชะตากรรมถูกกำหนดไว้แล้วจากเทพเบื้องบน
แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงเห็นเช่นนั้น
พระองค์ทรงหันหน้ากลับมาหามนุษย์ ให้มนุษย์ได้เห็นคุณค่าของกันและกัน
และทรงแนะว่าทางออกจากความทุกข์ อยู่ที่ “ธรรม” ไม่ใช่ “เทพ”
คำสอนอย่าง ศีลห้า ไม่ได้เกิดมาเพื่อให้ผู้ปฏิบัติเป็น “พระ” แต่เพื่อให้คนธรรมดาอยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัย
ลองนึกดูเถิด ถ้าไม่มีใครฆ่า ไม่มีใครลัก ไม่มีใครโกหก สังคมจะสงบลงได้แค่ไหน หากทุกคนมีความพอใจในคู่ครองของตนเอง เคารพทรัพย์ผู้อื่น โลกใบนี้จะมีการเบียดเบียนลดลงเท่าใด
พรหมวิหารสี่ คือสิ่งที่คนตะวันตกควรได้รู้ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ไม่ใช่เรื่องของการนั่งสมาธิเพื่อตัวเอง แต่เป็นการฝึกจิตเพื่อจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างไม่เบียดเบียน
แม้แต่ “ทิศหก” ที่พระองค์ตรัสไว้เพื่อแก้ความเชื่อเรื่องทิศหกของศาสนาพราหมณ์ ก็ไม่ใช่คำสอนเชิงพิธีกรรม
แต่เป็นคำสอนเชิงสังคม ให้เรามีทิศทางในความสัมพันธ์ระหว่าง บุตรกับบิดามารดา ศิษย์กับครู นายจ้างกับลูกจ้าง พระกับโยม เพื่อนกับเพื่อน สามีกับภรรยา
ไม่ใช่เรื่องของพระ ไม่ใช่เรื่องของนักบวช แต่เป็นเรื่องของเรา
ชาวตะวันตกมองพระพุทธเจ้าเป็นนักปรัชญา แต่บางครั้งเราลืมไปว่า พระองค์ก็เป็น “นักออกแบบสังคม” เช่นกัน
ตลอดหลายปีที่พระองค์ประกาศศาสนา พระองค์ตรัสกับคนเลี้ยงวัว พ่อค้า ชาวนา กษัตริย์ โสเภณี คนตัดไม้ นักบวช นักรบ และคนเร่ร่อน คำสอนที่เปล่งออกมา ไม่ได้ลงมาจากก้อนเมฆ ไม่ได้สูงส่งเหนือหัว แต่วางพอดีกับมือของคนธรรมดา
ที่พระองค์ทรงแนะนำให้เราทำความดี ไม่ใช่เพราะดีแล้วจะได้บุญ แต่เพราะดีแล้ว เราจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้โดยไม่เบียดเบียน
ธรรมะไม่ได้เกิดขึ้นในป่า
แต่ธรรมะมักเกิดขึ้นตรงกลางระหว่าง “เรา” กับ “ใครสักคน”
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เรารู้จักความเงียบ แต่ในความเงียบนั้น เต็มไปด้วยความเมตตา และความเมตตาคือธรรมะข้อสำคัญเพื่อเรากับโลก
ความเมตตาจะพาเราไปถึงธรรมะที่สูงขึ้นเองทีละน้อย เมื่อเข้าถึงธรรมะที่สูงขึ้น ทุกข์เราก็จะน้อยลง จนปลายทางคือการหลุดพ้นจากวงเวียนแห่งการเกิดแก่เจ็บตาย หรือวงเวียนแห่งทุกข์นั่นเอง
เพราะพระพุทธเจ้าทรงรู้ดีว่า โลกที่มีสันติสุขเท่านั้นที่จะมีสภาพแวดล้อมนำพาทุกคนให้ถึงวิมุตติได้ดีที่สุด
…
ที่มา:🙏ขอบคุณมากมายกับบทความที่ดีต่อใจ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02k7978R6exZZvosCp7W2FPoktfEVWzCotyegYVR93xDLPxHqzK4dHQFcY113Z8uR9l&id=100044167402783
บันทึก
1
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย