8 เม.ย. เวลา 15:39 • ธุรกิจ
รัฐสภา

วันนี้เป็นวันทำงาน ที่พาร่างกายมาไกลถึง กทม. และไปไกลถึงสัปปายะสภาสถาน (รัฐสภา)

การประชุมวันนี้เน้นย้ำถึงหน้าที่การงานของเรา ความรับผิดชอบของเราโดยตรง และต้องรับทั้งความผิดและความชอบ ด้วยเสมอกัน
โดยได้มีคำถามในที่ประชุม ถึงกรณีเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่การเตรียมข้อมูลที่ไม่แน่นหนา การประมาทในเวที หรือความประหม่าอันเกิดจากบุคลิกลักษณะส่วนบุคคลหรือใดใดก็ตามแต่ ทำให้เราโพล่งไปในที่ประชุมอันทรงเกียรติว่า “ไม่ได้รับเรื่องหรือไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ โดยปัดออกไปว่าอาจจะเข้าไปในอีกส่วนงาน ทำให้ตนเองไม่ทราบ“
ประธานและที่ประชุม ไม่ได้ติดใจประเด็นมากนัก ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตา ด้วยอาจเห็นว่ามาไกล จึงไม่ได้ซักไซ้ต่อ
เมื่อเสร็จสิ่นประชุม รุ่นพี่ในการทำงานที่เข้าร่วมที่ประชุมในครั้งนี้ด้วย ได้เข้ามาตักเตือน (แต่เป็นคำพูดตรงๆ) ว่าไปพูดได้ไงว่าคนละหน่วยงาน วันนี้เรามาเป็นตัวแทนของสำนักงาน เราต้องทราบเรื่องดีที่สุด หรือถ้าไม่ทราบจริงๆ ก็แจ้งไปและขอเวลาไปตรวจสอบ ไม่ใช่ปัดออกจากตัว
เบื้องต้นเรารู้สึกโกรธจนตัวลอย เหมือนหัวใจกระเด้งกระดอนออกจากกายหยาบก็ไม่ปาน ไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วนว่าท่านมีเหตุผลในการว่ากล่าวตักเตือนนี้
ภายหลังพบว่า เรื่องนี้ผ่านเข้ามาในความรับผิดชอบจริงๆ และได้ดำเนินการมอบหมายการปฏิบัติที่เหมาะสมไปแล้ว แต่กำลังอยู่ในกระบวนการ ทำให้เรามาฉุกคิดได้ในทันทีว่า ขณะนี้ก็เป็นผู้ใหญ่มากพอ ทั้งอายุที่ปาไปค่อนชีวิต จะพูดจาสิ่งใดก็จะต้องมีสติพิจารณาให้ถี่ถ้วน ไม่ลนลานหูตาลาย ไม่ฟังให้ถนัดหรือควรมีคำถามถ้าจำเป็น ถามตอบสิ่งใดคล้ายผู้เขลาเบาปัญญาเกินไป แถมยังไปโกรธคนอื่นอีก น่าสมเพชรจริงๆ
ขอให้ตนเองมีสติตลอดเวลา ทบทวนสิ่งที่น่าจะเป็นความรู้ความเชี่ยวชาญในงานที่ทำเพราะถ้าเราไม่ทำก็จะมีคนมาทำแทนนะจ๊ะ
โฆษณา