12 เม.ย. เวลา 01:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

🧨 เมื่อ “ภาษี” กลายเป็นอาวุธ: บทเรียนจากเกมการค้าสู่กลยุทธ์การลงทุน และ Tariff War มันจะจบอย่างไร?

จีนไม่ได้บุกเมกาด้วยกองทัพ แต่ใช้ ‘รถไฟฟ้าราคาถูก’ เป็นอาวุธ
เมกาก็ไม่ได้ตอบโต้ด้วยขีปนาวุธ แต่ด้วย “ภาษี 100%”
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
“ภาษี” กลายเป็นหมากตัวสำคัญในเกมการเมืองระดับโลก ที่กำลังเปลี่ยนทิศทางของเศรษฐกิจทั้งระบบ
คำถามคือ...
นักลงทุนอย่างเราควรรับมือยังไง?
🎬 ตอนที่ 1: ศึก EV – เมื่อ Tesla ถูกบุกบ้าน
ปี 2024 รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดยเฉพาะ BYD เริ่มบุกตลาดโลกด้วยคุณภาพที่ดีและราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อ จนทำให้ Tesla รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน
1
Biden ไม่รอช้า ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถ EV จากจีนสูงถึง 100% ทันที
โดยให้เหตุผลว่า "เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ"
แต่ลึกๆ แล้วคือการ “ปิดประตูบ้านก่อนจะโดนยึด”
1
ผลลัพธ์:
หุ้น Tesla กระโดดขึ้น
นักลงทุนเริ่มถามว่า “ต่อไปประเทศไหนจะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานผลิต?”
ประเทศเกิดใหม่อย่างไทย เวียดนาม เม็กซิโก กลายเป็นเป้าหมายใหม่
🔁 ตอนที่ 2: Flashback – สงครามการค้า Trump vs จีน
ย้อนกลับไปปี 2018 สหรัฐฯ ภายใต้โดนัลด์ ทรัมป์
เริ่มเปิดศึก “ภาษี” ใส่จีนแบบเต็มรูปแบบ
สินค้าจีนถูกเก็บภาษีหลายแสนล้านดอลลาร์
จีนโต้กลับด้วยภาษีถั่วเหลือง เทคโนโลยี และชิ้นส่วนยานยนต์
ตลาดตกใจ:
หุ้น Apple, Intel, AMD ร่วง
นักลงทุนแห่ถือทองคำ
กองทุนหลายแห่งเทขายหุ้นเทคโนโลยี
แต่ในขณะที่คนส่วนใหญ่ “หนีออกจากตลาด”
Warren Buffett กลับทำสิ่งที่ตรงข้าม…
เขา “ซื้อหุ้น Apple เพิ่มทันที”
พร้อมกับคำพูดที่ยังคลาสสิกมาถึงทุกวันนี้:
Be greedy when others are fearful.
Warren Buffett
🇯🇵 ตอนที่ 3: ญี่ปุ่น vs เกาหลีใต้ – เกมชิปสะเทือนโลก
ปี 2019 ญี่ปุ่นประกาศจำกัดการส่งออกสารเคมีสำคัญที่ใช้ผลิต Semiconductor ให้เกาหลีใต้
ทันทีที่ข่าวออก...
หุ้น Samsung และ SK Hynix ดิ่งลง
นักลงทุนกลัวการผลิตชิปทั่วโลกจะสะดุด
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ...
เกาหลีหันไปหาแหล่งวัตถุดิบใหม่
บริษัทในไทยและไต้หวันบางรายกลับได้อานิสงส์
นักลงทุนที่เข้าใจเกม “ห่วงโซ่อุปทาน” กลับทำกำไรได้มากกว่า
🧠 แล้วเราควรเรียนรู้อะไร?
ภาษีในยุคนี้ไม่ใช่แค่เครื่องมือเศรษฐกิจอีกต่อไป
แต่มันคือ “อาวุธทางการเมือง”
ใช้เพื่อกดดัน ต่อรอง หรือยื้อเวลาในเกมอำนาจระดับโลก
และในทุกเกมแบบนี้…
มักมีผู้แพ้ และ “ผู้ได้ประโยชน์” ซ่อนอยู่เสมอ
📌นักลงทุน กลยุทธ์รับมือเกมภาษี
Warren Buffett = ซื้อหุ้นดีตอนตลาดกลัว
🟡 เคส: เข้าซื้อหุ้น Apple หนักมากช่วงปี 2016–2018
ปี 2016 หุ้น Apple ร่วงแรง หลังตลาดเริ่มกังวลว่า iPhone ขายไม่ออก
มีข่าวลือว่า “Apple ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว”
คนเทขาย… แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ กลับ เข้าซื้อ Apple ครั้งแรกในชีวิต
🔍 เพราะอะไร?
เขามองว่า Apple มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง, ลูกค้ายังภักดี, และกำไรยังโต
ตลาดแค่ "ตกใจระยะสั้น"
📈 ผลลัพธ์:
บัฟเฟตต์ทำกำไรจากหุ้น Apple หลายหมื่นล้านดอลลาร์
และ Apple กลายเป็น "หุ้นที่ใหญ่ที่สุดในพอร์ตของ Berkshire Hathaway"
Ray Dalio = กระจายความเสี่ยงทั่วโลก มองภาพภูมิรัฐศาสตร์
🟡 เคส: กลยุทธ์ "All Weather Portfolio" และมุมมองสงครามการค้า
Dalio เชื่อว่าโลกเข้าสู่ยุค De-Globalization
โดยเฉพาะเมื่อเมกาเริ่ม "แยกตัวจากจีน" ทั้งเรื่องเทคโนโลยี, ภาษี, และซัพพลายเชน
🔍 กลยุทธ์ของเขาคือ:
ลงทุนกระจายหลายสินทรัพย์ทั่วโลก เช่น หุ้น พันธบัตร ทองคำ
ไม่พึ่งพาเศรษฐกิจใดเศรษฐกิจเดียว
มองภาพใหญ่ของ “วงจรอำนาจ” ระหว่างประเทศ
📈 ผลลัพธ์:
Port ของ Dalio เน้น "ทนทาน" ในทุกสภาพเศรษฐกิจ
ไม่เด่นมากตอนตลาดบวก แต่รอดได้ดีเวลาเกิดวิกฤต
Howard Marks = ใช้ความผันผวนเป็นจังหวะ “เข้าซื้อ”
🟡 เคส: ลงทุนช่วงวิกฤต Subprime ปี 2008
ตอนตลาดพังจากฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์
คนเทขายทุกอย่าง ทั้งหุ้น พันธบัตร อสังหา
🔍 Marks มองว่า:
ความกลัว “มากเกินจริง” ทำให้ราคาสินทรัพย์หลายตัว “ต่ำกว่าความจริง”
เขาจึง เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่คนไม่กล้าแตะ เช่น Junk Bonds และ REIT
📈 ผลลัพธ์:
เขาทำกำไรหลายพันล้านจากการ “กล้าซื้อในเวลาที่คนกลัวที่สุด”
และ Oaktree Capital กลายเป็นกองทุนที่ได้รับการยอมรับที่สุดเรื่องการบริหารความเสี่ยง
✅บทสรุป
💣 เมื่อเศรษฐีรวยน้อยลง ผู้นำอาจร่วงก่อนสงครามจบ
อย่ามองว่าเกมภาษีจะจบที่โต๊ะเจรจาระหว่างประเทศ
เพราะมันอาจจบที่ “โต๊ะเจรจาภายในประเทศ” ก่อนด้วยซ้ำ
💼 เศรษฐีไม่ได้เป็นแค่ผู้ถือหุ้น... แต่คือ “ผู้ถืออำนาจ”
ในหลายประเทศ กลุ่มเศรษฐีระดับมหาอำนาจ ไม่ได้มีบทบาทแค่ทางเศรษฐกิจ
แต่มี อิทธิพลลึกต่อการเมือง นโยบาย และเสถียรภาพของรัฐบาล
พวกเขาคือ “แบ็คซีนทางอำนาจ” ที่สามารถ:
1.กำหนดทิศทางกฎหมาย
2.สนับสนุนพรรคการเมือง
3.กดดันผู้นำให้เปลี่ยนนโยบาย
4.หรือแม้แต่ “เขย่าเก้าอี้” ผู้มีอำนาจ
📉 แล้วจะเกิดอะไรขึ้น... ถ้าทรัพย์สินของพวกเขาหายไป 50%?
-มกา: มหาเศรษฐีสายเทคฯ สูญเงินนับแสนล้านจากการขึ้นภาษีจีน
-จีน: เศรษฐีกลุ่มส่งออก-ผลิต EV โดนภาษีถล่มกลับ สินค้าค้างสต๊อก-รายได้ลด
เมื่อกระเป๋าเงินกลุ่มทุนรั่ว
เสียงสนับสนุนรัฐบาลก็จะเริ่มแห้ง
🧨 ผลกระทบ: อาจเกิด “แรงกดดันจากภายใน” ให้จบเกม
รัฐบาลใดที่ทำให้เศรษฐีรวยน้อยลง อาจอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน
🎯 สรุปแนวคิด:
สงครามภาษีดูเหมือนเรื่องระหว่างประเทศ แต่ผู้ชี้เป็นชี้ตายอาจเป็นทุนในประเทศ
เมื่อคนที่มีเงินที่สุดเริ่มเสียผลประโยชน์ เขาจะเปลี่ยนเกมให้กลับมาเป็นของเขา
และนั่นอาจทำให้ “ผู้นำ” ต้องยอมถอย หรือถูกเปลี่ยนไปเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา