11 เม.ย. เวลา 17:18 • หนังสือ

รีวิวให้อยู่ เล่มที่ 8: นิทาน เรื่องจริงของลูกหมู 3 ตัว “The True Story of the 3 Little Pigs”

🤫 “หมาป่าอาจไม่ได้ร้ายเสมอไป… แต่อย่าลืมว่าโลกก็ไม่ได้ใจดีเสมอไปเหมือนกัน!”
ขอมารีวิวนิทานเด็กๆ 1 วัน เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่เคยอ่าน พออ่านจบแล้วจะอ้าวเลย นิทานชื่อ “The True Story of the 3 Little Pigs” ขอตั้งชื่อไทยไปเองว่า “เรื่องจริงของนิทานลูกหมู 3 ตัว” ที่รีวิวและเรียบเรียงใหม่โดย Catitude (ไม่ได้ลอกใครมานะ!)
🌟 ที่มาของเรื่องและผู้แต่ง
“True Story of the 3 Little Pigs” สำนักพิมพ์ Viking Children’s Books เขียนโดย Jon Scieszka คู่หูนักเขียนสุดครีเอทีฟที่ชอบหยิบนิทานคลาสสิกมาบิดใหม่ให้สนุกกว่าเดิม ทำงานร่วมกับ Lane Smith ที่มาช่วยเติมภาพประกอบสุดกวน ๆ ออกมาเป็นหนังสือครั้งแรกปี 1989 เลย
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่นิทานเด็กธรรมดานะ แต่มันเล่าจากมุมมองของหมาป่า (Alexander T. Wolf) ที่ออกมาบอกว่า “เฮ้ย! ฉันไม่ใช่ตัวร้ายอย่างที่ทุกคนเข้าใจเลย” อารมณ์เหมือนให้หมาป่าได้แก้ตัวผ่านการสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์อะไรประมาณนั้น เก๋ป่ะล่ะ!
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้…?
ดูเหมือนว่าหนังสือ “The True Story of the 3 Little Pigs” จะยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการ 📖 แต่ถ้ายังจำนิทาน “ลูกหมู 3 ตัว” แบบคลาสสิกได้… ตัวร้ายคือหมาป่าจอมเป่าบ้านใช่มั้ย?
แต่ในเวอร์ชันนี้! หมาป่ากลับมาเล่าเองจ้า เขานะจะมาบอกความจริงที่เกิดขึ้น และจะมาบอกว่า เขาไม่ได้เลวอย่างที่ใครๆ คิดนะ!
ชื่อจริงของหมาป่า คือ Alexander T. Wolf หรือที่เพื่อนเรียกสั้นๆ ว่า “A. Wolf” เขาอ้างว่า…
📖 สรุปเรื่องย่อแบบไว ๆ
ในนิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าในมุมของ หมาป่าที่ชื่อ A. Wolf เขาเล่าว่า…
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะพังบ้านลูกหมู 3 ตัวเลย …
วันนั้นนะ เขาแค่แวะไปหาเพื่อนบ้าน เพียงตั้งใจไปขอยืมน้ำตาลมาทำเค้ก🍰 ให้คุณยายต่างหากละ แต่บังเอิญวันนั้นอะเขาก็เป็นหวัด พอไปถึงบ้านลูกหมู แล้วเขาก็เผลอจามแรงไปหน่อย บ้านหมูที่สร้างด้วยฟาง และที่สร้างด้วยไม้อะ มันก็เลยพังแล้วบังเอิญไปทับลูกหมู 2 ตัวแรกตายคาที่ ส่วนตัวบ้านตัวที่ 3 น่ะรอด! เพราะบ้านเป็นอิฐแน่นปึ้ก แล้วก็ลูกหมูก็ดันไม่ยอมให้ยืมน้ำตาล แถมด่าหมาป่าอีกต่างหาก เรื่องมันก็เลยไปกันใหญ่
และเขาก็เลย ถูกจับ ถูกกล่าวหาว่าเป็น “หมาป่าตัวร้าย” โดยที่ยังไม่เคยได้เล่าความจริงเลยสักนิด… สุดท้ายเขาก็ถูกจับข้อหาพยายามบุกรุก ทั้งที่เขานะอยากได้แค่น้ำตาลเท่านั้นจริงๆ
อ่านจบแล้วก็ถึงกับอุทานว่า เชี่ยไรว่ะเลย! คือแบบว่า เรื่องนี้จำได้ว่าอ่านมาตั้งแต่เด็ก และเข้าใจมาตลอดว่า หมาป่าผิด หมาป่าชั่วร้ายมาก แต่วันนี้พอได้ยินอีกมุมแบบนี้ มันชวนให้เราคิดว่า “บางทีสิ่งที่เราเห็น เราได้ยินมา มันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดก็ได้” 😱
❤️ ข้อคิดดีๆ จากนิทานในมุมกลับ (ไม่เด็กเลยนะ เอาจริงๆ)
📍มองอีกมุม… บางที “ตัวร้าย” ก็อาจเป็นแค่ “คนที่ไม่มีใครฟัง”
อย่าด่วนตัดสินใครจากแค่ “สิ่งที่เราได้ยิน” เพราะมุมมองของแต่ละคน… ไม่เหมือนกันเลย
📍เรื่องจริงไม่จำเป็นต้องตรงกับข่าว
เรื่องจริงบางทีก็เงียบกว่าข่าวลือที่แพร่กระจายไปไวกว่า (Sometimes the truth isn’t what goes viral)
📍อคติทำให้เรามองอะไรผิดไปโดยไม่รู้ตัว
ใครเป็นคนกำหนดว่า “ใครคือพระเอก ใครคือผู้ร้าย”? สื่อ? สังคม? หรือตัวเราเองที่เชื่อแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก?
🐾 คำข่วน ของเรื่องนี้
”ฟังหูไว้หู ดีกว่าเชื่อไปหมดทุกคำ” (There are 2 sides to every story… and then there’s the truth.”
“เราทุกคนต่างก็เคยเป็น "ผู้ร้าย" ในเรื่องเล่าของคนอื่นเสมอ” (We are all villains in someone else's story)
“บางที… เรา อาจเป็นทั้ง ลูกหมู และ หมาป่า ในเวลาเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องนั้นใครเป็นคนเล่า”
🥸 ตัวอย่างบทเรียนที่ใช้ในชีวิตจริงได้เลย!
✅ “ก่อนจะตัดสินใคร ลองฟังอีกด้านเสมอ” เคยมั้ยที่เราไม่ชอบใคร แค่เพราะฟังเรื่องราวจากอีกคนมา? ลองเปิดใจฟังจากเจ้าตัวบ้าง อาจเจอความจริงที่เราไม่เคยคิด
✅ “ใช้เหตุผลก่อนใช้อารมณ์” ลูกหมูหลังสุดอาจมีสิทธิ์ปฏิเสธหมาป่า แต่การตอบโต้ด้วยความรุนแรงก็อาจทำให้ปัญหาบานปลาย
✅ “ภาพลักษณ์ภายนอกไม่ใช่ทั้งหมดของคนๆ หนึ่ง” บางที 🐺 “หมาป่า” อาจไม่ได้ร้าย แค่ไม่มีใครอยากฟังหรือเข้าใจเขา (Look at it from another angle... sometimes the 'villain' might just be 'someone no one listens to.)
✅ “โลกนี้ไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ” หลายเรื่องในชีวิตจริงไม่มีใครถูกหมดหรือผิดหมด
เหมือนหมาป่ากับลูกหมูในเรื่องนี้ ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
💡 อ่านแล้วได้อะไร?
• ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ
• ฝึกคิด วิเคราะห์ ตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยเชื่อ
• เหมาะทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่อยากเข้าใจโลกให้มากขึ้น)
• สนุกแบบคมคาย ไม่ใช่แค่นิทาน แต่เป็นบทเรียนชีวิตแบบเนียนๆ
“True Story of the 3 Little Pigs” ไม่ใช่แค่นิทานเด็กธรรมดา แต่มันคือเรื่องที่ชวนเรามองโลกแบบใหม่ หมาป่าที่เคยเป็นตัวร้ายกลับกลายเป็นแค่คนโชคร้าย ที่อยากทำเค้ก อ่านแล้วรู้สึกว่า “เออเนาะ บางทีเราก็ตัดสินอะไรเร็วไปหน่อย”
หนังสือนิทานเล่มนี้สอนให้ ฟังเยอะขึ้น คิดเยอะขึ้น แล้วก็เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเจอปัญหา แถมยังอ่านเพลินด้วย อ่านแล้วเหมือนเพื่อนชวนดูหนังอีกมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ใครอยาก Paradigm Shift ได้ข้อคิดแบบทันสมัย ลองไปหาอ่านดูนะ บอกเลยไม่ผิดหวัง! 🐷💕”
โฆษณา