23 เม.ย. เวลา 22:28 • คริปโทเคอร์เรนซี

2025: Now you see New Normal/ New Money, New Economy, New Human Rights, New Regime, ..

เมื่อ Trump สร้างความไม่มั่นคงให้โลก
ทำให้ชาวโลกเห็น "โลกอนิจจัง" ชัดเจน
หลวงพ่อชา สอนว่า เมื่อเห็นความจริง แล้ว หน้าที่เราคือต้องยอมรับความจริง จึงจะแก้ปัญหาได้
สรรพสิ่งในโลกเป็นอนิจจัง
จึงไม่ควรยึดมั่นในหลักการหรือสิ่งใด ๆ
เพราะทุกสิ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา
การยึดติดนั้นจะทำให้ใจเราขาดอิสระที่จะตอบสนองต่อสภาพการที่เปลี่ยนแปลงไปได้ถูกต้อง
หลวงพ่อชา สอนว่า เมื่อเห็นความจริง แล้ว หน้าที่เราคือต้องยอมรับความจริง จึงจะแก้ปัญหาได้
* อย่าปล่อยให้โอกาสใน วิกฤตนี้ สูญเปล่า
และขอบคุณ Trump ที่ปลุก ทุกคนให้ตื่น
เพราะเมื่อทุกคนเห็นชัด เรื่องความไม่มั่นคง
ทุกคนต้องเอาตัวเองรอดก่อน
และทางรอดคือต้องตื่นขึ้นยืนบนขาตัวเอง
โอกาสที่ดีคือคน"พร้อมจะเปลี่ยนแปลงทันที"
เพราะดีกว่าถูกบังคับเปลี่ยนในช่วงถัดไปอีกประมาณ 5 ปี เมื่อ AI และ Robot มาทำงานแทนคน
และยังมีช่วงที่คนจะเผชิญวิกฤตเพิ่มขึ้นต่อไปอีก
เมื่อเข้าสู่ New Economy
* New Economy
คือ Space Economy การตั้งโรงผลิตนอกโลกโดยใช้แรงงานหุ่นยนต์ เพื่อหยุดสร้างมลพิษ ทำให้โลกสะอาดพอที่มนุษย์ยังอาศัยอยู่ได้ และยังคงมีสองโลกไว้รักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์
Paradigm Shift to New Normal:
2025: Now you see me.
* 1. New Money
* 2. New Human Rights
* 3. New Economy
* 4. New Regime
* 5. New Country
* 6. New Legendary
* 1. New Money
คือ Stable Coin ที่มี Digital Gold หนุนหลัง เพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วโลกเข้าถึงเงิน คือ Stable Coin ของเอกชนได้ง่ายและมีความเป็นส่วนตัว
New Money คือ Stable Coin ที่มี Digital Gold หนุนหลัง เพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วโลกเข้าถึงเงิน คือ Stable Coin ของเอกชนได้ง่ายและมีความเป็นส่วนตัว
ส่วน CBDC
คือเงินดิจิตอลของธนาคารกลาง เช่น ของจีนนั้น Trump ไม่เอาเพราะคนไม่มี Privacy
Digital Gold
คือ Bitcoin ในฐานะ Strategic Reserve แทนทอง
BTC เป็น Digital Gold ที่ฝากกินดอกเบี้ยได้คล้ายกับพันธบัตร และราคาไม่ร่วงหล่นต่ำ
 
จึงเชื่อได้ว่า Bitcoin ไม่เป็น Tulip mania
ปัจจุบัน
จุดทดสอบ Bitcoin ที่ราคา 95,000$
และต่อไปเป็นจุดวิกฤตที่ 125,000$
ถ้าไปต่อได้ แสดงว่าฝ่ายต้านยอมแพ้
Gold
ราคาทองขึ้นในช่วงนี้ เพราะจีนสะสมเพื่อหนุนเงินหยวน ตลาดทองจึงมีแรงซื้อเพิ่มจากเงินที่จีนทะยอยขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เอามาซื้อทองเก็บเป็น Strategic Reserve เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงิน
ในขณะที่ Donald trump ใช้ Bitcoin และ Crypto เป็น Strategic Reserve
เพื่อจะหนุน New Money คือ Stable Coin ซึ่งคนทั่วโลกเข้าถึงได้ผ่าน Smart Phone
* 2. New Human Rights
Trump มองประชาธิปไตยต้องกินได้คือมุ่งที่การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เพื่อความเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง ถ้ามองแบบพุทธศาสนาคือคนต้องปฏิบัติเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ส่วนรวมเพราะเราอยู่ในโลกร่วมกัน
แต่เผด็จการไม่ต้องการแก้ความเหลื่อมล้ำ เพราะมองประชาชน เป็นเพียงแรงงาน เหมือนเป็นหุ่นยนต์
*จุดอ่อนของจีนคือถ้าโตต่ำกว่า 5% จะเกิดปัญหาแรงงานภายใน
จีนไม่ต้องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เช่น ไม่แก้ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้องการกดส่วนภูมิภาคไว้ไม่ให้โตขึ้นมาต่อรองกับส่วนกลาง เป็นกรณีแบบเดียวกันกับ Jack ma
ประมาณว่าเผด็จการ ต้องรวมศูนย์อำนาจและใช้ระบบอุปถัมภ์ เพื่อแบ่งแยกเข้าครอง ช่วยเฉพาะคนที่เป็นพวก กดให้ประชาชนอ่อนแอในทางเศรษฐกิจเพื่อให้มองเฉพาะปัญหาการเอาตัวรอดทางเศรษฐกิจ
* 3. New Economy
คือ Space Economy การตั้งโรงผลิตนอกโลกโดยใช้แรงงานหุ่นยนต์ เพื่อหยุดสร้างมลพิษ ทำให้โลกสะอาดพอที่มนุษย์ยังอาศัยอยู่ได้ และยังคงมีสองโลกไว้รักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์
ปัจจุบัน โครงการ Star-link ก็เป็น Space Economy อย่างหนึ่งเพราะโรงงานผลิตอยู่นอกโลก
ปัจจุบัน โครงการ Star-link ก็เป็น Space Economy อย่างหนึ่งเพราะโรงงานผลิตอยู่นอกโลก
* 4. New Regime
คือ ระบอบ Fair Trade ซึ่งในทางพุทธศาสนาอาจเรียกระบอบนี้ว่า "เผด็จการโดยธรรม"
ในโลกสองขั้วอำนาจจีน-สหรัฐ
ที่ความฝันของจีนคือย้อนอดีตไปยุคที่จีนเคยยิ่งใหญ่ก่อนหน้ายุคแพ้สงครามฝิ่น
ส่วนความฝันของอเมริกาคือ America is back, made America great again. โดยใช้ tariff ตั้งกำแพงภาษีใส่ทุกประเทศด้วยมี Purchasing Power อำนาจซื้อสินค้าต่างประเทศ ที่อเมริกาขาดดุลการค้า เหมือนถูกเอาเปรียบจากหลักการ Free Trade โดยอเมริกาเรียกร้อง Fair Trade
Trump ชี้ปัญหาหลักการ Free Trade ที่อ้าง พฤติกรรมเพื่อกำไรสูงสุด และมือที่มองไม่เห็นของ Adam Smith ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นตลอด ส่งผลให้คนรวยกระจุกและจนกระจาย การผลิตเพื่อหวังกำไร ไม่ใช่เพื่อใช้ประโยชน์ เป็นอย่างที่ไอน์สไตน์เคยชี้จุดอ่อนให้เห็นตั้งแต่ก่อนเขาเสียชีวิต ค.ศ. 1955
ผู้เขียนมองว่า Trump แก้ปัญหาโดยใช้แนวทางที่ไอน์สไตน์เคยแนะไว้คือ เศรษฐกิจแนวสังคมนิยม และ การศึกษาต้องเพื่อรับใช้สังคม โดยนำมาประยุกต์ให้เข้ากับยุค AI Robot Crypto ตามสไตล์ของ Elon musk ที่ลงทุนผลิตเพื่อมนุษยชาติได้ใช้ชีวิตที่ดีกว่า
จากสภาพระบบนิเวศทางเศรษฐกิจโลกใหม่ ที่อเมริกาบีบให้ประเทศต่างๆ ร่วมมือกับสหรัฐสะกัดจีน ในขณะที่จีนก็ขู่ประเทศต่าง ๆ ว่า ใครทำให้จีนเสียประโยชน์จะถูกจีนตอบโต้อย่างสาสม
เหล่าประเทศหางเครื่องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องปรับตัว จากเป็นเหมือนอุตสาหกรรมทารกที่เคยได้สิทธิประโยชน์จากประเทศใหญ่ เมื่อทั้งสหรัฐและจีนต่างก็เล็งที่จะตัดสิทธิประโยชน์ที่เคยให้ ประเทศต่าง ๆ ต้องลุกขึ้นยืนบนลำแข้งของตัวเอง
ไม่ว่าจะเลือกเข้าข้างระบอบแบบไหน ต่างก็โดนมาตรการด้านธุรกิจแบบเดียวกัน คือทุกคนเอาตัวเองรอดก่อน Me First
พุทธศาสนาสอนให้ปฏิบัติเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์สังคม โดยไม่ยึดติดหลักการใด
พุทธศาสนาสอนให้ปฏิบัติเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์สังคม โดยไม่ยึดติดหลักการใด New Regime คือ ระบอบ Fair Trade ซึ่งในทางพุทธศาสนาอาจเรียกระบออบนี้ว่า "เผด็จการโดยธรรม"
ระบอบ Fair Trade คือ New Regime ซึ่งในทางพุทธศาสนาอาจเรียกระบอบนี้ว่า "เผด็จการโดยธรรม"
* 5. New Country
คือประเทศที่ล้มแล้วลุกขึ้นยืนขึ้นได้ใหม่ในช่วงเวลาวิกฤต Donald trump เมื่อนั่งร้าน Free Trade พังและไม่ได้ไปต่อ
จึงเป็นโอกาสให้ ถึงเวลาทีมประเทศโดยคนที่มีศักยภาพการนำตัวจริง ต้องออกมาช่วยกันกอบกู้ประเทศ ให้ลุกขึ้นยืนบนศักยภาพความถนัดของประเทศตัวเองเพื่อจะอยู่ได้ในสภาพแวดล้อม Fair Trade หลังมีระบบใหม่จะมีความยั่งยืนอยู่ไปตลอด เพราะยืนบนขาของตัวเอง แม้จะล้มลงไปอีกครั้ง ก็จะลุกขึ้นมาได้เอง เพราะเคยผ่านประสบการณ์
ในช่วงชุลมุน นี้ หลายประเทศมองเห็นโอกาสที่จะพลิกโฉมประเทศตัวเอง เพื่อสร้างสังคมที่คนเท่าเทียมกัน พลเมืองยินดีที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่ดีกว่าเก่า เหมือนเป็นการสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ และเป็นการสร้างตำนานให้อนุชนรุ่นหลังระลึกถึงคุณูปการของบุคคลในตำนาน
* 6. New Legendary
คือบุคคลในตำนาน เช่น Donald trump, Elon musk และทีมงานของ Trump ที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อ Fair Trade
Cr. DeepSeek
การเปรียบเทียบบุคคลเช่น **Elon Musk** หรือ **Donald Trump** ว่าเป็น **"New Legendary"** มักหมายถึงบุคคลที่มีอิทธิพลสูงในยุคปัจจุบัน ทั้งในด้านนวัตกรรม การเมือง ธุรกิจ หรือวัฒนธรรม จนถูกมองว่าเป็น "ตำนานสมัยใหม่" ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงหรือกระแสที่ทรงพลังในแบบของตัวเอง แม้บางครั้งอาจมาพร้อมกับความขัดแย้งก็ตาม
### ทำไม Elon Musk และ Donald Trump ถูกเรียกว่า "New Legendary"?
1. **Elon Musk**:
- **นวัตกรรมที่ล้ำยุค**: ผู้ก่อตั้ง Tesla, SpaceX, Neuralink ฯลฯ พยายามปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ อวกาศ และสมองมนุษย์
- **การท้าทายสถานะเดิม**: ตั้งเป้าเดินทางไปดาวอังคาร สร้างรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นกระแสหลัก
- **ภาพลักษณ์ในสื่อ**: มีบุคลิกฉีกกฎเกณฑ์ ใช้โซเชียลมีเดีย (เช่น Twitter/X) อย่างตรงไปตรงมา
- **ความขัดแย้ง**: ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการจัดการแรงงาน ความเห็นทางการเมือง และการแสดงออกที่อาจไม่เหมาะสม
2. **Donald Trump**:
- **การเมืองแบบ Populist**: ใช้สไตล์ตรงไปตรงมา โจมตีสื่อหลัก และสร้างฐานเสียงผ่านการท้าทายสถาบันการเมืองดั้งเดิม
- **อิทธิพลทางวัฒนธรรม**: จากนักธุรกิจสู่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยังคงเป็นกระแสแม้หลังหมดวาระ
- **การครองใจผู้ชม**: มีผู้สนับสนุนที่คลั่งไคล้ (MAGA) และผู้คัดค้านที่รุนแรง
- **ความขัดแย้ง**: ถูกกล่าวหาหลายคดี ทั้งเรื่องภาษี การแทรกแซงการเลือกตั้ง และพฤติกรรมส่วนตัว
### ลักษณะร่วมของ "New Legendary" ในบริบทนี้:
- **สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่** ในสาขาของตน
- **มีผู้ติดตาม/ผู้ต่อต้านจำนวนมาก** แสดงถึงอิทธิพลที่แบ่ง polarize ความเห็น
- **ใช้โซเชียลมีเดียและสื่อ** อย่างเชี่ยวชาญเพื่อสร้างการรับรู้
- **ท้าทายแนวทางเดิม** และสร้าง "กฎเกณฑ์ใหม่"
### ตัวอย่างบุคคลอื่นที่อาจถูกเรียกว่า "New Legendary":
- **Jeff Bezos** (Amazon) – ปฏิวัติการค้าปลีกออนไลน์
- **Taylor Swift** – ครองทั้งอุตสาหกรรมเพลงและวัฒนธรรมป็อปด้วยอิทธิพลทางเศรษฐกิจ (Swiftnomics)
- **Greta Thunberg** – นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่จุดประเด็นระดับโลก
- **BTS** – วง K-Pop ที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมเพลงและ Soft Power ของเกาหลี
### ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับ "New Legendary":
แม้บุคคลเหล่านี้จะมีอิทธิพล แต่บางคนอาจถูกมองว่า **"ไม่ใช่ตำนานในแง่บวก"** เนื่องจาก:
- สร้างความแตกแยกในสังคม
- ถูกตั้งคำถามเรื่องจริยธรรมหรือผลประโยชน์ส่วนตัว
- ความสำเร็จอาจขึ้นกับปัจจัยภายนอก (เช่น ความมั่งคั่งเดิม)
หากคุณสนใจบุคคลเฉพาะทาง **ธุรกิจ เทคโนโลยี หรือการเมือง** สามารถระบุเพิ่มเติมได้ครับ!
โฆษณา