14 เม.ย. เวลา 14:52 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “The Greatest Manifestation Book”

หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนสมุดบันทึกประจำวัน 180 วัน ซึ่งผู้เขียนได้เขียนเนื้อหาแนะนำในเบื้องต้นว่า ”คำว่า Manifestation ในหนังสือเล่มนี้หมายถึงจิตดลบันดาลซึ่งก็คือความสามารถในการสร้างภาพความเป็นจริงโดยอิงจากประสบการณ์ของเรา“
ผู้เขียนแนะนำให้เราคิดเชิงบวกจะช่วยดึงดูดสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิตโดยอ้างอิงกฎแห่งแรงดึงดูดหรือกฎแห่งแรงสั่นสะเทือน ซึ่งมีแนวคิดว่า หากเราโฟกัสที่ความรู้สึกเชิงบวกอย่างความสุขหรือความสำนึกรู้คุณเราจะดึงดูดโอกาสหรือสถานการณ์ที่ให้ความรู้สึกเช่นนั้นคืนกลับมามากขึ้น
เล่มที่ 46
ผู้เขียนกล่าวว่า “หากเราสร้างรากฐานที่มั่นคงโดยมีสิ่งเหล่านี้อย่างเช่น ความตั้งใจการดูแลตัวเอง ทัศนคติดี การสำนึกรู้คุณ การสร้างมโนภาพในใจอย่างสม่ำเสมอ จะปูทางให้ตัวเองไปสู่ชีวิตในอุดมคติ เราจะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในความคิด อารมณ์ คำพูด และการกระทำของตัวเอง”
จากนั้นผู้เขียนจึงแนะนำวิธีในการใช้สมุดบันทึกเล่มนี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยกตัวอย่างให้เราเขียนว่า “วันนี้เรารู้สึกอย่างไร” แล้วให้อ่านความรู้สึกแต่ละวันออกมาดังๆ 5 ครั้ง เพราะผู้เขียนบอกว่า “คำพูดมีพลังเหนือความรู้สึกของเราอย่างมาก และยังเป็นส่วนสำคัญในการรักษาพลังทางอารมณ์ให้สูงด้วย”
ส่วนนี้ตรงกับที่ อุเอะนิชิ อะกิระ กล่าวไว้ในหนังสือ พูดเรื่องบวกเรียกโชคดี พูดเรื่องดีเรียกความสุข ว่า “คำพูดมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของคนเราได้ คนที่ใช้คำพูดเชิงบวกเป็นประจำและทำให้สภาพจิตใจอยู่ในสภาวะบวกจะมีเรื่องดีเข้าหา”
และผู้เขียนยังกล่าวอีกว่า “การเขียนเรื่องดีๆ ในชีวิตเป็นวิธีอันงดงามที่ช่วยยกระดับพลังทางอารมณ์และทำให้รู้สึกดีขึ้น การเขียนเรื่องที่อยากปล่อยวางในวันนี้จะช่วยให้ระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
ความคิดเชิงลบคือตัวขัดขวางไม่ให้เราบรรลุเป้าหมายหรือความฝัน เราต้องปรับเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นไปในทางบวก และเขียนลงในสมุดเขียนกิจวัตรประจำวันที่เป็นลักษณะนิสัยที่ดีลงในสมุด และปฏิบัติตามทุกวันจะช่วยให้เพิ่มพลังบวก เช่นอ่านหนังสือ 20 นาทีทุกคืน ไม่ดูโทรทัศน์หรือหน้าจอต่างๆ ก่อนนอน 20 นาที“
ผู้เขียนยังแนะนำว่า ”ในแต่ละวันให้กล่าวขอบคุณ 3 สิ่งที่เกี่ยวกับตัวเอง ส่วนนี้เหมือนกับที่ คะบะซะวง ชิอง กล่าวไว้ในหนังสือ The Tree Happiness สู่จุดสูงสุดของชีวิตด้วยพีระมิดสามสุข ว่า ”การกล่าวขอบคุณผู้อื่นวันละ 3 ครั้ง ต่อวันจะทำให้สารออกซิโทซินและเอ็นดอร์ฟินหลั่งออกมาทั้งกับผู้พูดและผู้ฟัง“
ในหน้าบันทึกแต่ละวันที่ผู้เขียนให้มาจะขึ้นต้นหัวข้อด้วยคำพูดในเชิงบวก สร้างแรงบันดาลใจ เช่น ฉันเจิดจรัส ไม่มีใครหยุดฉันได้ ฉันมองโลกในแง่ดี ฉันมีพรสวรรค์ ฉันดีเลิศ ฉันเลอค่า (อวยตัวเองซะขนาดนี้จะหลงตัวเองมั้ยน้า Ha Ha Ha)
แล้วให้เราระบายสีความรู้สึกของเราว่าอยู่ในระดับต่ำหรือสูง ซึ่งก็หมายถึงรู้สึกแย่หรือรู้สึกดีนั่นเอง จากนั้นให้เขียนสิ่งที่พบเจอมาในวันนี้จะเป็นสิ่งแย่หรือสิ่งดีก็ได้ แล้วเขียนคำดลบันดาลใจที่เป็นเรื่องดีๆ หรือสิ่งที่อยากจะทำให้ได้ หรือสิ่งที่อยากได้ แล้วปิดท้ายด้วยเรื่องที่จะปล่อยวาง
นอกจากนี้ผู้เขียนยังแนะนำให้ฟังเพลงสร้างแรงบันดาลใจในยามที่รู้สึกหมดแรงโดยมี QR Code ให้เรากดลิงค์เข้าไปฟัง List เพลงแนะนำของผู้เขียนได้ด้วย
สรุป เนื้อหาโดยรวมเป็นการชวนให้เราคิดในแง่บวก คิดดี ทำดี พูดดี แล้วเขียนออกมาในสมุดเพื่อระลึกถึงความคิดและการกระทำของเราในแต่ละวัน ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องที่ดีเราจะได้ทบทวนการกระทำของตนเองและรู้เท่าทันอารมณ์ของเรา ถ้าเป็นคนที่ชอบเขียนบันทึกไดอารี่อยู่แล้วอาจจะชอบมาก เพราะมีแพทเทิร์นให้เขียนในแต่ละวันไว้ครบแล้ว
แต่สำหรับผมส่วนตัวรู้สึกว่ายังไม่โดนใจเท่าไหร่ และผมก็ไม่กล้าเขียนอะไรลงไปด้วย หนังสือแพงไม่กล้าทำเป็นรอยเลย Ha Ha Ha เมื่อไม่เขียนอะไรลงไป เนื้อหาที่มีก็จะน้อยนิด เพราะผู้เขียนตั้งใจทำมาให้เป็นเหมือนไดอารี่ ครั้นจะให้เขียนความรู้สึกตัวเองในวัยนี้แล้วกลับมาอ่านอีกก็รู้สึกเขิน ๆ และก็ไม่กล้าให้ใครเห็นด้วย จึงให้ 3 ดาว ⭐️⭐️⭐️
ผมจะนำแนวคิดของผู้เขียนไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน เช่น
1.กำหนดให้การอ่านอ่านหนังสือและการออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ผ่อนผันไม่ได้ ไม่ว่าสถานการณ์รอบด้านหรือตัวเราจะเป็นอย่างไรจะทำให้เข้าใกล้ความฝันและเป้าหมายยิ่งขึ้น
2.สัญญากับตัวเองว่าถ้าเริ่มหัวเสียจะยิ้ม ถ้าไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนจะยิ้มและใจเย็น ค่อยค่อยคิดหาทางออกกลับสู่สภาวะปกติให้รวดเร็วที่สุด
ผู้เขียน : Vex King และ Kaushal
ผู้แปล : อภิญญา ธโนปจัย
หมวด : จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง
ขนาดรูปเล่ม : 152 x 217 x 250 มม.
น้ำหนัก : 605 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระดาษปอนด์
จำนวนหน้า : 284 หน้า ปกแข็ง
ISBN : 9786161871703
พิมพ์ครั้งที่ 1 พฤศจิกายน 2567
หนังสือราคา 495 บาท มี 284 หน้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา