Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กรุงเทพธุรกิจ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
15 เม.ย. เวลา 13:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Starlink ของอีลอน มัสก์ 'ดิสรัปเตอร์' พลิกโลกธุรกิจสื่อสาร
Starlink 'ดิสรัปเตอร์' ใหญ่ พลิกธุรกิจสื่อสาร Telco ทั่วโลก เมื่ออินเทอร์เน็ตจากฟ้ากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลังอีลอน มัสก์ ยึดหัวหาดดาวเทียมสื่อสารนอกโลก
เดิมทีบริษัทในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หรือ Telco ต้องเผชิญแรงกดดันในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอยู่แล้ว และต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็น Techno หรือบริษัทเทคโนโลยีให้มากขึ้น แต่ปัจจุบันภาคโทรคมนาคมกำลังต้องเผชิญเรื่องปวดหัวมากขึ้นอีกจากดิสรัปเตอร์ตัวใหม่ที่เข้ามาอย่างบริษัท “สตาร์ลิงก์” (Starlink) ของอีลอน มัสก์ ที่อาจเป็นไฟต์บังคับให้อุตสาหกรรมนี้ต้องเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริง
ไนเตช ซิงห์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร สื่อ และเทคโนโลยีของ Accenture ภูมิภาคแอฟริกา เตือนผู้ให้บริการโทรคมนาคมว่า ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบรรดาผู้เล่นที่เน้นนวัตกรรม เช่น Starlink กำลังรุกคืบเข้ามาในตลาด ซึ่งปัจจุบันภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังคล้ายกับ “ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่” (The Great Depression) ไม่ว่าจะมองในแง่ของกำไรและรายได้ที่ลดลงของผู้ให้บริการมือถือ
การต่อสู้นี้ถูกซ้ำเติมด้วย “ภัยคุกคามที่สร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่” ที่เกิดจาก Starlink บริษัทเชื่อมต่อดาวเทียมของ SpaceX ซึ่งกำลังเดินเครื่องขอใบอนุญาตดำเนินการในหลายประเทศตลาดเกิดใหม่ ซิงห์ยอมรับว่าบริการนี้เป็น “สิ่งที่ดี” สำหรับการอุดช่องว่างเรื่องการครอบคลุมและเชื่อมต่อชุมชนชนบทที่การเชื่อมต่อเดิมไปไม่ถึง เช่น ซิมบับเว ซึ่งความต้องการบริการ Starlink มีมากกว่าอุปทานตั้งแต่เริ่มเปิดตัวเมื่อต้นเดือนก.ย. 2567
“ผมคิดว่าสิ่งที่ผู้ให้บริการเหล่านี้จำเป็นต้องทำคือ สร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ นำเสนอบริการที่แตกต่างออกไป สำรวจแนวทางใหม่ๆ และเข้าสู่กลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงธุรกิจของตน เพราะบริษัทโทรคมนาคมแบบดั้งเดิมจะไม่สามารถอยู่รอดได้ แม้แต่โมเดลเปลี่ยนผ่านจาก Telco เป็น Techno ที่ทุกคนพูดถึงก็ยังไม่ดีพอ” ซิงห์กล่าว
“ผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไป หากคุณมองไปที่คนรุ่นใหม่และข้อมูลจำนวนมหาศาลที่พวกเขาบริโภค คุณต้องเสนอข้อเสนอที่มีคุณค่าที่แตกต่างออกไปสำหรับพวกเขา”
📌 Starlink เขย่าโลก
อีลอน มัสก์ เจ้าของธุรกิจขนส่งทางอวกาศ SpaceX ได้แตกไลน์ธุรกิจโครงข่ายอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ขึ้นมาในเดือนม.ค. 2015 เพื่อมุ่งให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุมในเกือบทุกพื้นที่ทั่วโลก เป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ และราคาไม่แพง ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วอาจยังเป็นเพียงคอนเซปต์ที่ทะเยอทะยานและยังมองไม่เห็นในเชิงพาณิชย์
ทว่าผ่านมาครบรอบ 10 ปีในปีนี้ Starlink ที่เคยส่งดาวเทียมสื่อสารวงโคจรต่ำขึ้นไปนอกโลกชุดแรกประมาณ 60 ดวงเมื่อปี 2019 ปัจจุบันกองทัพดาวเทียมสื่อสารของมัสก์ขยายเพิ่มออกไปหลายเท่าตัวเป็นกว่า 7,000 ดวง จากดาวเทียมทั้งหมดที่โคจรรอบโลกราว 11,800 ดวงเมื่อต้นเดือนมี.ค. 2025 ขณะที่จำนวนสมาชิกก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ณ สิ้นปี 2024 อยู่ที่ 4.6 ล้านรายทั่วโลก
ความน่าสนใจแรกอยู่ที่ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง” จรวดของ SpaceX ในยุคปัจจุบันกับรุ่น Falcon 9 สามารถปล่อยดาวเทียมสื่อสารได้ครั้งละประมาณ 20-60 ดวง ในการปล่อยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2568 ที่แหลมคานาเวอรัลส่งดาวเทียมสื่อสารออกไปทั้งหมด 27 ดวง
โดยดาวเทียมสื่อสารของ Starlink "ถูกออกแบบ" ให้มีขนาดเล็กเพื่อให้สามารถปล่อยได้หลายดวงในครั้งเดียว ช่วยให้สามารถสร้างเครือข่ายดาวเทียมที่หนาแน่นขึ้น เพิ่มพื้นที่ให้บริการและรองรับผู้ใช้งานได้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน ขณะที่เทคโนโลยีเสาอากาศแบบ phased array และระบบที่ล้ำสมัยในดาวเทียมขนาดเล็ก ช่วยให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูงและหน่วงต่ำ แข่งขันกับอินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิมได้
เมื่อปีที่แล้ว Starlink เขย่าหน้าประวัติศาสตร์วงการสื่อสารทั่วโลก ด้วยการประกาศความสำเร็จในการทดสอบการส่งข้อความบนโทรศัพท์มือถือผ่านดาวเทียม ทำให้โทรศัพท์มือถือในพื้นที่ไม่มีสัญญาณสามารถเชื่อมต่อไปยังดาวเทียมได้โดยตรง ไม่ต้องมีการอัปเกรดอุปกรณ์เพิ่มเติม (Direct to Cell)
ปัจจุบันมีบริษัทสื่อสารในบางประเทศ เช่นนิวซีแลนด์ ได้ร่วมมือกับ Starlink นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้แล้ว และล่าสุดบริษัท KDDI ในญี่ปุ่นได้เปิดให้บริการ AU Starlink Direct ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่ออุดช่องโหว่การสื่อสารในพื้นที่ที่โครงข่ายภาคพื้นดินยังครอบคลุมไม่ถึงอีกประมาณ 40% เช่น เกาะโอกินาวา
ตามข้อมูลของ KDDI บริการนี้จะช่วยให้เชื่อมต่อได้ตราบใดที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน แม้จะอยู่นอกพื้นที่ครอบคลุมก็ตาม ไอคอนดาวเทียมจะปรากฏขึ้นที่มุมขวาบนของหน้าจออุปกรณ์เมื่อเชื่อมต่อผ่านบริการนี้ ปัจจุบันยังใช้ได้เพียงการรับส่อข้อความ SMS, RCS และ iMessages เพื่อแชร์ข้อมูลตำแหน่งปัจจุบัน การรับแจ้งเตือนแผ่นดินไหว การแจ้งเตือนสึนามิ และ J-Alert แต่ในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะมีการพัฒนาให้รองรับการโทรศัพท์และรับส่งข้อมูลได้
📌 จุดชนวนการแข่งขัน
แน่นอนว่าการเติบโตของ Starlink ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเร่งรีบตามมา ทั้งในแง่ธุรกิจและความมั่นคงทางอวกาศ
รอยเตอร์สระบุว่า บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ เช่น Comcast ในสหรัฐ อาจมีเหตุผลหลายประการที่ต้องไม่ต้องซีเรียสกับคู่แข่งรายนี้ เพราะอาจมองว่าเป็นเรื่องยากที่ Starlink จะมาแข่งเรื่องการเชื่อมต่อที่เร็วกว่าและเสถียรกว่าเมื่อเทียบกับเครือข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือแม้กระทั่งราคาที่ยังแพงกว่าอินเทอร์เน็ตปกติ ทำให้บริการนี้สมเหตุสมผลเฉพาะในพื้นที่ที่การสื่อสารเข้าไม่ถึงเท่านั้น และอาจปิดช่องโหว่ได้ด้วยการเป็นพันธมิตรกัน
อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือยังมีตลาดโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดบางแห่งของโลก ยังไม่มีบรอดแบนด์สำหรับที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ เช่น "อินเดีย" ซึ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เพียง 41 ล้านรายเมื่อเทียบกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไร้สาย 904 ล้านราย สะท้อนว่าคนส่วนใหญ่ยังพึ่งพาอินเทอร์เน็ตมือถือ และยังมีช่องว่างในตลาดสำหรับผู้ให้บริการบรอดแบนด์เช่น Starlink
การทำตลาดอินเดียได้จะเป็นตัวอย่างความสำเร็จครั้งใหญ่ของ Starlink ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่ห่างไกลทุรกันดารเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป และอธิบายได้ว่าทำไม Jio บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของมหาเศรษฐี มุเกช อัมบานี แห่ง Reliance Industries จึงกังวลต่อคู่แข่งรายนี้ และได้ร้องขอให้หน่วยงานกำกับดูแลในประเทศตรวจสอบขอบเขตที่เป็นไปได้ของ Starlink และ Kuiper ของค่ายแอมะซอน ก่อนที่จะมีการจัดสรรคลื่นความถี่ดาวเทียม
ความกังวลในหมู่บริษัทโทรคมนาคมของอินเดียในขณะนี้ก็คือ การที่มัสก์สามารถเป็นผู้นำในอวกาศตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เขาสามารถดึงดูดผู้สมัครบรอดแบนด์ในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกได้ และเป็นตัวอย่างความสำเร็จของโลก หลังจากที่ทำสำเร็จมาแล้วในบางประเทศที่แอฟริกา เช่น ไนจีเรีย
ปัจจุบัน หลายประเทศต่างตื่นตัวเรื่องธุรกิจอินเทอร์เน็ตบนฟ้ากันมากขึ้น ทางฝั่งยุโรปมี Eutelsat จากฝรั่งเศส แม้ว่าจะยังมีดาวเทียมน้อยกว่าคู่แข่งสหรัฐเกือบสิบเท่า OneWeb จากอังกฤษ SES จากลักเซมเบิร์ก และที่ดูจะมีภาษีมากกว่าก็คือ SpaceSail จาก “จีน” ซึ่งได้ลงนามความร่วมมือกับบราซิลและคาซัคสถาน และกำลังเจรจากับประเทศต่างๆ มากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยในปีที่แล้วประเทศจีนมีการส่งดาวเทียมวงโคจรต่ำขึ้นสู่อวกาศมากถึง 263 ดวง บ่งชี้ถึงเป้าหมายการแข่งขันในธุรกิจนี้
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกบริการเกี่ยวกับดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ซึ่งรวมถึงบรอดแบนด์และบริการมือถือจะมีราคาถูกลงอย่างมาก โดยราคาจะลดลงจาก 148 ดอลลาร์ต่อเดือนในปี 2023 เหลือประมาณ 16 ดอลลาร์ต่อเดือนในปี 2035 นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าตลาดดาวเทียมทั่วโลกจะพุ่งจาก 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นอย่างน้อย 1.08 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2035
อ้างอิง:
-
https://www.ccn.com/news/technology/spacex-telco-partnerships-extend-starlink/
-
https://tinyurl.com/ms3dvbkx
-
https://economictimes.indiatimes.com/?back=1
-
https://www.nytimes.com/2025/03/13/business/starlink-india-musk.html
2 บันทึก
12
5
2
12
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย