16 เม.ย. เวลา 23:56 • การเมือง

“ฝักบัวหมื่น พรมแสน กับตึกที่ถล่มไม่ใช่เพราะแผ่นดินไหว—แต่เพราะระบบพัง”

เราจะโกรธกันเมื่อไหร่ดี?
เมื่อเห็นฝักบัวราคา 10,000 บาทที่จริงแล้ว 1,700? เมื่อรู้ว่าตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่ม ไม่ใช่แค่เพราะแผ่นดินไหว แต่เพราะการคอร์รัปชันที่แทรกซึมทุกระดับ ตั้งแต่การออกแบบ การประมูล ไปจนถึงลายเซ็นปลอม?
รักชนก ศรีนอก—โฆษก กมธ.ติดตามงบประมาณ—พูดจากความอัดอั้นว่า “ทุกอย่างถูกต้องตามระเบียบหมดเลย” เป็นคำอ้างจากองค์กรที่ควรจะตรวจสอบคนอื่น แต่พอถึงคิวตัวเอง...กริบ
เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า
“เราตรวจพริก ตรวจเวที ตรวจเสาไฟ เอาทุกเม็ด”
แต่พอเป็นเรื่องของตัวเอง? ไม่มีแม้แต่คำขอโทษอย่างเป็นทางการจากผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ไม่มีคำแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่ม
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ตึกที่ล้มลง
แต่คือระบบที่ไม่ล้มตาม
ไม่มีใครลาออก ไม่มีการปฏิรูป ไม่มีความรับผิดชอบ
รักชนกถาม—และเราควรถามตามด้วย—ว่า
ทำไมองค์กรอิสระที่ควรเป็นเสาหลักของความโปร่งใส กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสงสัย?
แล้วที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือ ประชาชน "ด่าได้ แต่ทำอะไรไม่ได้"
เพราะอำนาจในการตรวจสอบองค์กรอิสระเหล่านี้อยู่ในมือของคนพวกเดียวกัน ส.ว.แต่งตั้ง ส.ว. ส.ว.แต่งตั้งองค์กรอิสระ แล้วจะมีใครตรวจสอบใครได้จริง?
เธอสรุปได้อย่างเจ็บลึกว่า
> “มันไม่ใช่ว่าคุณโดนด่า แค่นั้นมันไม่พอ ด่าแล้วเขาทำอะไรคุณได้ไหมล่ะ?”
นี่แหละประเด็น
ถ้าตึกนี้ไม่ถล่ม
เราจะไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างในเน่าขนาดไหน
และคำถามคือ...
ต้องเกิดอีกกี่ตึกถล่ม
อีกกี่ชีวิตสูญเสีย
เราถึงจะเริ่มปฏิรูประบบจริงจัง?
ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแบบตึกให้ต่ำลง
แต่ต้องเปลี่ยน “ระบบ” ให้สูงขึ้น
สูงพอที่จะมองเห็นประชาชน
สูงพอที่จะยืนหยัดอยู่บนความโปร่งใส ไม่ใช่แค่ระเบียบที่บิดเบี้ยวเพื่อรองรับผลประโยชน์
ประเทศไทยไม่ได้จน—งบประมาณเราเยอะ
แต่ “หายไป” กับค่าคอม 20-40% ในระบบจัดซื้อจัดจ้าง
พอได้ยินแบบนี้ เราควรโกรธหรือยัง?
#ฝักบัวหมื่นพรมแสน
#องค์กรอิสระต้องรับผิด
#ตึกถล่มระบบต้องล้ม
#ประชาชนไม่ควรทำได้แค่ด่า
#ปฏิรูปก่อนมีคนตายอีก
P.S. พรรคประชาชนพยายามพูดเรื่องพวกนี้มานานแล้ว แต่รักชนกพูดไว้ได้ดี—“มันไม่เซ็กซี่”
แต่มันเป็นความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไปแล้ว.
โฆษณา