24 เม.ย. เวลา 23:00 • ข่าวรอบโลก

สิงคโปร์ล้ำหน้า พัฒนานวัตกรรมปลูกข้าวยั่งยืน ลดก๊าซมีเทน เพิ่มผลผลิต โอกาสที่ดีไม่ควรมองข้าม

ในโลกยุคใหม่ที่ “ความยั่งยืน” กลายเป็นคำสำคัญของทุกอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรมเองก็ไม่เว้น ล่าสุด นักวิจัยจาก Temasek Life Sciences Laboratory (TLL) ในสิงคโปร์ ได้พัฒนาวิธีการปลูกข้าวแนวใหม่ ที่สามารถ ลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้ถึง 50% ขณะเดียวกันก็ เพิ่มผลผลิตได้ 10% และใช้น้ำน้อยลงครึ่งหนึ่ง
ขอบคุณภาพจาก advancedsciencenews.com
โครงการนี้มีชื่อว่า “Decarbonising Rice” ซึ่งได้รับรางวัลจาก World Economic Forum ในสาขานวัตกรรมด้านสภาพภูมิอากาศ โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้พันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศ การจัดการน้ำอย่างชาญฉลาด และการติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างใกล้ชิด
โอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย
แม้จะเป็นโครงการที่ริเริ่มในสิงคโปร์ แต่การนำเทคโนโลยีหรือแนวทางแบบเดียวกันมาใช้ในไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องไกลตัว โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภัยแล้งและปัญหาสภาพภูมิอากาศแปรปรวนอย่างหนักในหลายปีที่ผ่านมา นี่คือ 3 โอกาสหลักที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทย
ขอบคุณภาพจาก euronews.com
1. พัฒนาและจำหน่ายพันธุ์ข้าวที่ทนสภาพอากาศ
การพัฒนา "ข้าวเทมาเส็ก" ที่ทนน้ำท่วมและใช้น้ำน้อยได้ในสิงคโปร์ เป็นต้นแบบที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีพันธุกรรม นักลงทุนไทยสามารถมองหาโอกาสร่วมกับนักวิจัยในประเทศ หรือทำ Licensing กับต่างประเทศเพื่อนำพันธุ์ข้าวทนแล้งมาเพาะในไทย
ขอบคุณภาพจาก straitstimes.com
2. ธุรกิจเทคโนโลยีการเกษตร (AgriTech)
ระบบน้ำหยดอัจฉริยะ, การใช้จุลินทรีย์ในดิน, ปุ๋ยแบบแม่นยำ หรือการวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจก — สิ่งเหล่านี้คือโอกาสใหม่สำหรับ Startup ไทยหรือผู้ผลิตอุปกรณ์เกษตรกรรม ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเข้าช่วย “ปลูกข้าวแบบประหยัดน้ำและลดคาร์บอน”
3. ต่อยอดเพื่อการส่งออกที่ยั่งยืน
ในตลาดโลก ความต้องการ “ข้าวที่ผลิตอย่างยั่งยืน” กำลังมาแรง การรับรองว่าเป็นข้าวที่ปลูกโดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยคาร์บอน จะเพิ่มโอกาสให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันในตลาดยุโรปและญี่ปุ่นได้มากขึ้น
ขอบคุณภาพจาก techsauce.co
เกษตรกรไทยต้องไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “การเข้าถึงเทคโนโลยี” สำหรับเกษตรกรรายย่อย ซึ่งโครงการนี้ก็วางโมเดลไว้เช่นเดียวกัน โดยตั้งเป้าร่วมมือกับกลุ่มเกษตรกร โรงสี และภาคเอกชนเพื่อขยายผลในระดับภูมิภาค
ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก หากสามารถขับเคลื่อนการผลิตข้าวให้สอดคล้องกับแนวทางที่ยั่งยืนเช่นนี้ จะไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แต่ยังช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
Reference : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์
อ่านเพิ่มเติม : https://www.ditp.go.th/post/200160
โฆษณา