Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Franz3
•
ติดตาม
18 เม.ย. เวลา 14:52 • การเมือง
Pol What If…? EP.2 : ประเทศไทยไม่มีรัฐประหารเลยตั้งแต่ปี 2475?
(เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องสมมติที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งโดยอิงตามข้อเท็จจริงบางส่วน ใช้เป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการทำความเข้าใจ)
การเมืองไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 มีจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการเกิดรัฐประหารมากกว่า 13 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2475 จนกลายเป็นลักษณะเฉพาะของการเมืองไทย สถานการณ์เหล่านี้ได้ก่อให้เกิดการชะลอพัฒนาการของประชาธิปไตย การคงอยู่ของวัฒนธรรมอำนาจนิยม และความไม่แน่นอนทางการเมือง คำถามเชิงสมมุติฐานว่า “ถ้าไม่มีรัฐประหารเลยตั้งแต่ปี 2475” จึงเป็นเครื่องมือทางวิชาการที่ช่วยให้เราวิเคราะห์โครงสร้างทางการเมือง วัฒนธรรมทางประชาธิปไตย และแนวทางพัฒนาระบบการเมืองในอนาคต
ทุกครั้งของรัฐประหารมีผลต่อโครงสร้างรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจ และบทบาทของประชาชน
สมมุติฐาน: หากไม่มีรัฐประหารเลย
ระบบรัฐสภาอาจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากราชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตย เช่น ญี่ปุ่น หรืออังกฤษ
พรรคการเมืองอาจเข้มแข็งมากขึ้น มีระบบตัวแทนและนโยบายที่ตอบสนองประชาชนอย่างแท้จริง
การมีเสถียรภาพทางการเมืองอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การลงทุน และความเชื่อมั่นของนานาชาติ
ผลกระทบที่อาจตามมา
ด้านการเมือง: การเมืองมีความต่อเนื่อง ประชาชนมีบทบาทตรวจสอบมากขึ้น
ด้านวัฒนธรรมการเมือง: วัฒนธรรมอำนาจนิยมลดลง คนไทยคุ้นชินกับระบบการถกเถียงในสภา
ด้านสังคม: มีพื้นที่ให้ความเห็นต่างมากขึ้น ลดความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง
ด้านเศรษฐกิจ: มีเสถียรภาพมากขึ้นเพราะไม่มีช่วงสุญญากาศของอำนาจ
ข้อควรพิจารณา
- แม้จะไม่มีรัฐประหาร แต่ไม่ได้แปลว่าระบอบประชาธิปไตยจะพัฒนาได้โดยอัตโนมัติ ยังต้องมีการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
- ปัจจัยอื่นเช่น บทบาทของชนชั้นนำ สถาบันกษัตริย์ ระบบราชการ และความสัมพันธ์ระหว่างพลเรือนกับทหารยังคงมีผลต่อทิศทางการเมืองไทย
กรณีศึกษาเปรียบเทียบ
ญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2: ไม่เคยมีรัฐประหาร แม้จะผ่านการปกครองแบบเผด็จการทหารมาก่อน แต่สามารถพัฒนาประชาธิปไตยได้ต่อเนื่องด้วยรัฐธรรมนูญใหม่และระบบการเลือกตั้งที่โปร่งใส
มาเลเซีย: แม้มีความตึงเครียดทางเชื้อชาติ แต่สามารถดำรงรัฐบาลพลเรือนได้ต่อเนื่องโดยไม่มีการรัฐประหาร จนมีพัฒนาการทางเศรษฐกิจและการเมืองแบบมั่นคงในระยะยาว
หากประเทศไทยไม่มีรัฐประหารเลยตั้งแต่ปี 2475 เป็นไปได้ว่าเราจะเห็นพัฒนาการของประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและมั่นคงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การไม่มีรัฐประหารเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในหลายมิติที่ส่งผลต่อคุณภาพของระบบประชาธิปไตย การพัฒนาอย่างยั่งยืนยังต้องอาศัยปัจจัยร่วม เช่น วัฒนธรรมทางการเมือง ระบบการศึกษา สื่อมวลชนที่เสรี และการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ
(หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ และโปรดแสดงความคิดเห็นอย่างปัญญาชน)
แหล่งอ้างอิง
ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ (2557). รัฐประหารในประวัติศาสตร์การเมืองไทย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2560). รายงานสถิติการเมืองไทยและผลกระทบทางเศรษฐกิจ.
nso.go.th
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. (2549). “การพัฒนาและปัญหาประชาธิปไตยในสังคมไทย.” วารสารธรรมศาสตร์.
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์. (2560). “วัฒนธรรมการเมืองไทยกับการครอบงำเชิงอำนาจ.” วารสารสังคมศาสตร์.
Huntington, Samuel P. (1991). The Third Wave: Democratization in the Late Twentieth Century. University of Oklahoma Press.
Linz, Juan & Stepan, Alfred (1996). Problems of Democratic Transition and Consolidation. The Johns Hopkins University Press.
การเมือง
แนวคิด
เรื่องเล่า
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย