ศึกชิงอำนาจ “ทรัมป์ vs พาวเวลล์”
สงครามไม่ใช่แค่การค้า…แต่ลามไปถึง Fed!
สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไม่ได้แกว่งเพราะแค่สงครามภาษี
แต่มันคือ “ศึกใต้พรม” ระหว่าง 2 ขั้วอำนาจเศรษฐกิจโลก
ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ – ผู้นำผู้เปิดศึกการค้า
และ เจอโรม พาวเวลล์ – ประธาน Fed ผู้รักษาเสถียรภาพการเงิน
—
1) ทรัมป์ กดดัน Fed จนเลือดซิบ
หลังขึ้นภาษีชุดใหญ่ ทรัมป์ไม่พอใจ Fed ที่ยัง “ไม่ลดดอกเบี้ย”
แถมกล้าพูดว่า “สงครามภาษี ทำให้เศรษฐกิจชะลอ”
เท่ากับโยนบาปใส่ทรัมป์ตรงๆ
งานนี้ทรัมป์ฉุน จนพูดกลางอากาศว่า…
“อยากปลดพาวเวลล์ ก็แค่สั่งเดี๋ยวนั้น!”
—
2) พาวเวลล์ไม่กลัว ประกาศกลางเวที
“Fed เป็นอิสระ และจะไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดใคร”
แม้จะโดนกดดันหนัก แต่พาวเวลล์ยังยืนกราน
จะดู “ข้อมูลจริง” ไม่ใช่ “เสียงโวยวายจากทำเนียบขาว”
นี่คือการงัดกันชัดๆ ระหว่างนักการเมือง กับนักเศรษฐศาสตร์ตัวจริง
—
3) เดิมพันไม่ใช่ตำแหน่ง…แต่คือ “ความเชื่อมั่นของตลาด”
หาก Fed ถูกปลดโดยอำนาจการเมือง
จะเท่ากับ “ทำลายความน่าเชื่อถือของดอลลาร์”
และอาจทำให้ตลาดทั่วโลกสั่นคลอน
เพราะไม่มีใครอยากถือสินทรัพย์ที่ไม่มีเสถียรภาพ
—
4) เกมนี้ใครได้-ใครเสีย?
• ถ้าทรัมป์ชนะ = ได้ใจประชาชน-ธุรกิจระยะสั้น (ดอกเบี้ยต่ำ, หุ้นดีด)
แต่ตลาดโลกอาจไม่เชื่อถืออเมริกาอีกต่อไป
• ถ้าพาวเวลล์ยืนไหว = Fed จะยืนหยัดในความเป็นมืออาชีพ
แต่จะโดนทรัมป์ไล่บี้ทุกทาง และการเมืองจะยิ่งเดือด
—
สรุปจากพอร์ตระเบิด:
“อย่ามองแค่ว่าหุ้นขึ้นหรือลง…แต่มองว่าใครกำลังกุมคันบังคับโลกอยู่”
ตอนนี้ไม่ได้มีแค่สงครามการค้า แต่คือ “ศึกชิงอำนาจ” ระหว่าง
นักการเมืองผู้ใช้ตลาดเป็นเครื่องมือ
vs
นักการเงินที่พยายามประคองโลกไม่ให้ล่ม
ใครชนะไม่รู้
แต่เราต้อง ทันเกม รู้ทัน narrative
และ “เลือกข้างของเรา” ให้ดี
—
#ทรัมป์vsพาวเวลล์
#Fedไม่ใช่หุ่นเชิด
#TradeWar2.0
#พอร์ตระเบิด
#เกมนี้เดิมพันทั้งโลก
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
