เมื่อวาน เวลา 09:11 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ทวีปมู กับ ทวีป เลมูเรีย สองทวีปนี้ ทวีปไหนมีอยู่จริงกับแผนที่โลกของเจมส์ เชฟเวิร์ดกันแน่

รู้จักกับ ทวีปแห่งมารดร “มู” หนึ่งในตำนานอาณาจักรสาบสูญที่โด่งดังที่สุดของโลก
เมื่อวานนี้ได้พูดถึงนาน มาดอล และเล่าถึงว่ามีคนมโนว่าเป็นส่วนหนึ่งของทวีปมู ที่สาบสูญไปแล้ว อย่ากระนั้นเลย งั้นวันนี้มาพูดถึงเรื่องทวีปแห่งมารดร (ฉายาของทวีปมู) แห่งนี้กันดีกว่าเป็นอย่างไร มโนกันได้สุดยอดขนาดไหน
มู (Mu) หรือบางครั้งก็เรียกว่า เลมูเรีย (Lemuria) (บางแห่งก็บอกว่าสองที่นี้คือที่เดียวกัน แต่บางแห่งก็ว่าเป็นคนละตำนานกัน) เป็นชื่อเรียกของดินแดนที่เชื่อว่าสาบสูญไปแล้วแห่งหนึ่ง ซึ่งบางตำนานก็เล่าว่าอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่บางเรื่องก็เล่าว่าอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย หรือบางทีก็บอกว่าทั้งสองเป็นคนละแห่งกัน มูอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนเลมูเรียอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย
ตำนานของทวีปมูนั้นมีมาไม่นานเท่ากับแอตแลนติส คือเริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 19 หลังจากชาวยุโรปได้เริ่มออกสำรวจทางทะเลจนค้นพบทวีปอเมริกาเหนือและใต้ รวมถึงทวีปออสเตรเลียและเกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกและได้พบร่องรอยของอารยธรรมเก่าแก่โบราณในดินแดนต่าง ๆ ที่อาจจะเก่าแก่ยิ่งกว่าอียิปต์โบราณเสียอีก ทำให้เกิดมีทฤษฎีเกี่ยวกับ “ทวีปที่หายไป”
ที่เชื่อมโยงระหว่างอารยธรรมเหล่านี้ ออกุสตุส เลอ ปลองเจียน (Augustus Le Plongeon) เป็นคนแรกที่ได้พูดถึงและเรียกทวีปแห่งนี้ว่า มู โดยกล่าวว่าเป็นชื่อของราชินีองค์หนึ่งที่ปรากฏชื่ออยู่บนจารึกชิ้นหนึ่งที่พบในอาณาจักรของชาวมายา หลังจากนั้นในระหว่างปี 1921-1932 วิลเลียม นิเวน (William Niven) นักโบราณคดีชาวสก็อตแลนด์ ก็ได้กล่าวอ้างว่าได้พบหินที่มีการจารึกข้อความด้วยภาษาที่ไม่พบในที่อื่นใดในโลกมากกว่า 2500 ชิ้น ซึ่งอ้างว่าน่าจะเป็นฝีมือของชาวอารยธรรมโบราณที่สาบสูญไปแล้ว
ทวีปมู ที่เจมส์ เชฟเวิร์ดวาดลงบนแผนที่
แต่ผู้มโนเรื่องของทวีปมูจนกลายเป็นที่สนใจของนักโบราณคดีทั่วโลกก็คือ เจมส์ เชิร์ชเวิด (James Churchward) ที่เขียนได้เขียนเรื่องราวของอาณาจักรมูไว้ในหนังสือชื่อ Continent of Mu, the Motherland of Man (1926) และ The Children of Mu (1931), and The Sacred Symbols of Mu (1933)
ตามเรื่องของเชิร์ชเวิร์ดได้กล่าวอ้างว่า มูเป็นอารยธรรมแห่งแรกของโลก ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 5 หมื่นปีก่อนคริสตกาล มีที่อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่ฮาวายทางตอนเหนือไปจนถึงเกาะอีสเตอร์ทางตอนใต้ มีประชากรมากกว่า 64 ล้านคน ซึ่งมีเชื้อชาติต่าง ๆ กัน แต่แน่นอนว่า ชนชั้นนำของอาณาจักรก็คือ “คนขาว” (เพราะเรื่องนี้ฝรั่งแต่งไง ถ้าเป็นคนจีนแต่ง ผู้นำก็ต้องเป็น คนผิวเหลือง หรือถ้าคนดำในแอฟริกาแต่งเรื่องก็ต้องเป็น คนดำ ที่ใหญ่กว่าใคร 555555)
ทวีปมูถูกทำลายลงในช่วงประมาณ 12000 ปีก่อนคริสตกาล ด้วยสาเหตุเหมือน ๆ กับตำนานอาณาจักรสาบสูญอื่น คือเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ทำให้ทวีปมูจมหายลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้คนบางส่วนที่หนีรอดมา
ก็ได้เดินทางข้ามจากทวีปมูไปยังอเมริกาใต้ ก่อนจะข้ามไปตามชายฝั่งของทวีปแอตแลนติส (ที่ก็มโนขึ้นเหมือนกัน 555555) มาสู่แอฟริกาและยุโรปอีกที ซึ่งเมื่อพวกเขาไปที่ใดก็ได้นำอารยธรรมความรู้ไปถ่ายทอดให้กับชาวพื้นเมืองเดิมได้เรียนรู้ หรือบางส่วนก็ได้ตั้งรกรากอยู่ในดินแดนเหล่านั้นด้วยเลย
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ย่อมไม่เชื่อเรื่องดังกล่าว (รวมถึงตำนานอาณาจักรสาบสูญอีกหลายแห่งที่มีเรื่องราวคล้ายคลึงกัน) โดยเฉพาะเรื่องของการที่ทวีปทั้งทวีปจะจมหายไปใต้มหาสมุทรแปซิฟิกที่มีระดับความลึกเฉลี่ย 3 พันเมตรได้นั้น
ต้องใช้เวลานานหลายล้านปี รวมถึงหลักฐานทางด้านโบราณคดีและพันธกรรมก็ทำให้เชื่อได้ว่า อารยธรรมโบราญต่าง ๆ น่าจะเกิดขึ้นแยกจากกันโดยอิสระมากกว่าจะได้รับอิทธิพลจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน รวมถึงจารึกต่าง ๆ ที่พบในอเมรากลางซึ่งอ้างว่าเป็นของอาณาจักรมูนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นของอาณาจักรในแถบนั้นเอง ไม่ได้มาจากไหน
แต่ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะหาหลักฐานมายืนยันว่า ทวีปมูไม่น่าจะมีอยู่จริง แต่เรื่องตำนานลึกลับนั้นก็มักจะมีเสน่ห์ที่ทำให้คนหลงใหลได้อยู่เสมอ เรื่องราวของทวีปมูจึงยังคงมีคนให้ความสนใจ รวมถึงนำมากล่าวถึงในด้านต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นนิยาย การ์ตูน หรือแม้แต่เกมคอมพิวเตอร์ก็ตาม
เว็บนี้ เราได้ทราบอะไรบ้าง พิจารณาดังนี้
หนึ่ง คำว่าทวีปมารดร แปลว่า เป็นทวีปต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์มนุษยชาติ ซึ่งน่าจะตั้งอยู่ในบริเวณประเทศอินเดียที่ทางตอนใต้มากกว่า เพราะคำว่า เลมูเรีย มาจากชื่อลิงชนิดหนึ่ง คือ ลิงลีเมอร์ ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบซากฟอสซิลของมัน ทั้งในอินเดีย และเกาะมาดากัสการ์ที่แอฟริกา ทั้งที่ปัจจุบันนี้ ทั้งสองทวีปนี้มีระยะห่างกันตั้งมากมาย
สอง ตำนานของทวีปมูนั้น มีมาไม่นานเท่ากับแอตแลนติส คือในศตวรรษที่19
ตรงกับการได้ยินชื่อทวีปเลมูเรียเป็นครั้งแรกในกลางปี1800 โดยนักกฏหมายและนักสัตววิทยาชาวอังกฤษ ที่ชื่อ ฟิลิป สเลเตอร์ ซึ่งเขามีผลงาน ได้เขียนบทความ เรื่องสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม บนเกาะมาดากัสการ์
มันคือทวีปเดียวกันกับมู นั่นเอง เพียงแต่มูนั้น ไม่มีอยู่จริงบนแผนที่โลก
สาม เจมส์ เชฟเวิร์ด กล่าวอ้างว่า อารยธรรมนี้มีอายุตั้งแต่ ห้าหมื่นปีBC และตั้งอยู่ในกลางมหาสมุทรแปซิฟิค ตัวเลขนี้กลมถ้วนเป๊ะๆเกินไป ไม่น่าเชื่อ
สี่ แต่คนแรกที่กล่าวถึง คือ ออกกุสตุส เลอ บองจีออน โดยนำมาจากชื่อของพระราชินีพระองค์หนึ่งของอารยธรรมในอาณาจักรมายาที่พบในแผ่นจารึกของ อาณาจักรนี้ อยู่ทางอเมริกาใต้ ในสมัยมหาทวีปแพนเจีย เมื่อประมาณ250-335 ล้านปีก่อน ทวีปนี้จะเป็นแบบนี้
แผ่นทวีปอเมริกาใต้ หรือ เมโสอเมริกา ต้นกำเนิดของอารยธรรมมายา อยู่ติดกับแผ่นทวีปแอฟริกา ในสมัยมหาทวีปแพนเจีย เมื่อราวๆ250ล้านปี BC
ส่วน แผ่นทวีปอเมริกาเหนือ จะอยู่สูงกว่าแผ่นทวีปแอฟริกาเล็กน้อย คาดว่า ชาวอนันนูกิจะอพยพข้ามไปอยู่ฝั่งทวีปอเมริกาใต้ ในสมัยที่ทั้งสองแห่งอยู่ใกล้ติดกัน ณ ตอนนี้
ห้า ในปี1921-1932 วิลเลียม นิเวน นักโบราณคดีชาวสก้อตแลนด์ ค้นพบหินที่จารึกข้อความ ที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อนในโลก มากกว่า 2500 ชิ้น ชื่อเสียงของเขา ไม่น่าจะเป็นทีรู้จักมากนักในโลก หลังจากไปเสริ์ชกูเกิ้ลดูแล้ว คาดว่า สิ่งที่เขาค้นพบน่าจะเป็นของอารยธรรมมายา มากกว่า ของมู พิจารณาจากปีเริ่มต้นการค้นคว้าของเขาก็ได้ ปี1921 น่าจะโกหก หรือไม่ก็ไม่ทราบ เหมือนเจมส์ เชฟเวิร์ด
หก ทวีปมู ถูกทำลายลงในสมัยยุคโฮโลซีน เมื่อราวๆ12000 BC ตรงกับ ในสมัยยุคน้ำแข็งทั่วโลกละลาย กลายเป็นน้ำทะเลและมหาสมุทรมากมายมหาศาล ถ้าจะพิจารณาจากปี ทวีปมูนี้ จะต้องเป็นทวีปแอตแลนติส ที่เจมส์กับวิลเลียมไปนำมา
ขอขอบพระคุณข้อมูลในการอ้างอิง จาก
โฆษณา