23 เม.ย. เวลา 07:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทองคำ อาจไม่ใช่ “สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ” อีกต่อไป สมาคมนักวางแผนการเงินไทย แนะถือ “เงินฝาก - พันธบัตร”

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา "ทองคำ" มักถูกมองว่าเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" หรือ Safe Haven ที่นักลงทุนใช้เป็นหลุมหลบภัย
แม้ราคาทองคำในภาพรวมจะยังเป็นขาขึ้นในระยะหลัง แต่จะเห็นว่าราคาแกว่งตัวอย่างรุนแรง ไม่เว้นแม้แต่ราคาทองคำในประเทศไทย ที่บางวันปรับขึ้นลงเกือบพันบาท
ทำให้เกิดคำถามจากนักลงทุนจำนวนไม่น้อยว่า ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่แท้จริงอยู่อีกหรือไม่ หรือเป็นเพียงสินทรัพย์เก็งกำไรที่มีความเสี่ยงสูงกันแน่
และหากต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่เน้นความปลอดภัยจริงๆ ในภาวะที่ไม่ปกติเช่นนี้ ควรจะหันไปมองทางเลือกใด
ในบทความนี้ “Thairath Money” จะพาไปหาคำตอบเพื่อเพื่อไขข้อข้องใจในประเด็นนี้ กับ วิโรจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย (TPFA)
  • “ทองคำ” ≠ “สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ”
นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า จากความผันผวนที่รุนแรงของราคาทองคำในปัจจุบัน อาจทำให้ ทองคำไม่ใช่ “สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ” อีกต่อไป แม้ว่าในเชิงทฤษฎี ทองคำจะถูกจัดเป็น Safe Haven แต่ในทางปฏิบัติ ความผันผวนสูงทำให้มันมีลักษณะใกล้เคียงกับ "สินทรัพย์เสี่ยง" มากกว่า
"ทองคำ สามารถมองได้ 2 มุม" วิโรจน์ อธิบายพร้อมชี้ให้เห็นว่า ถ้ามองในเชิงทิศทางการลงทุน มันอาจถูกใช้เป็น Safe Haven แต่ถ้ามองในแง่ความเสี่ยง ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์เสี่ยงต่ำแน่นอน เพราะมันมีความแกว่งตัวสูงมาก ขึ้นแรงได้ ก็ลงแรงได้เช่นกัน
1
และที่สำคัญคือ ทองคำไม่มีกระแสเงินสดตอบแทนระหว่างถือครอง ไม่เหมือนตราสารหนี้ที่เราได้ดอกเบี้ย หรือหุ้นปันผลดีๆ ที่แม้ราคาหุ้นจะตก เราก็ยังได้เงินปันผล แต่ทองคำไม่มีส่วนนี้เลย
วิโรจน์ ยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ปลอดภัยดั้งเดิมอย่างพันธบัตรสหรัฐฯ (Treasury Bills) ซึ่งเคยเป็นตัวหลัก แต่ปัจจุบันเผชิญความท้าทายจากความอ่อนแอของค่าเงินดอลลาร์ ปัญหาการขาดดุลงบประมาณ และแนวคิดเรื่องการลดการพึ่งพาดอลลาร์ (De-dollarization) ทำให้เม็ดเงินส่วนหนึ่งไหลออกจากพันธบัตรสหรัฐฯ ไปยังทองคำในปัจจุบัน
  • ถ้าไม่ใช่ “ทองคำ” สินทรัพย์ปลอดภัยที่แท้จริงคืออะไร?
สำหรับสินทรัพย์ปลอดภัยที่แนะนำในตอนนี้ คือสิ่งที่จับต้องได้และมีความเสี่ยงต่ำโดยธรรมชาติ วิโรจน์ แนะนำว่าเป็น เงินฝากธนาคาร โดยเฉพาะเงินฝากดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ, สลากออมสิน/ธ.ก.ส. และที่สำคัญคือ พันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตราสารหนี้ในประเทศไทย
ทำไมถึงแนะนำตราสารหนี้ไทยเป็นพิเศษ? วิโรจน์ ให้เหตุผลว่า ตอนนี้การลงทุนในตราสารหนี้ไทยมีความปลอดภัยกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในไทยค่อนข้างน้อยกว่า เมื่อเทียบกับความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่หวือหวามาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อมูลค่าของตราสารหนี้โดยตรง
นอกจากนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศยังมีความเสี่ยงเรื่อง อัตราแลกเปลี่ยน ที่มีความไม่แน่นอนสูงมาก และถึงขั้นรุนแรงไปสู่สงครามค่าเงินได้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ควบคุมได้ยาก
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรเปรียบเทียบผลตอบแทนและความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ในตลาดเงินอย่างรอบคอบ และจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้เสมอ
อ่านข่าวกับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
โฆษณา