24 เม.ย. เวลา 16:16 • ข่าวรอบโลก

ดู 4 รูปนี้เข้าใจเลย “แผนยุติสงครามยูเครนของทรัมป์” เวอร์ชันสุดท้าย

“ปักหมุดหยุดที่แนวปะทะปัจจุบัน” และ “แลกเปลี่ยนดินแดนกัน”
“ทรัมป์” กำลังผลักดันแผนสันติภาพฉบับของเขาอย่างเต็มเหนี่ยว ซึ่งเขาอ้างว่าสามารถยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ได้ เงื่อนไขหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดของทรัมป์ คือ “การที่สหรัฐยอมรับอำนาจอธิปไตยของรัสเซียเหนือไครเมีย”
1
ซึ่งล่าสุดเซเลนสกีบอกไม่เอาด้วย ไม่ยอม จุดยืนของ “เซเลนสกี” คือคัดค้านเงื่อนไขนี้อย่างรุนแรง และฝั่งพันธมิตรยุโรปของยูเครนก็ส่งสัญญาณให้ทรัมป์รู้ด้วยว่าพวกเขาก็ไม่ยอมรับ ก่อนหน้านี้ “กาจา คัลลาส” หัวหน้าการต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวกับเอเอฟพีว่า “ไครเมียเป็นของยูเครน”
เครดิตภาพ: UNITED24 Media
อย่างไรก็ตามแผนสันติภาพของทรัมป์ยังรวมถึงประเด็นขัดแย้งอื่นๆ อีกหลายประเด็น เช่น การหยุดยิงตามแนวรบปัจจุบัน และการแลกเปลี่ยนดินแดนบางส่วนที่ต่างฝ่ายต่างบุกเข้าไปยึดของอีกฝั่งหนึ่ง (ภาพรวมดูได้จากภาพแผนที่รวมและแตกย่อยตามภูมิภาคในหน้าปกบทความนี้)
สรุปว่า “แผนสงบศึกในยูเครนของทรัมป์ล่มซะแล้ว” ดูต่อว่าทรัมป์จะถอนตัวจากการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยตามที่เคยประกาศไว้จริงมั้ย
  • คำอธิบายแผนที่
  • แผนที่ที่มีคนทำสรุปไว้นี้เป็นการสรุปจากรายงานสถานการณ์ในสนามรบจากแหล่งข่าวต่างๆ ที่อาจไม่ชัดเจน 100% และอยู่ในพลวัตปรับเปลี่ยนได้ตลอด เอาเป็นว่าดูพอเป็นไอเดียเรื่องปริมาณพื้นที่เชิงเปรียบเทียบ
  • ในแผนที่รูปที่ 3 ได้ทำแรเงาเป็นพื้นสีน้ำเงินมีขีดคาดทแยงสำหรับแทนพื้นที่ทั้งหมดของภูมิภาคคาร์คีฟที่รัสเซียยึดครองไว้และพวกเขาจะต้องถอนตัวออกไปตามเงื่อนไขสงบศึกของทรัมป์
1
อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้อาจไม่แม่นยำนัก แหล่งข้อมูลเดียวเกี่ยวกับพื้นที่ที่รัสเซียยึดในส่วนภูมิภาคคาร์คีฟของยูเครนคือมาจาก Axios (สื่ออื่นๆ ไม่ได้กล่าวถึงภูมิภาคคาร์คีฟในการรายงานเกี่ยวกับแผนของทรัมป์) ซึ่งอ้างถึงผู้เจรจาของยูเครนเป็นแหล่งที่มา ทั้งคณะผู้แทนของอเมริกาและรัสเซียต่างก็ไม่ได้ให้คำชี้แจงในลักษณะเดียวกัน
3
นอกจากนี้การถอนตัวจากพื้นที่อันกว้างใหญ่ของภูมิภาคคาร์คีฟระหว่างคูเปียนสค์และสวาโตฟจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของรัสเซียในการปกป้องพื้นที่ที่ยึดครองของภูมิภาคลูฮันสค์ในอนาคต หากกองกำลังยูเครนพยายามยึดพื้นที่คืนในภายหลัง
เครดิตภาพ: Meduza
  • ในแผนที่รูปที่ 2 ยังระบุพื้นที่ Kinburn Spit (แหลมยื่นไปในทะเลดำ) ที่ถูกรัสเซียยึดครองในเมืองนิโคลาเยฟของยูเครน ซึ่งตามแผนของทรัมป์เป็นดินแดนที่รัสเซียจะต้องถอนกำลังออกไป (ตามข้อมูลของ Axios เท่านั้น) อย่างไรก็ตามตามกฎหมายของรัสเซีย พื้นที่นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคเคอร์ซอนที่ถูกผนวกเข้ากับรัสเซียตามกล่าวอ้าง ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่รัสเซียจะวางแผนคืนพื้นที่นี้ให้กับยูเครน
1
เครดิตภาพ: Meduza
  • ในแผนที่รูปที่ 4 ได้ระบุพื้นที่ในภูมิภาค “เคิร์สก์” และ “เบลโกรอด” ของรัสเซียที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนในปัจจุบัน (เสี้ยวเล็กน้อย) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยูเครนจะต้องถอนกำลังออกไปด้วย (พื้นสีแดงมีขีดคาดทแยง)
แผนของทรัมป์ไม่ได้เรียกร้องให้ดินแดนเหล่านี้กลับคืนสู่การควบคุมของรัสเซีย อย่างไรก็ตามปูตินเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าการปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์ให้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์เป็นเป้าหมายโดยตรงของกองทัพรัสเซีย เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะสันนิษฐานว่ารัสเซียจะมีจุดยืนที่คล้ายคลึงกันในภูมิภาคเบลโกรอด
เครดิตภาพ: Meduza
ยูเครนอาจอ้างเหตุผลในการถอนตัวจากดินแดนของรัสเซียได้โดยชี้ให้เห็นถึงข้อผ่อนปรนจากมอสโก เช่น การปลดปล่อยบางส่วนหรือทั้งหมดของพื้นที่ยึดครองในซูมีหรือคาร์คีฟ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าก่อนหน้านี้ปูตินเน้นย้ำว่ารัสเซียคัดค้านการ “แลกเปลี่ยนดินแดน” กับยูเครน
1
สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาสัญญาณที่ขัดแย้งกันจากรัสเซียเกี่ยวกับแผนในการหยุดยิงโดยอิงตามแนวปะทะปัจจุบัน ในขณะที่แหล่งข่าวของ Financial Times รายงานเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาว่า ปูตินตกลงที่จะหยุดยิงตามแนวปะทะ ส่วนโฆษกเครมลิน “ดมิทรี เปสคอฟ” กล่าวในวันรุ่งขึ้นกับ Le Point สื่อฝรั่งเศสทำนองว่า รัสเซียยังคงอ้างสิทธิ์ในการผนวกดินแดนยูเครนทั้งสี่แคว้น
เรียบเรียงโดย Right Style
24th Apr 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Meduza>
โฆษณา