25 เม.ย. เวลา 11:58 • ข่าวรอบโลก

ผู้ผลิตรถยนต์หันลุยตลาดโลก เลี่ยงภาษีทรัมป์ สหรัฐฯ เสี่ยงเสียซัพพลายเชนและโอกาสการค้า

Automakers focus on the global market, chide the US over tariffs at Shanghai’s auto show
🔎 สรุปข่าวและเรียบเรียงเนื้อหาแบบเข้าใจง่าย
🚗 ภาพรวมงานแสดงรถยนต์ที่เซี่ยงไฮ้ 2025
งานแสดงรถยนต์ที่เซี่ยงไฮ้ในปีนี้เต็มไปด้วยบูธจากค่ายรถยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ทั้งจีน ญี่ปุ่น เยอรมนี แม้ตลาดสหรัฐฯ จะหดตัวลงเพราะนโยบายภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นถึง 25% จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้หลายบริษัทหันไปโฟกัสตลาดอื่นแทน โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรป
📦 ผลกระทบจากภาษีและการปรับตัวของบริษัท
บริษัท Soling จากจีนซึ่งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้ค่ายรถยนต์ชั้นนำอย่าง Ford และ Toyota เริ่มขยายฐานการผลิตไปเวียดนาม ขณะที่บริษัท Gestamp จากยุโรปซึ่งผลิตโครงสร้างรถยนต์ก็หันมาลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรปตะวันออกแทนตลาดสหรัฐฯ ที่ไม่แน่นอน
🌍 ความไม่มั่นคงทางการเมือง = ความเสี่ยงทางธุรกิจ
Wei Jianjun (Jack Wey) ประธานบริษัท Great Wall Motor ระบุว่า “ความมั่นคงทางการเมืองคือปัจจัยพื้นฐานในการลงทุน” และแสดงความกังวลต่อความเสี่ยงในสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์
🔧 การปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนทั่วโลก
บริษัท Leapmotor และ Nissan ต่างวางกลยุทธ์ใหม่ เช่น Nissan เตรียมลงทุนเพิ่มในจีนกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ และพัฒนา EV อีก 10 รุ่น ขณะที่บริษัท AOD จากจีนก็เตรียมซัพพลายชิ้นส่วนให้ Tesla แม้จะยังไม่สามารถขายเข้าสหรัฐฯ ได้ในขณะนี้
🔐 ข้อจำกัดด้านความมั่นคง-เทคโนโลยี
บริษัท Wuhan Kotei ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติหันไปทำหน้าที่ “ที่ปรึกษา” เพื่อให้บริษัทต่างชาติปรับใช้เทคโนโลยีในประเทศของตนได้โดยไม่ละเมิดข้อจำกัดด้านความมั่นคง
📉 สหรัฐฯ อาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบในระยะยาว
หลายฝ่ายเชื่อว่านโยบายของทรัมป์จะย้อนกลับมาทำร้ายห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ เอง หากพยายามจำกัดการนำเข้ามากเกินไป
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย
🔧 อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยมีโอกาสและความเสี่ยง
หากซัพพลายเชนจากจีนถูกเบนเส้นทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตยานยนต์รายใหญ่ของภูมิภาคอาจได้อานิสงส์จากการลงทุนและการจัดตั้งฐานการผลิตใหม่จากต่างประเทศ เช่น บริษัทอย่าง Soling หรือ Gestamp อาจมองไทยเป็นตัวเลือกสำรองจากเวียดนาม
💼 แรงงานมีโอกาสได้งานเพิ่ม แต่ต้องพัฒนาทักษะ
เทคโนโลยีใหม่โดยเฉพาะด้าน EV และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะจะทำให้ตลาดแรงงานไทยต้องปรับตัว โดยเฉพาะด้าน Software, Embedded Systems และระบบ AI
📊 ผลกระทบต่อหุ้นไทย
📈 หุ้นที่ได้ประโยชน์:
DELTA, KCE, HANA: บริษัทเหล่านี้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในยานยนต์ไฟฟ้าและสมาร์ทรถ หากซัพพลายเชนเปลี่ยนจากจีนไปอาเซียน หุ้นเหล่านี้อาจได้อานิสงส์จากคำสั่งซื้อใหม่หรือการตั้งฐานผลิตเพิ่ม
SAT (สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี) และ AH (อาปิโก ไฮเทค): ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ในไทย มีโอกาสรับงาน OEM จากค่ายต่างชาติที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากจีนและสหรัฐฯ
📉 หุ้นที่อาจได้รับผลกระทบทางอ้อม:
CPALL, BJC: หากการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังสหรัฐฯ ชะลอตัว อาจกระทบต่อการใช้จ่ายในประเทศและทำให้ยอดขายสินค้าทั่วไปลดลงในระยะสั้น
📌 แนวโน้มตลาดโดยรวม
ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีแนวโน้มเคลื่อนไหวเชิงบวกในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ แต่ควรระวังความผันผวนจากข่าวสารด้านนโยบายการค้าสหรัฐฯ โดยเฉพาะช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปี 2025
📲 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#AutoShowShanghai2025 #TradeWar #EVmarket #ThaiStockImpact #WorldScopeUpdate #ศึกโลกเศรษฐกิจ #ข่าวต่างประเทศวันนี้ #นโยบายทรัมป์ #ตลาดหุ้นไทย #ธุรกิจยานยนต์ #WorldScopeOriginals

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา