🦟 มาลาเรียระบาดซ้ำ เพราะทรัมป์ตัดงบ!
US aid cuts create ‘perfect storm’ for malaria in Africa
⚠️ สาระสำคัญของข่าว
มาลาเรียยังคร่าชีวิตผู้คนเกือบ 600,000 รายต่อปี โดย 95% เกิดในแอฟริกา และส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
โครงการพ่นสารเคมีภายในบ้าน (Indoor Residual Spraying - IRS) ในพื้นที่เสี่ยงของเคนยา เช่น Busia และ Migori ถูกยกเลิกเพราะ สหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ ตัดงบช่วยเหลือด้านสาธารณสุข
โครงการสำคัญในโมซัมบิกและอีกหลายประเทศถูกระงับกลางคัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตกงาน และการเก็บข้อมูลโรคถูกหยุดชะงัก
WHO เตือนว่าการระบาดอาจกลับมารุนแรงซ้ำรอยปี 1969 ที่โลกเคยปล่อยปละโรคนี้จนต้องใช้เวลาหลาย 10 ปีเพื่อฟื้นฟู
มีการชะลอหรือเสี่ยงล้มเหลวในกว่า 40% ของโครงการแจกมุ้ง 30% ของโครงการให้ยาช่วงฤดูระบาด และเกิดการขาดแคลนยาและอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัย
การระบาดมีแนวโน้มเลวร้ายขึ้นจาก:
✤ การดื้อยาและสารเคมี
✤ สภาพอากาศสุดขั้วจากภาวะโลกร้อน
✤ งบประมาณที่ลดลงแบบไม่ทันตั้งตัว
🌡️ วิเคราะห์ผลกระทบระดับโลก
การถดถอยของการควบคุมโรคติดต่อในแอฟริกาอาจก่อให้เกิด “โรคข้ามทวีป” จากการเคลื่อนย้ายแรงงาน การเดินทางระหว่างประเทศ และผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยรวม
ประเทศพัฒนาแล้วอาจต้อง กลับมารับภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ หากโรคนี้แพร่กระจายกลับไปยังยุโรปหรืออเมริกา
ความเชื่อมั่นต่อ บทบาทผู้นำด้านสุขภาพโลกของสหรัฐฯ อาจลดลง
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย
ไทยแม้ไม่ใช่ประเทศกลุ่มเสี่ยงสูง แต่การลดลงของการควบคุมโรคในแอฟริกาอาจนำไปสู่การ กลายพันธุ์ของเชื้อมาลาเรีย ที่ดื้อต่อยาและเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การค้าและความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศในแอฟริกา เช่น ภาคแรงงาน หรือการลงทุนของบริษัทไทยในทวีปแอฟริกา (เช่น พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน) อาจเผชิญความเสี่ยงทางสุขภาพและต้นทุนเพิ่มขึ้น
💸 ผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET)
แม้ข่าวจะเกิดในต่างประเทศ แต่มีผลสะเทือนต่อหุ้นไทยในกลุ่มการแพทย์และวัคซีน โดยเฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ยา วัคซีน หรือมุ้งเคลือบสารเคมี ซึ่งมีทั้งผลเชิงลบและบวก ดังนี้:
🔻 หุ้นที่ อาจได้รับผลกระทบทางลบ:
BDMS และ BH – โรงพยาบาลเอกชนใหญ่ หากโรคติดต่อรุนแรงขึ้นในระดับภูมิภาค อาจมีต้นทุนในการป้องกันโรคมากขึ้น รวมถึงความกังวลเรื่องการเดินทางของผู้ป่วยต่างชาติ
MEGA – บริษัทจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะแอฟริกา อาจเผชิญกับปัญหาในห่วงโซ่ส่งออก
TASCO – มีการลงทุนในทวีปแอฟริกา การระบาดของโรคอาจส่งผลต่อโครงการที่เกี่ยวกับการสร้างถนนหรือโครงสร้างพื้นฐาน
🟢 หุ้นที่ อาจได้อานิสงส์:
NRF, PPPM, DOD – กลุ่มผลิตภัณฑ์ธรรมชาติหรือสมุนไพร มีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้นจากกระแสรักษาเชิงทางเลือก
SMD100, TM, BCH – กลุ่มจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์และตรวจวินิจฉัย มีโอกาสส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นหากโครงการต่างชาติหันมาพึ่งเอกชนมากขึ้น
🌍 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#WorldScope #มาลาเรีย #DonaldTrump #USAID #AfricaHealthCrisis #ScorchedRights #GlobalIgnitions #ผลกระทบต่อหุ้น #ตลาดหลักทรัพย์ไทย #หุ้นการแพทย์ #วัคซีน #บริษัทยา #Blockditซีรีส์
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
