25 เม.ย. เวลา 15:20 • การเมือง

Pol What If…? EP.3 : การเมืองไทยไม่มีอิทธิพลของทุนผูกขาด?

(เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องสมมติที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งโดยอิงตามข้อเท็จจริงบางส่วน ใช้เป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการทำความเข้าใจ)
“ทุนผูกขาด” หรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีอำนาจเหนือตลาดและการเมือง เป็นหนึ่งในโครงสร้างอำนาจที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมายาวนาน โดยเฉพาะนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจเติบโตแบบ “รัฐพัฒนา-ทุนใหญ่ร่วมมือ” ในทศวรรษ 2520 เป็นต้นมา (ดู: Pasuk & Baker, Thaksin, 2009)
 
คำถามว่า "จะเกิดอะไรขึ้นหากการเมืองไทยปลอดจากอิทธิพลของทุนผูกขาด?" เป็นคำถามที่ชวนให้คิดถึงทางเลือกอื่นของการพัฒนา — ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง
🔗 ความสัมพันธ์ระหว่างทุนผูกขาดกับการเมืองไทย
• กลุ่มทุนใหญ่มีอิทธิพลต่อพรรคการเมือง ทั้งการสนับสนุนหาเสียงและล็อบบี้นโยบาย
• การควบรวมกิจการในหลายอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน สื่อ โทรคมนาคม ทำให้ “ทุนใหญ่” สามารถใช้ทั้ง อำนาจตลาด และ อำนาจสื่อ
• ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น การวิพากษ์ดีล CP ควบ Tesco หรือ BJC ควบ Big C ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นการทำลายการแข่งขัน (TDRI, 2020)
🌱 หากไม่มีอิทธิพลทุนผูกขาด จะเป็นอย่างไร?
🟢 ข้อดี:
• นโยบายสาธารณะจะตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น เช่น สวัสดิการถ้วนหน้า แทนที่เมกะโปรเจกต์เอื้อทุน
• เกิดการแข่งขันทางเศรษฐกิจมากขึ้น เอื้อ SME และสตาร์ทอัพให้เติบโต
• ระบบภาษีอาจเป็นธรรมมากขึ้น โดยลดการเว้นภาษีให้ทุนใหญ่
• ลดความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ เพราะประชาชนจะมีโอกาสมีเสียงในระบบมากขึ้น
🔴 ข้อเสีย / ความท้าทาย:
• การเปลี่ยนผ่านอาจทำให้เกิดแรงต้านสูง จากกลุ่มทุนเดิมที่เสียผลประโยชน์
• อาจกระทบการลงทุนระยะสั้น โดยเฉพาะในกลุ่มทุนที่เคยได้รับสิทธิพิเศษ
• รัฐต้องมีกลไกควบคุมอิสระและเข้มแข็ง เช่น คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ต้องมีอิสระจริง ๆ
🧪 กรณีศึกษา
• เกาหลีใต้ (ยุคหลังอำนาจ Chaebol): พยายามลดอิทธิพลของ conglomerates เช่น Samsung, Hyundai โดยสร้างนโยบายสนับสนุน SME
• ไต้หวัน: มีการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ ไม่ให้ทุนใดผูกขาดรัฐหรือนโยบาย
• ประเทศไทย: ข้อเสนอของกลุ่มวิชาการ เช่น TDRI และป.ป.ช. เคยเสนอ “ภาษีลาภลอย” และกฎหมายต่อต้านการผูกขาดที่เข้มแข็งขึ้น แต่ถูกต่อต้านโดยกลุ่มธุรกิจ
ถ้าการเมืองไทยไม่มีอิทธิพลของทุนผูกขาดประเทศอาจได้เห็น ประชาธิปไตยที่แท้จริงมากขึ้นในเชิงเศรษฐกิจ แต่กระบวนการไปสู่จุดนั้นต้องอาศัยการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ทั้งในเชิงการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมทางการเมือง
(หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ และโปรดแสดงความคิดเห็นอย่างปัญญาชน)
📚 แหล่งอ้างอิง
• Pasuk Phongpaichit & Chris Baker. Thaksin. 2009.
• TDRI. (2020). บทวิเคราะห์ผลกระทบการควบรวมธุรกิจค้าปลีก
• Pongsudhirak, T. (2019). “The Iron Triangle in Thai Politics” – Chulalongkorn University
• OECD. (2021). Competition Policy in Asia
โฆษณา