Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supervisor Ekarat
•
ติดตาม
26 เม.ย. เวลา 00:51 • หนังสือ
📗Key Takeaways: “ศิลปะการอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย” (The Asshole Survival Guide)
เขียนโดย โรเบิร์ต ไอ. ซัตตัน (Robert I. Sutton)
ให้ ChatGPT สรุปให้
1. ใครคือ "คนเฮงซวย" (Asshole)?
• คนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
• มักแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เห็นแก่ตัว ข่มผู้อื่น ใส่ร้าย ทำร้ายด้วยคำพูดหรือการกระทำ
• อยู่ในตำแหน่งอำนาจหรือใช้วิธีเอาตัวรอดโดยไม่สนใจคนอื่น
2. ทำไมเราจึงควรรับมือให้ได้?
• เพราะการปล่อยให้คนเหล่านี้มีอิทธิพลจะทำให้สุขภาพจิตพัง สมรรถภาพในการทำงานลดลง และบรรยากาศรอบตัวเป็นพิษ
• บางครั้งเราเลี่ยงไม่ได้ เช่น เขาเป็นหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือคนในครอบครัว
3. กลยุทธ์การเอาตัวรอดจากคนเฮงซวย
(1) หลีกเลี่ยง (Avoid):
• หากเป็นไปได้ จงหาทาง “เดินหนี” หรือไม่คลุกคลีกับคนเหล่านี้
• เลี่ยงการทำงานร่วมกัน หรือเปลี่ยนแวดวง
(2) ตั้งขอบเขต (Set Boundaries):
• อย่ายอมให้พวกเขาเข้ามารบกวนชีวิตหรือครอบงำความรู้สึก
• ใช้วิธีการตั้งขอบเขต เช่น ไม่ตอบกลับข้อความทันที / จำกัดเวลาในการสนทนา
(3) มองแบบนักวิทยาศาสตร์ (Emotionally Detached):
• แทนที่จะโต้ตอบด้วยอารมณ์ ลองเปลี่ยนเป็นผู้สังเกต เช่น "เขากำลังทำแบบนี้เพื่ออะไร?"
• การสร้างระยะห่างทางอารมณ์ช่วยให้เราไม่หลงไปกับความโกรธ
(4) ใช้อารมณ์ขันและวิธีเบาๆ (Humor & Deflection):
• ใช้ความตลกหรือการเบี่ยงเบนเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรง
• หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น เม้าท์กับเพื่อนที่ไว้ใจได้
(5) ร่วมมือกับพวกเดียวกัน (Form Allies):
• ถ้าคนเฮงซวยสร้างปัญหากับหลายคน หาทีมเดียวกันเพื่อป้องกันตัวและรับมือร่วมกัน
• อย่ารับมือคนเดียว
(6) เมื่อจำเป็น: โต้กลับอย่างมีชั้นเชิง (Strategic Retaliation):
• ในบางกรณี ต้องโต้กลับอย่างมีกลยุทธ์ โดยไม่ใช้อารมณ์แต่ใช้สติและจังหวะ
ข้อคิดสำคัญจากหนังสือ
• โลกนี้จะมี “คนเฮงซวย” อยู่เสมอ เราเปลี่ยนเขาไม่ได้ แต่เปลี่ยนวิธีรับมือได้
• ถ้าไม่ระวัง คุณเองก็อาจกลายเป็น "คนเฮงซวย" โดยไม่รู้ตัว
• สุขภาพจิตของคุณสำคัญกว่าการเอาชนะ
• คนที่รู้วิธี “อยู่ร่วมโดยไม่เสียสุขภาพจิต” คือคนที่ฉลาดในการใช้ชีวิต
**ขยายความ “การสร้างระยะห่างทางอารมณ์ช่วยให้เราไม่หลงไปกับความโกรธ”
ขยายความแบบเข้าใจง่าย:
1. ทำตัวเป็น "ผู้สังเกต" แทนที่จะ "ตอบสนองทันที"
เช่น ถ้ามีใครพูดเหน็บแนมหรือดูถูกเรา แทนที่จะตอบโต้ทันทีด้วยอารมณ์ ให้ลองสังเกตพฤติกรรมเขาเหมือนนักวิทยาศาสตร์ดูพฤติกรรมของสัตว์
"เอ๊ะ เขาพูดแบบนี้เพื่ออะไรนะ? เขาเครียดเหรอ? หรือเขาแค่อยากรู้สึกเหนือกว่า?"
2. แยก "ตัวคุณ" ออกจาก "คำพูดของเขา"
อย่าปล่อยให้คำพูดของคนเฮงซวยมาขโมยความรู้สึกดีๆ ของคุณไป
"เขาว่าฉันไม่เก่ง… แต่นั่นคือความเห็นของเขา ไม่ใช่ความจริง"
3. ใช้เวลาเป็นตัวช่วย
เมื่อเริ่มรู้สึกว่าอารมณ์กำลังจะระเบิด ให้พักก่อน เช่น หายใจลึกๆ เดินออกมา เข้าห้องน้ำ หรือเปลี่ยนหัวข้อ
เพราะถ้าตอบสนองด้วยอารมณ์ทันที มักจะ “เสียรู้” เขา
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ
สมมุติคุณคือเรือ และเขาคือพายุ
ถ้าคุณอยู่ใกล้พายุเกินไป คุณจะโดนคลื่นซัดจม
แต่ถ้าคุณ "ถอยออกมา" พอสมควร พายุจะยังคงอยู่… แต่คุณจะ “ปลอดภัย” และยังควบคุมทิศทางเรือได้
สรุปสั้นๆ:
การสร้างระยะห่างทางอารมณ์ ไม่ใช่การ “หนีปัญหา” แต่เป็นการ “ปกป้องพลังงานของตัวเอง” เพื่อไม่ให้เราหลงไปในกับดักของความโกรธหรืออารมณ์ลบที่เขาหว่านไว้ครับ
ความรู้
ข้อคิด
หนังสือ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย