27 เม.ย. เวลา 02:15 • ปรัชญา
..รู้ว่่ากายนี้เป็นทุกข์ .มีอารมณ์นี่นั้นปรุงแต่ง.. พูดได้ง่ายนิดเดียว ใช้เวลาเป็นอเนกชาติ..จิตนั้น..อย่าไปยึดกายยึดทุกข์..
เรื่องการปฏิบัติธรรม ..อย่างไรที่เรียกว่า ปฏิบัติธรรม ..ปกติชีวิตของเรา มีมีกายที่ถูกปรุงแต่ง ด้วยอารมณ์ .. กายก็เป็นที่ตั้งของอารมณ์ ทั้งของกรรม ที่มีธาตุทั้งสี่ประกอบขึ้นมา คำว่าธาตทั้งสี่ ที่ประกอบกันขึ้นมา ในจิตนั้นอาศัยชั่วขณะหนึ่ง ก็เพื่อให้มาเรียกรู้จัก แก้ไข …จิตที่มีปัญญา จิตนั้นก็ไม่ยึดกายยึดอารมณ์
คราวนี้ เรามาดู รอยของผู้ที่ มีปัญญาธรรม ท่านก็นำกาย มาทำกายนิ่ง จิตเฉย ที่รอย เดิน ยืน นั่ง นอน ไม่นึกคิดอะไร นั่งนิ่งๆ จิตเฉย บังคับกายให้นิ่ง .จะได้ดูว่า ทุกข์ ..กายมันทุกข์ ความเจ็บปวด มันเกิดขึ้น จิตก็อยู่เฉย เอาจจ้ตไปไปอยู่กับพระ ภาวนาพุทโธ ขึ้นมา อาศัยพระมาช่วย
..มันเจ็บปวดทุกข์ทรมาน นั้นมันเป็นอารมณ์ ที่พัวพันอยู่ในกายที่มีกรรม ..จิตเรามันเป็นจิตน้อยๆ ทนไม่ไหว ต่อสู้กับอารมณ์กรรมไม่ได้ ก็ถอยหนี่ ยอมแพ้อารมณ์
คราวนี้ ..เมื่อเรารู้ว่า จิตเราอาศัยอยู่ในกายนั้นเป็นกายกรรม เราก็หาวิธี ทำกายนั้น ให้เป็นกายบุญเกิดขึ้น เมื่อกายเป็นกายบุญ .อุปสรรคเรื่องราวของกรรมมันลดน้อยลงไป เมื่อนำกายบุญมาปฏิบัติธรรม ..เดิน ยืน นั่ง นอน .ไม่นึดคิดอะไร ไม่ยึดกาย ยึดอารมณ์
.เราก็บังคับกายให้นิ่ง . เกิดความเจ็บปวด เกิดขึ้น .เราก็ไม่ไปยึด ความเจ็บปวดนั่น ต่อสู้ ความเจ็บปวด ก็คืออารมณ์ให้เราไปยึด .. จิตที่มีการต่อสู้นั้น เหมือนว่า เราต่อสู้กับคนสองคน คือกายกับอารมณ์ จิึงพ่ายแพ้ ตลอด คราวนี มันเจ็บปวดมันทุกข์ มันจะตาย เราก็ยอมตาย ..นึกถึงพระ ภาวนาพุทโธขึ้นมา เราไม่ไปยึดกายยึดอารมณ์ ..มันจะตาย จ้ตเราก็ไปกับพระ .ไม่ไปยึกดกายยึดอารมณ์ ..ที่เป็นทุกข์
คราวนี้ จิตของเรา มันยังเล็ก บุญก็ไม่รู้จัก กรรมก็ไม่รู้จัก ธรรมก็ไม่รู้จัก .ทุกข์ก็ไม่รู้จัก แล้วจะหนีทุกข์ได้อย่างไร คนเรามันชอบสุข ..สุขที่กาย ..ที่ไปเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาใส่กาย ไปกินอาหาร เที่นวที่นั้นที่นี้ . หลงคิดว่า เป็นสุข ..แต่กับเพิ่มภาระให้แก่กาย ..
กายนี้ เสื่อมสภาพ ไปเรื่อย เหมือรถเหมือนเรือที่เราใช้ ..เอาไปชน ไปกระแทก ผจญ..อะไรต่าง บำเรออารมณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเป็นสุข สุขนั้นมีนิดเดียว นอกนั้น ทุกข์ทั้งนั้น ..แต่เราก็ไม่รู้จัก .. กลับเห็นว่าเป็นสุข .ก็พยายามบำเรอกายใ้าห้กายเป็นสุข หาอารมณ์มาใส่ ให้ลิ้นมีอารมณ์ ..สัมผัสเอร็ดอร่อยว่าเป็นสุข
…เค้าจึงว่าอร่อย แค่ปลายลิ้น หลงใหล ในกามารมณ์ที่เกิดขึ้น อยากนั้นอย่างนี้ ตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น มีสุขของอารมณ์ที่ให้แป๊บเดียวเอง นอกนั้น กายต้องรับภาระ เอาอะไรใส่ลงไปๆ แล้วจิตนั่น ก็ไม่สามารถ สลัดความยึดถือกายกรรม อารมณ์กรรมไปได้
คราวนี้ ผู้ที่เค้ารู้จัก มีปัญญา รู้จักต้นเหตุนั่นเพราะกายมีกรรม อารมณ์ก็ปรุงแต่งที่กาย เค้าก็มายืน เดิน นั่ง นั่งนิ่ง จิตเฉย ความทุกข์มันเกิดขึ้น ก็ปลดเปลื้อง ไม่ยึดกาย ไม่ยึดทุกข์ พระท่านว่า ของง่ายๆ ฉันนั่งแช่น้ำแข็ง เป็นวันๆ อดอาหาร นั่งนิ่งเฉย เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ เอาชนะกายชนะอารมณ์ ก็ทำไปเรื่อย ให้กายเป็นแก้วจิตเป็นแก้วเจี๊ยบระไน กายเป็นแก้ว ก็หมดภาระ ธาตุทั้งสี่ก็บริสุทธิ์ .หมดจดใสสะอาด ไปไหนก็ไม่มีอะไรขัดขวาง
โฆษณา