Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พี่ชื่อวิช
•
ติดตาม
27 เม.ย. เวลา 13:02 • การเมือง
อาถรรพ์หมายเลข #14
เรื่องความเชื่อบางครั้งมันก็ห้ามกันยาก ทั้งๆที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ก็ตาม คนก็ยังเชื่อฝังใจ ลบเท่าไรก็ไม่หาย
ตามความเชื่อของฝรั่ง หมายเลข 13 เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้าย หรือมักเรียกว่าลัคกี้นัมเบอร์ สันนิษฐานว่าน่าจะมีที่มาจากความเชื่อทางศาสนาคริสต์ จากสมาชิกจำนวน 13 คนบนโต๊ะอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู หรือที่รู้จักกันในชื่อ "The last supper" ก่อนที่พระเยซูจะถูกจับตรึงกางเขนเสียชีวิตในวันศุกร์
แล้วบังเอิญว่าศุกร์นั้นตรงกับวันที่ 13 พอดี ยิ่งไปกันใหญ่ ผู้กำกับภาพยนตร์หัวใสได้โอกาสทอง นำมาทำเป็นภาพยนตร์เสียเลย เรื่องศุกร์ที่ 13 Friday the 13th ดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลก ทำรายได้มหาศาล แม้กระทั่งในเมืองไทย น่าจะยังพอจำกันได้
เลข 13 จึงฝังใจว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเลวร้าย คนจิตอ่อนบางคนกลัวจนถึงกับกลายเป็นโรค โรคกลัวเลขสิบสาม ทางการแพทย์เรียก triskaideka phobia
หากสังเกตบางสถานที่ เราจะไม่เห็นห้องพักหมายเลข 13 ตามโรงแรม จะใช้หมายเลข 12A แทน แป้นกดลิฟต์บางแห่งก็ทำนองเดียวกัน ชั้น 13 มักหายไป
ประเทศไทยเรากลัวเลข 13 น้อยกว่าเลข 6 โดนเฉพาะกับรถยนต์ ต้องหาป้ายทะเบียนที่ไม่มีเลข 6 รวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นจะเป็นเลขอะไรก็ได้
เคยถามคนที่มีความเชื่อเรื่องนี้ เขาบอกว่า 6 ออกเสียงพ้องกับหกคะเมนตีลังกา ทะเบียนรถยนต์ที่มีเลข 6 บางคนเชื่อว่าเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อมีความเชื่อเรื่องตัวเลข กรมขนส่งทางบกจึงจัดประมูลเลขสวย ทำรายได้เข้ากรมปีละไม่น้อย
ต่อไปเลข 14 จะเป็นลัคกี้นัมเบอร์ตัวใหม่ที่กำลังมาแรง เผลอๆอาจจะแซงเลข 6 ขึ้นมาอยู่ลำดับที่หนึ่งก็เป็นไปได้
ความเป็นมาของเลข 14 ไทยลัคกี้นัมเบอร์ เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้ย้ายนักโทษชายที่ป่วยขั้นวิกฤต ตามที่กรมราชทัณฑ์ได้แถลงข่าว ไปที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ผู้คนในสังคมมีข้อสงสัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ อำนวยความสะดวก เอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษรายนี้หรือไม่
กระบวนการแสวงหาความจริงจึงเริ่มขึ้น คณะกรรมาธิการการตำรวจในสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูในห้องพักผู้ป่วย จึงไม่พบผู้ป่วย ทำให้สรุปไม่ได้ว่ามีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่จริงหรือเปล่า
องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ อย่างคณะกรรมการสิทธิมนุษย์แห่งชาติ ป.ป.ช. แพทยสภา ผู้ตรวจการแผ่นดิน แม้กระทั่งศาลฎีกา ต่างก็ได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบความจริงในกรณีชั้น 14
ประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจ อยากได้คำตอบไวๆ แต่ก็ยังไม่มีองค์กรใดให้คำตอบได้
จากคำบอกเล่าของพยานที่ไปให้การกับ ป.ป.ช. บอกว่าเคยได้เข้าไปพบผู้ป่วยรายนี้ที่ชั้น 14 มา 2 ครั้ง แต่ไม่พบว่ามีผู้คุมนักโทษ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีผู้คุมนักโทษจำนวน 2 นาย ดูแลความปลอดภัยและป้องกันการหลบหนีตลอด 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด
ทางแพทยสภาก็กำลังพิจารณาจรรยาบรรณแพทย์ผู้ทำการรักษาและรับรองอาการผู้ป่วยรายนี้ ว่าผิดจรรยาบรรณแพทย์หรือเปล่า
หากผลออกมาว่าไม่ผิด ก็คงเป็นงานหนักของแพทยสภาที่จะต้องตอบข้อสงสัยของสังคมให้เข้าใจ หรือหากออกมาว่าผิด ก็จะมีผลต่อกระบวนการย้ายที่คุมขังนักโทษโดยผิดกฎหมาย ใครต่อใครที่เกี่ยวข้องอาจต้องถูกลงโทษเพิ่มอีกหลายคน
งานนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่ มีความสำคัญมากต่อกระบวนการยุติธรรมของชาติ ที่จะเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต
หลายคนใจจดใจจ่อรอคอยคำตอบ เกือบทุกสำนักข่าวเกาะติดเรื่องนี้มาตลอดแบบกัดไม่ปล่อย ทุกคนอยากรู้ว่าความลึกลับดำมืดที่ถูกปกปิดอยู่ในชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ มันเป็นอย่างไรกันแน่
อาถรรพ์หมายเลข 14 ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อศาลฎีกาได้นัดให้ผู้ร้องไปฟังคำสั่งศาลในวันที่ 30 เมษายนนี้ จากกรณีที่ได้ยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ จับนักโทษที่กรมราชทัณฑ์ย้ายออกไปจากเรือนจำไปพักที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ขออนุญาตศาล กลับไปขังในเรือนจำตามคำพิพากษา
มหากาพย์เรื่องนี้ ลึกลับซับซ้อน สร้างความตื่นเต้นยิ่งกว่าดูหนังเจมส์บอนด์ 007 เสียอีก ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร แฮปปี้ หรือแซดดี้ เดายาก
อาจจะสยองกว่าลัคกี้นัมเบอร์หมายเลข 13 ของฝรั่ง ก็มีโอกาสเป็นไปได้
ไม่แน่ในอนาคต อาจจะได้ดูภาพยนตร์เรื่อง อาถรรพ์หมายเลข #14 Thai Lucky Number 14th. ที่โด่งดังไปทั่วโลก
กลายเป็นซอฟเพาเวอร์ก็ได้ ใครจะรู้..?
โดย.. พี่ชื่อวิช
missiontothemoon
การเมือง
เศรษฐกิจ
บันทึก
2
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย