28 เม.ย. เวลา 07:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ผู้ชนะที่แท้จริงของสงคราม: นายธนาคาร ไม่ใช่นักรบ!

ทุกครั้งที่ระเบิดลูกแรกดังขึ้น... ทหารนับแสนนับล้านถูกผลักเข้าสู่สนามรบ แต่คนที่นั่งจิบไวน์ในห้องประชุมหรูหรา กลับเป็นผู้กอบโกยผลกำไรจากความตายเหล่านั้น
สงคราม สำหรับคนธรรมดาคือหายนะ
แต่สำหรับ "เจ้าของเงิน" มันคือ โอกาสทอง ที่ไม่มีธุรกิจไหนเทียบได้
"ให้ข้าควบคุมเงินของประเทศ แล้วข้าไม่สนใจว่าใครจะออกกฎหมาย"
— Mayer Amschel Rothschild, ต้นตระกูล Rothschild
เบื้องหลังสงคราม: ธุรกิจการเงินที่ซ่อนอยู่
ตลอดประวัติศาสตร์ มหาอำนาจเบื้องหลังสงครามไม่ใช่แค่กษัตริย์ ไม่ใช่แม่ทัพ แต่คือนายธนาคารที่ปล่อยกู้ให้รัฐบาลทั้งสองฝ่าย.
เมื่อรัฐจะทำสงคราม แต่ขุมคลังร่อยหรอ พวกเขาต้องหันหน้าไปหา "แหล่งเงิน" — และแหล่งเงินนั้นย่อมไม่ให้ฟรีๆ
เงินกู้ = หนี้ + ดอกเบี้ย + พันธะสัญญาอันยาวนาน.
สงครามที่ดูเหมือนจะจบลงที่สนามรบ แท้จริงแล้วเพิ่งเริ่มต้น "สงครามทางการเงิน" ที่ประชาชนจะต้องแบกรับไปอีกหลายชั่วอายุคน ผ่านการเก็บภาษี มาตรการรัดเข็มขัด และการสูญเสียอธิปไตยทางเศรษฐกิจ.
การปฏิวัติฝรั่งเศส: จุดเริ่มต้นของระเบียบโลกใหม่
ย้อนกลับไปช่วงปลายศตวรรษที่ 18
ฝรั่งเศส คือประเทศที่มั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป แต่ภายในประเทศกลับเต็มไปด้วยหนี้สินจากการสนับสนุนสงครามต่างๆ เช่น สงครามเจ็ดปี และการสนับสนุนการปฏิวัติอเมริกา
1
ในขณะเดียวกัน คริสตจักร ยังมีอำนาจเหนือชีวิตและเศรษฐกิจ ด้วยการห้ามการปล่อยกู้ดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นบาปร้ายแรง
ที่นี่เอง... Illuminati ซึ่งก่อตั้งโดย Adam Weishaupt ด้วยเป้าหมายโค่นล้มอำนาจศาสนาและราชวงศ์ ผนึกกำลังกับ ตระกูล Rothschild นายธนาคารที่กำลังเติบโตอย่างเงียบๆในเยอรมนี.
พวกเขาใช้ "การปฏิวัติ" เป็นเครื่องมือทำลายระบบเก่า เปิดทางให้
• กฎหมายใหม่ที่อนุญาตการเก็บดอกเบี้ยเสรี
• การสร้างระบบธนาคารกลาง
• การควบคุมการเงินของชาติผ่านหนี้สาธารณะ
การปฏิวัติสำเร็จ — กษัตริย์หลุยส์ที่ 16 ถูกตัดหัว — และประชาชนก็ "เสรี"... เสรีที่จะกลายเป็นลูกหนี้ตลอดชีวิต
สงครามในยุคปัจจุบัน: เครื่องจักรเงินตราที่ยังไม่หยุดทำงาน
รูปแบบของเกมเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี แต่หัวใจของมันยังเหมือนเดิม.
สงครามอิรัก: ถูกเปิดด้วยข้ออ้าง "อาวุธทำลายล้างสูง" ที่ไม่เคยพบ แต่ธุรกิจน้ำมันและบริษัทรับเหมาการทหารได้กำไรนับพันล้านดอลลาร์.
วิกฤติยูเครน: ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างต้องพึ่งพาเงินกู้และการสนับสนุนทางการเงินมหาศาลจากธนาคารและองค์กรการเงินข้ามชาติ.
ใครก็ตามที่ขายอาวุธ อุปกรณ์การสื่อสาร ดาวเทียม...ย่อมทำเงินมหาศาล
ในขณะที่ประชาชนต้องทนทุกข์กับราคาพลังงานที่พุ่งสูง หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่กัดกินชีวิตประจำวัน
หากสงครามโลกครั้งใหม่ปะทุ: ใครจะรวยที่สุด?
หากในปี 2025 หรืออีกไม่กี่ปีข้างหน้าเกิดความขัดแย้งระดับโลกอีกครั้ง
กลุ่มธุรกิจและสินทรัพย์ต่อไปนี้จะ "ได้ประโยชน์" สูงสุด
• อุตสาหกรรมอาวุธ: Lockheed Martin, Raytheon, BAE Systems, Northrop Grumman
• เทคโนโลยีไซเบอร์: บริษัทที่พัฒนา AI, Cybersecurity, ดาวเทียม, และระบบสื่อสารปลอดภัย
• พลังงาน: น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานทางเลือก
• ทองคำและเงิน: สินทรัพย์ที่คนแห่ซื้อเมื่อความไม่แน่นอนสูง
• คริปโตเคอร์เรนซี: โดยเฉพาะเหรียญที่ไม่ขึ้นตรงกับรัฐบาล เช่น Bitcoin, Monero
สรุป: หมากเกมที่ต้องมองให้ขาด
สงคราม คือ "การลงทุน" ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด สำหรับผู้ที่เข้าใจมันลึกซึ้ง.
ทุกครั้งที่มีข่าวลือสงคราม หุ้นบริษัทอาวุธพุ่ง. ราคาทองคำพุ่ง. บริษัทปล่อยเงินกู้เริ่มขยับตัว.
มันไม่เคยเกี่ยวกับ "ชาติ" หรือ "ศักดิ์ศรี" จริงๆเลย.
มันคือเรื่องของ กำไรและอำนาจ เท่านั้น.
อย่าเป็นแค่ทหารเดินเท้าในเกมของพวกเขาอีกต่อไป
จงเป็นผู้ที่อ่านเกมออก และเตรียมตัวให้พร้อม.
"เมื่อรู้ว่าศัตรูไม่ใช่ศัตรูที่สนามรบ แต่คือผู้ที่คอยส่งเงินไปทั้งสองฝั่ง คุณจะไม่มองสงครามแบบเดิมอีกต่อไป"
#แฉเบื้องหลังสงคราม #สงครามคือธุรกิจ #ธุรกิจการเงินมืด #Rothschild #Illuminati #ธุรกิจอาวุธ #ธุรกิจสงคราม #ความจริงที่โลกไม่อยากให้คุณรู้ #แผนลับโลก #seamanlife #SeamanInvester #seaman #tkmoments #คนเรือหัวหมอ
โฆษณา