Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ณัฐมาคุย
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 08:12 • ข่าวรอบโลก
เมื่อเวลาประมาณ 11 โมงครึ่งตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ สเปนและโปรตุเกสได้เกิดไฟฟ้าดับเกือบทั่วประเทศ
และบางพื้นที่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสก็มีรายงานว่าได้รับผลกระทบบ้าง แต่รายงานระบุว่าไฟฟ้าก็ได้กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายพื้นที่ก็มีไฟฟ้าดับติดต่อกันหลายชั่วโมง
ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่ทางผู้ให้บริการคาดว่าอาจจะเกิดจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ หรือไม่ก็ cyberattack จนทำให้โครงข่ายไฟฟ้าล่ม
เรื่องนี้มีบทเรียนที่น่าสนใจหลายเรื่อง
💡อย่าพึ่งดิจิทัลมากเกินไป
ไฟฟ้าดับยาวๆ และทั่วประเทศแบบนี้ เรายังไม่ค่อยเคยเจอ เราเลยจินตนาการไม่ค่อยออก แต่ลองคิดดูว่าถ้าเกิดกับเราบ้าง รถไฟฟ้าใช้ไม่ได้ รถ EV ชาร์จไฟไม่ได้ โทรศัพท์ใช้การไม่ได้ เน็ตไม่มี พร้อมเพย์ใช้งานไม่ได้ แอร์ไม่ทำงาน ลิฟท์ใช้งานไม่ได้ สนามบินปิด 7-11 ปิด เราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร ขนาดแค่แผ่นดินไหวนิดเดียว ชาวกรุงอย่างเราๆ ชีวิตก็แทบเป็นอมพาตแล้ว สำหรับชาวบ้านในต่างจังหวัด ชีวิตเขาอาจจะไม่ได้กระทบมาก
ในสเปน ไฟฟ้าดับนานเกือบ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว พอไฟฟ้ากลับมาคนโห่ร้องยินดีกันแบบเพิ่งเข้าใจความสำคัญของไฟฟ้า
💡การพึ่งพาไฟฟ้าแบบที่ไม่ใช้กังหันมากเกินไป
เรื่องนี้ผมเคยเล่านานแล้ว โครงข่ายไฟฟ้าในอดีตพึ่งพาไฟฟ้าจากน้ำ น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งต่างก็ใช้การหมุนของกังหันในการปั่นไฟฟ้า การหมุนของกังหันขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยตรง ความเร็วในการหมุนของกังหันเหล่านี้จะถูกทำให้สอดคล้อง (ซิงโครไนซ์) กับความถี่ของโครงข่ายไฟฟ้าอัตโนมัติ (50 หรือ 60 Hz ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ) ความถี่ของโครงข่ายไฟฟ้าจึงเชื่อมโยงโดยตรงกับพลังงานการหมุนของกังหัน
หากความถี่ลดลง หมายความว่าโหลดบนโครงข่ายเกินกว่ากำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่เชื่อมต่ออยู่ โรงงานไฟฟ้าก็จะเร่งกังหันให้เร็วขึ้นเพื่อเพิ่มกระแสเข้าระบบ
ในทางกลับกัน พอการใช้ไฟลดลง จะทำให้มีพลังงานเหลือ พลังงานส่วนเกินนั้นจะถูกดูดซับเข้าไปในรูปของพลังงานการหมุน ทำให้กังหันหมุนเร็วขึ้น ซึ่งทางโรงงานก็สามารถลดพลังงานที่ป้อนให้กับกังหันลง
นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้ทราบ นึกว่าการบริหารโครงข่ายเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต่างกับน้ำประปา ใครผลิตก็แค่เติมใส่ท่อเข้าไป จริงๆ มันซับซ้อนกว่านั้นมาก
คราวนี้ พอมาเป็นไฟฟ้าหมุนเวียน ไฟฟ้าส่วนใหญ่เช่นโซลาร์เซลล์ถูกผลิตเป็นกระแสตรง แล้วค่อยใช้ระบบ inverter ในการแปลงไฟฟ้ากลับมาเป็นกระแสสลับ ซึ่งไม่ได้ใช้กังหันแบบนี้ จึงไม่มีระบบที่สามารถใช้ประโยชน์จากความเฉื่อยได้ แถมกำลังไฟฟ้ายังมีความผันผวนสูง พอแสงหมด ลมหมด ก็จะส่งผลกระทบมาก หากมีกำลังการผลิตสำรองไม่เพียงพอ
อีกฝั่งคือการใช้ไฟฟ้า มันไม่ได้ปรับได้ไวขนาดนั้น และไม่ค่อยเหมือนน้ำประปา คือ ถ้าคนใช้เยอะ แต่น้ำน้อย น้ำยังคงใช้ได้ แค่อ่อนๆ เท่านั้น พอกำลังผลิตลดลงต่ำกว่าการใช้ไฟ มันจะพาเอาระบบล่มกันไปหมด และด้วยความที่ระบบมันเชื่อมต่อกัน มันจึงสามารถเกิดปัญหาในวงกว้างได้ง่าย
มันจึงเริ่มมีการพูดถึงการเปลี่ยนระบบส่งไฟฟ้าแบบโบราณให้เป็น smart grid และ microgrid ให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว
สำหรับกระบวนการฟื้นฟูระบบหลังเกิดเหตุนั้นวุ่นวายมาก ต้องมีการทำสิ่งที่เรียกว่า load shedding คือการตัดความต้องการไฟฟ้าออก ให้ต่ำลง จนกระทั่งกำลังการผลิต และการใช้ไฟสอดคล้องกัน และค่อยๆ เติมกำลังการผลิต และนำการใช้ไฟกลับมาตามลำดับ ซึ่งในบางครั้งใช้เวลานานหลายชั่วโมง และในบางครั้งต้องมีการปิดระบบทั้งหมด และค่อยรีสตาร์ทใหม่กันเลยทีเดียว โดยมักจะเรียกกระบวนนี้ว่า black start
กระบวนการนี้ต้องใช้เทคนิคที่เรียกว่า bootstrapping เริ่มจากต้องมีโรงไฟฟ้าที่มีกำลังพอที่จะเป็นตัวตั้งต้นในการผลิตไฟฟ้าส่วนหนึ่ง (black start source) และสร้างความถี่ที่สามารถคงรูปได้ ก่อนที่จะค่อยๆ เริ่มโรงไฟฟ้าอื่น (base load plant) กลับเข้ามาในระบบ โดยอ้างอิงความถี่จากไฟฟ้าที่มีอยู่ในระบบก่อนหน้าไปเรื่อยๆ จนระบบกลับมาเป็นปกติ
ถ้าเกิดในประเทศไทยบ้าง ผมเชื่อว่า เราเละแน่ๆ ครับ
และนี่เป็นหนึ่งในจุดอ่อนของการพึ่งพาไฟฟ้าหมุนเวียน โดยไม่ได้ปรับโครงสร้างพื้นฐานของโครงข่ายให้รองรับปัญหานี้ให้ดีก่อน ในวันปกติ ทุกอย่างอาจจะเป็นปกติ แต่พอมีอะไรผิดปกติ ระบบก็อาจจะล่มเป็นโดมิโน เหมือนตึก สตง. ได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
ผมไม่ได้มีความรู้มากในเรื่องนี้ เลยอาจจะอธิบายได้ไม่ค่อยดีมาก แต่เห็นว่าน่าสนใจดี เลยเอามาแบ่งปันกันครับ มีอะไรแนะนำให้แก้ บอกได้ครับ
ใครที่สนใจรายละเอียด ตามไปชมรายการนี้ได้
เยี่ยมชม
youtube.com
What Is A Black Start Of The Power Grid?
A summary of the challenges with starting a grid back up from total collapse.The grid is a little bit of a house of cards. It’s not necessarily flimsy, but i…
บันทึก
5
2
5
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย