ความชุกของโรคเชื้อราที่เท้าในเด็กมีความแตกต่างกันอย่างมาก
การทบทวนงานวิจัยอย่างเป็นระบบซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษา 29 ชิ้น พบว่าความชุกของโรคเชื้อราที่เท้า (Tinea Pedis) ในประชากรเด็ก (อายุ 0-19 ปี) มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีอัตราตั้งแต่ 0.03% ถึง 15.6% นอกจากนี้ยังพบความแตกต่างในด้านข้อมูลประชากรและภูมิศาสตร์ โดยเชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes โดยเฉพาะ Trichophyton rubrum เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการติดเชื้อ
นักวิจัยได้ทำการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบจากการศึกษา 29 ชิ้น ที่ตีพิมพ์จนถึงเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งครอบคลุมประชากรเด็กตั้งแต่ 321 ถึง 8,122 คน ในหลายประเทศ เช่น สเปน เดนมาร์ก ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย โคลอมเบีย และแทนซาเนีย (ไม่มีการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา) กลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 12.6 ปี โดยเป็นเด็กชายประมาณ 52.6% การศึกษาส่วนใหญ่เป็นการศึกษาภาคตัดขวางในกลุ่มเด็กนักเรียน
การวินิจฉัยใช้วิธีการตรวจร่างกาย การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ และการเพาะเชื้อ โดย 72.4% ของการศึกษาใช้วิธีการทั้งสามเพื่อยืนยันผลทางเชื้อรา ผู้ทำการตรวจทางคลินิกประกอบด้วยแพทย์ผิวหนัง (31%), พยาบาล (10%), ครูที่ผ่านการฝึกอบรมพิเศษ (3%), นักจุลชีววิทยา (3%), แพทย์ที่ไม่ใช่แพทย์ผิวหนัง (6%), เจ้าหน้าที่สาธารณสุข (3%) และกุมารแพทย์ (6%)
ผลการศึกษาที่สำคัญ
อัตราความชุก: ความชุกของโรคเชื้อราที่เท้าในการศึกษาต่างๆ อยู่ในช่วง 0.03% ถึง 15.60% อัตราความชุกสูงสุดพบในการศึกษาที่ตีพิมพ์หลังปี 2000
เชื้อก่อโรค: เชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes เป็นสาเหตุถึง 96% ของการติดเชื้อ โดย Trichophyton rubrum เป็นเชื้อที่พบมากที่สุด (53%) ตามมาด้วย Trichophyton mentagrophytes (42%)
ปัจจัยทางภูมิศาสตร์: การวิเคราะห์ทางภูมิศาสตร์พบว่ามีความชุกสูงสุดในแถบเส้นศูนย์สูตร การศึกษาจากประเทศตุรกีแสดงให้เห็นความแปรปรวนที่น่าสนใจ โดยมีอัตราตั้งแต่ 0.27% ถึง 15.6%
ปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจ: พบอัตราความชุกสูงกว่าในพื้นที่ชนบทและในกลุ่มที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำ เมื่อเทียบกับพื้นที่ในเมือง ซึ่งบ่งชี้ว่าสภาพแวดล้อมของการศึกษามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการติดเชื้อ
ผู้เขียนงานวิจัยเน้นย้ำว่า "บุคลากรทางการแพทย์ควรตระหนักถึงการวินิจฉัยโรคเชื้อราที่เท้าในเด็กอยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การป้องกันและการรักษา" พวกเขายังตั้งข้อสังเกตว่า "จำเป็นต้องมีการวิจัยที่ครอบคลุมและเป็นมาตรฐานมากขึ้น เพื่อระบุความชุกที่แท้จริงของโรคเชื้อราที่เท้าในประชากรเด็ก"
การศึกษาที่นำมาทบทวนยังขาดวิธีการวินิจฉัยที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้การเปรียบเทียบผลมีความซับซ้อน นอกจากนี้ การศึกษาจำนวนมากไม่ได้ระบุชนิดของเชื้อก่อโรค และช่วงอายุของผู้เข้าร่วมยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด
การศึกษานี้นำโดย Joanna Elisabeth Bjerg Stenderup จากภาควิชาตจวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซีแลนด์ เมืองรอสกิลด์ ประเทศเดนมาร์ก และได้รับการตีพิมพ์ออนไลน์ในวารสาร Pediatric Dermatology เมื่อวันที่ 14 เมษายน ผู้วิจัยไม่ได้รับทุนสนับสนุนเฉพาะสำหรับงานนี้ ผู้เขียนร่วมคนหนึ่งรายงานว่าได้รับทุนและค่าธรรมเนียมส่วนบุคคลจากบริษัทต่างๆ นอกเหนือจากงานที่ส่งมานี้
แหล่งอ้างอิง:
Varma, D. (Ed.). (2025, April 27). Tinea Pedis Prevalence in Children Varies Widely. Medscape Medical News.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
