29 เม.ย. เวลา 12:04 • ข่าวรอบโลก

🏦 Mastercard เปิดตัวบริการรับ-จ่ายด้วย Stablecoin ทั่วโลก

Mastercard launches stablecoin payment capabilities
🌐 สรุปเนื้อข่าวอย่างละเอียด
Mastercard ประกาศเปิดตัวบริการใหม่รองรับการใช้ Stablecoin ในการชำระเงินและธุรกรรมได้ “ทุกที่ทุกเวลา” ทั่วโลก ครอบคลุมบริการสำคัญ ได้แก่:
✅ การเปิดใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet enablement)
✅ การออกบัตร (Card issuing)
✅ การชำระเงินกับร้านค้า (Merchant settlement)
✅ การโอนเงินผ่านบล็อกเชน (On-chain remittances)
✅ การเสริมสร้างระบบการชำระเงินและการค้า (Payment & commerce applications)
🤝 ความร่วมมือครั้งนี้มีการจับมือกับบริษัทคริปโตชั้นนำ เช่น MetaMask, Kraken, Gemini, Bybit, Crypto.com, Binance, Monavate และ Bleap
ผู้ใช้งานจะสามารถใช้ Stablecoin ที่มีอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อชำระเงินและรับสิทธิประโยชน์ผ่านบัตร Mastercard ที่ร้านค้าทั่วโลกที่รับบัตรได้
🏦 บริการ Mastercard Move ยังช่วยให้ถอน Stablecoin ออกมาเป็นเงินเข้าบัญชีธนาคารได้โดยตรง
✨ ไฮไลท์พิเศษคือการเปิดตัว OKX Card ร่วมกับ OKX ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับสินทรัพย์ดิจิทัลในโลก Web3 ได้ง่ายขึ้น
📈 ด้านฝั่งผู้ค้า (Merchant) Mastercard ร่วมกับ Nuvei และ Circle เพื่อให้ร้านค้าสามารถรับชำระเงินด้วยเหรียญ Stablecoin อย่าง USDC ได้โดยตรง และมีการขยายไปยังเหรียญของ Paxos ด้วย
🔒 ส่วน Mastercard Crypto Credential ช่วยให้ผู้ใช้แพลตฟอร์ม Exchange สามารถโอนเงินโดยใช้แค่ Username แทน Address ที่ซับซ้อนได้ ซึ่งมีหลายบริษัทเข้าร่วมแล้ว เช่น Wirex, Bit2Me, Lirium, Notabene, Coins.ph และ Mercado Bitcoin
🪙 นอกจากนี้ Mastercard Multi-Token Network (MTN) ยังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการจ่ายเงินแบบเรียลไทม์ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีพันธมิตรอย่าง JPMorgan Chase และ Standard Chartered เชื่อมโยงระบบบัญชีเงินฝากกับสินทรัพย์ดิจิทัล
🗣️ Jorn Lambert, CPO ของ Mastercard กล่าวอย่างน่าสนใจว่า
“เรามองเห็นศักยภาพของ Stablecoin ในการพลิกโฉมวงการการชำระเงินและการค้า... เพื่อเปิดเสรีให้กับผู้บริโภคและธุรกิจทั่วโลก”
📌 การวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในไทย
🇹🇭 1. กระตุ้นการยอมรับคริปโตและ Stablecoin ในภาคการค้าปลีกไทย
ไทยมีร้านค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รับ Mastercard จำนวนมาก เช่น Shopee, Lazada, 7-Eleven, Lotus’s และสายการบินอย่าง Thai Airways หากระบบใหม่นี้ขยายตัว ผู้บริโภคในไทยจะมีทางเลือกชำระเงินผ่าน Stablecoin ได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจเร่งให้เกิดกระแสคริปโตเมนสตรีมในไทยเร็วขึ้นกว่าที่คาด
🇹🇭 2. กดดันธนาคารไทยให้ต้องพัฒนา Digital Asset Infrastructure
ธนาคารไทย เช่น SCB, KBANK, KTB ที่มีโครงการเกี่ยวกับดิจิทัลอยู่แล้ว อาจต้องเร่งปรับตัวด้านการเชื่อมต่อระบบ Stablecoin เข้ากับบัญชีลูกค้า เพื่อแข่งขันกับระบบใหม่นี้ และอาจมีการจับมือกับ Mastercard หรือพาร์ตเนอร์ในอนาคต
📈 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย
📌 กลุ่มที่อาจได้ประโยชน์
SCB (SCB X Public Company Limited) — มีการลงทุนใน Bitkub และเดินหน้าธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่แล้ว การเชื่อมต่อกับ Mastercard อาจช่วยเสริมศักยภาพ
KBANK (Kasikornbank Public Company Limited) — มีการพัฒนา KBTG (Kasikorn Business-Technology Group) ด้านบล็อกเชนและ Stablecoin payment อยู่ก่อนแล้ว
KTC (Krungthai Card Public Company Limited) — ผู้ให้บริการบัตรเครดิต อาจได้ประโยชน์จากระบบจ่าย Stablecoin ผ่าน Mastercard
📌 กลุ่มที่อาจได้รับแรงกดดัน
ธนาคารที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวชัดเจนในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น BBL (Bangkok Bank) และ TTB (TMBThanachart Bank) — อาจเผชิญแรงกดดันจากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เริ่มมองหาทางเลือกการชำระเงินด้วย Stablecoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลให้สูญเสียฐานลูกค้ากลุ่ม early adopters หากยังไม่เร่งปรับกลยุทธ์
ผู้ให้บริการ Payment Gateway ไทยที่ไม่สามารถรองรับ Stablecoin ได้ทัน — เช่น 2C2P, Omise อาจต้องเร่งพัฒนาระบบรองรับเพื่อไม่ให้เสียส่วนแบ่งตลาด
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#WorldScope #DigitalRails #Mastercard #Stablecoin #CryptoPayments #Blockchain #ThailandImpact
📚 Reference
Electronic Payments International – Mastercard launches stablecoin payment capabilities

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา