Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
AngRin Diary
•
ติดตาม
4 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น
ชีวิตที่ผ่านมาของฉันมันก็คงมีรสชาติแบบนั้นแหละ 🍊
ฉันดูซีรี่ส์ “When Life Gives You Tangerines ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน” แล้วนึกถึงแม่ของฉัน เพราะตัวละครแอซุนเกิดปี 1950 ปีเดียวกับแม่ฉันเลย แถมยายของฉันก็ตายตอนอายุ 29 เท่าอายุแม่ของแอซุนตอนตายอีก ชีวิตวัยเด็กของแม่ฉันก็ลำบากและกำพร้าเหมือนแอซุนเช่นกัน
แล้วลูกสาวคนโตของแอซุน (กึมมยอง) ยังเกิดปี 1968 ปีเดียวกับพี่สาวคนโตของฉันด้วย - ช่วงปี 1988 โอลิมปิคฉันจำไม่ค่อยได้ เพราะฉันไม่ค่อยสนใจกีฬา แต่วิกฤตต้มยำกุ้งปี 1997 ฉันจำได้ดี เพราะทำให้ฉันหางานทำไม่ได้ไปหลายปี ตอนนั้นฉันกำลังเรียนปริญญาตรีและทำงานไปด้วย แต่ต้องลาออกเพราะที่ทำงานอยู่ไกล หลังจากนั้นก็เงินบาทลอยตัวแล้วฉันก็หางานทำไม่ได้อีกเลย มีปัญหาเรื่องหางานทำเหมือนอึมมยองลูกชายแอซุนแล้วก็โกรธ IMF เหมือนกัน 😆
ฉันคิดว่าฉันมีส่วนคล้ายอึมมยองอยู่เหมือนกันนะ คือน้อยใจพ่อแม่ พ่อแม่รักพี่คนโตมากกว่า แต่ก็อยากประสบความสำเร็จ อยากให้พ่อแม่มองเห็นบ้าง พอดูจบฉันก็เลยอยากรู้ว่าในปีที่แอซุนและแม่ฉันเกิด และปีอื่น ๆ ที่ฉันรู้สึกอินมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างทั้งที่เกาะเชจูและที่ไทย พอลองหาข้อมูลดูก็สนุกดีนะ มีเหตุการณ์น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
เริ่มที่ปี 1950 แม่ฉันเกิดมาในตำบลเล็ก ๆ ในจังหวัดชัยนาท เกาะเชจูในตอนนั้นก็มีการเกิดสงครามเกาหลี ในช่วงกลางปี 1950 เริ่มต้นขึ้นจากกองทัพเกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ ประชาชนบางส่วนที่ไม่ต้องการสงครามหรือถูกกดขี่จากทั้งสองฝ่ายได้หนีไปยังเกาะเชจู เหมือนในซีรีส์ตอนที่สาว ๆ แฮนยอคุยกันว่าลี้ภัยสงครามมา
1
ส่วนฝั่งไทยเราในช่วงเวลานั้นก็กำลังได้รับผลกระทบจากสงครามเกาหลี โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนฝ่ายสหรัฐอเมริกาและเป็นสมาชิกของสหประชาชาติในปฏิบัติการเพื่อช่วยเกาหลีใต้ ในขณะเดียวกันก็เริ่มมีการสนับสนุนด้านทหารและการรับผู้ลี้ภัยจากสงครามเกาหลี
แม่ฉันต้องกำพร้าแม่ตอนที่มีอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น พออายุ 12 ปี ตาก็พาแม่ฉันนั่งเรือจากชัยนาทเข้ากรุงเทพฯ ใช้เวลานั่งเรือถึงสองวันและมาขึ้นเรือที่ท่าพระจันทร์ แม่ฉันทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และแต่งงานกับพ่อฉัน แต่ไม่ได้โรแมนติกแบบแอซุนกับกวานชิกหรอกนะ 😆
ปี 1968 พี่สาวคนโตของฉันก็ลืมตาดูโลกปีเดียวกับที่กึมมยองเกิด ในปีนั้นฝั่งเกาหลีก็มีความตึงเครียดทางการเมืองและการทหารระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ส่วนไทยเราเองก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคม เป็นปีที่ได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจัดตั้งระบบรัฐสภาแบบสองสภา ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ ฉันก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่สาวฉันเกิดในปีที่ประเทศเรามีการเปลี่ยนแปลงเยอะขนาดนี้เลย
1
ปี 1988 โอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงโซล เกาะเชจูในซีรีส์ดูวุ่นวายกับการจัดเส้นทางให้คบเพลิงโอลิมปิควิ่งผ่าน ซึ่งตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปีนั้น เกาะเชจูเป็นจุดเริ่มต้นของการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก โดยคบเพลิงโอลิมปิกมาถึงสนามบินนานาชาติเชจูวันที่ 27 สิงหาคม 1988 และเริ่มการวิ่งคบเพลิงบนเกาะเชจู ก่อนจะเดินทางต่อไปยังแผ่นดินใหญ่ของเกาหลีใต้ เขาให้ความสำคัญกับเกาะเล็ก ๆ นี้ หวังว่าเบื้องหลังคงไม่วุ่นวายเหมือนในซีรีส์นะ 😅
ส่วนไทยเราก็ได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 14 คน ใน 4 ประเภทกีฬา ได้แก่ กรีฑา มวยสากล ยิงปืน และเรือใบ โดยในพิธีเปิดมี พี่ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก (นางงามจักรวาลปี 1988) ร่วมเดินขบวนกับนักกีฬาไทยด้วย ฉันจำกีฬาอะไรไม่ได้เลย จำได้แต่พี่ปุ๋ยสวยมากกก 😊
1
ปี 1997 ต้มยำกุ้ง วิกฤตที่ทำให้คนล้มทั้งยืน ส่วนคนที่กำลังจะยืนก็ยืนไม่ได้ไปอีกหลายปี…อย่างฉันนี่ไง เป็นปีที่จำไม่ลืมเพราะฉันหางานทำไม่ได้เลยสักแห่ง เลยเอาหนังสือสมัครงานมาทำงานเปเปอร์มาเช่ขายตามตลาดนัดซะเลย โดยมีแม่ฉันไปช่วยขายทุกที่ เป็นปีที่พวกเราได้รู้จักคำว่า “SME” เป็นอาชีพเล็ก ๆ ของคนธรรมดา ที่มีธุรกิจได้ไม่ต้องใหญ่โตโก้หรู และ “ตลาดเปิดท้ายขายของ” ที่ผู้คนจะนำของใช้มาใส่ท้ายรถยนต์ส่วนตัวและขายในราคาไม่แพง
1
กรอบรูปเปเปอร์มาเช่ที่ฉันทำขายในปี 1997 เพื่อนพี่สาวของฉันซื้อไปและยังเก็บเอาไว้ในสภาพดีมากจนถึงทุกวันนี้
บรรยากาศช่วงนั้นก็คึกคักและอบอุ่นอยู่นะ แต่ก็ปนความรู้สึกแบบกลืนเลือดตัวเองกันอยู่นิด ๆ เช่นกัน อบอุ่นที่เราเหมือนกำลังจะตาย แต่ไม่นะ…พวกฉันไม่ยอมตาย! คนไทยก็ยังช่วยอุดหนุนกัน แม้แต่ละคนจะเจ็บเล็ก ๆ หรือเจ็บลึก ๆ แต่พวกเราก็ผ่านวันเวลาช่วงนั้นมาได้รวมถึงตัวฉันด้วย
1
ฝั่งเกาหลีก็คงเจ็บหนักพอ ๆ กับเรา เขาก็มีการบริจาคทองคำให้รัฐบาลนำไปใช้หนี้ IMF เหมือนที่ในซีรีส์พูดถึง และเหมือนที่เราก็มีโครงการ “ผ้าป่าช่วยชาติ” ของหลวงตามหาบัว ที่ทำต่อเนื่องมาหลายปีและได้มอบทองคำและเงินเข้าสู่คลังหลวงเป็นจำนวนมากมายทีเดียว
ซีรีส์เรื่องนี้พาฉันย้อนกลับไปมองชีวิตของแม่และตัวฉันเอง แล้วความทรงจำต่าง ๆ มันก็ท่วมท้นขึ้นมา แล้วจะไม่ให้ฉันรักซีรีส์เรื่องนี้ได้ยังไงนะ แม้ว่าจนถึงวันนี้ฉันก็ยังคงไม่ใช่คนที่ตั้งตัวได้ และรู้สึกไม่ภูมิใจในตัวเองเท่าไหร่นัก บางวันก็เสียใจที่พูดไม่ดีกับแม่ แต่ถึงแม้จะเจ็บแต่ฉันก็เติบโตขึ้นมาได้นะ ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ฉันชวนแม่คุยเรื่องราวตอนที่แม่ยังเด็กมากขึ้น เวลาแม่ฉันเล่าถึงวัยเด็กฉันก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในตัวแม่เหมือนกัน
ที่จริงฉันชอบส้มที่อมเปรี้ยวนิด ๆ มากกว่าส้มหวาน ฉันว่ามันมีรสชาติในแบบของมันดี ชีวิตที่ผ่านมาของฉันมันก็คงมีรสชาติแบบนั้นแหละ เปรี้ยวนิด ๆ พอให้หยีตา เหลือแค่ฉันต้องยิ้มไว้แค่นั้นเอง…😊
English version on Medium :
เยี่ยมชม
medium.com
When Life Gives You Tangerines Made Me Reflect on My Mother, Myself, and History
Looking back, I guess that’s just the flavor of my life. 🍊
ไดอารี่
การใช้ชีวิต
ประวัติศาสตร์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย